เนื้อหาวันที่ : 2011-09-14 17:04:48 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1009 views

สมาคมยางพาราไทย จับมือAFET นำยางแท่งเข้าซื้อขายล่วงหน้า

          เมื่อวันที่ปลายเดือนส.ค. ที่ผ่านมา นายกสมาคมยางพาราไทยและกรรมการสมาคม พร้อมสมาชิกที่เป็นผู้ประกอบการยางขนาดใหญ่ ที่เป็นผู้ผลิตยางแท่ง ได้ร่วมกับผู้บริหารของตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (AFET) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า (สำนักงาน ก.ส.ล.) ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลการซื้อขายล่วงหน้าสินค้าเกษตร จัดการประชุมเพื่อกำหนดคุณสมบัติของสินค้ายางแท่ง STR 20 เข้าซื้อขายล่วงหน้าใน AFET ณ โรงแรมหรรษา เจบี หาดใหญ่

          นายประสาท เกศวพิทักษ์ ประธานกรรมการ AFET เปิดเผยว่า ปัจจุบันที่ความต้องการใช้ยางพารามีการขยายตัวในระดับสูงไปตามเศรษฐกิจโลกนั้น สินค้ายางแท่ง (STR 20) ซึ่งมีส่วนแบ่งมากที่สุดในกลุ่มสินค้ายางพาราที่ไทยส่งออกคือ 1.1 ล้านตันในปีที่ผ่านมา ก็มีการขยายตัวขึ้นเป็นอย่างมากเช่นกัน AFET จึงกำหนดที่นำสัญญาซื้อขายล่วงหน้ายางแท่งเข้ามาซื้อขาย เพิ่มเติมจากยางแผ่นรมควันชั้น 3 ที่มีการซื้อขายใน AFET อยู่แล้วในขณะนี้

ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าทุกฝ่าย สามารถเข้ามาใช้กลไกซื้อขายล่วงหน้าในการบริหารและป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของราคา ซึ่งจะส่งผลดีไปถึงเกษตรกรผู้เพาะปลูกในที่สุด

          ทพ.พงษ์ศักดิ์ เกิดวงศ์บัณฑิต นายกสมาคมยางพาราไทย ชี้ว่า ไทยยังคงระดับความเป็นผู้นำด้านการผลิตและส่งออกยางพาราของโลก และที่ผ่านมาผู้ประกอบการสินค้ายางพาราได้ใช้กลไกของการซื้อขายล่วงหน้าใน AFET ลดความเสี่ยงและเพิ่มศักยภาพทางการค้าให้เต็มประสิทธิภาพ

นอกจากนี้การที่ไทยซึ่งเป็นประเทศผู้ขายและส่งออกสินค้ามีตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าของเราเองนั้นมีส่วนช่วยเสถียรภาพราคาให้เกิดราคาอ้างอิงที่โปร่งใสเป็นธรรม ไม่ถูกกดดันราคาจากประเทศผู้ซื้อ ทั้งยังสามารถยกระดับราคาไปตามกลไกความต้องการของตลาดโลก

ซึ่งนับตั้งแต่ปี 2547 ที่มีการเปิด AFET เป็นต้นมาระดับราคายางอยู่ในระดับสูงเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งราคาที่ได้ปรับเพิ่มขึ้นนี้คิดเป็นมูลค่ามหาศาลและเป็นประโยชน์ในทางเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเกษตรกรผู้เป็นรากฐานของประเทศ ก็ได้รับประโยชน์จากกลไกราคาของ AFET ดังกล่าว เช่น การใช้ AFET มีผลทำให้ราคายางที่ขายได้เพิ่มขึ้นเพียง กก.ละ 1 บาท จากปริมาณส่งออก 3 ล้านตัน จะก่อให้เกิดรายได้เพิ่มให้เกษตรกรถึง 3,000 ล้านบาท

          ทั้งนี้ขณะที่ AFET และสมาคมยางพาราไทยได้ร่วมกันร่างกำหนดข้อกำหนดหรือสัญญาล่วงหน้ายางแท่ง (STR 20) เสร็จสิ้นแล้ว และคาดว่าจะเริ่มซื้อขายได้ในเดือนตุลาคมนี้