สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง คาดเศรษฐกิจไตรมาส 3 เติบโตดี จากภาคอุตสาหกรรมที่เริ่มฟื้นตัว บวกกับการเมืองเริ่มมีเสถียรภาพ แต่ยังเสี่ยงกับอัตราเงินเฟ้อต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
1. แบงค์ชาติชี้เศรษฐกิจครึ่งปีหลังฟื้นตัว
-ธปท.ประเมินเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังเริ่มดีขึ้น แม้ไตรมาส 2 ออกมาชะลอ ผลจากปัญหาห่วงโซ่อุปทานฟื้นสะท้อนจากยอดส่งออกเดือน ก.ค. 54 แต่เงินเฟ้อยังเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม ด้าน “ณรงค์ชัย” แนะแบงค์ชาติทำนโยบายแบบสมดุลดูแลเงินทุนเคลื่อนย้าย
-สศค. วิเคราะห์ว่า สถานการณ์เศรษฐกิจไทยในเดือน ก.ค. 54 ขยายตัวได้ดีในระดับสูง โดยได้รับแรงส่งหลักจากการส่งออก ที่ขยายตัวร้อยละ 38.3 รวมถึงการลงทุนภาคเอกชน และการบริโภคสินค้าคงทน อย่างไรก็ตาม ความชัดเจนทางการเมืองที่เริ่มมีเสถียรภาพ รวมถึงนโยบายและมาตรการต่างๆ จะมีส่วนช่วยในการกระตุ้นเศรษฐกิจยิ่งขึ้น เช่น นโยบายการลดค่าโดยสาร นโยบายชะลอการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน จะเป็นการช่วยลดแรงกดดันของอัตราเงินเฟ้อลงได้
โดยอัตราเงินเฟ้อในเดือน ก.ค. 54 อยู่ที่ร้อยละ 4.1 ทั้งนี้ แนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3 ปี 54 คาดว่าจะเติบโตได้ดีกว่าช่วงไตรมาสที่ผ่านมา เนื่องจากการผลิตในภาคอุตสาหกรรมที่กลับมาฟื้นตัวได้ดี โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์
2. เตือน เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก
-รัฐมนตรีคลังสิงคโปร์ กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยมากกว่าที่จะไม่เกิด ขณะที่เศรษฐกิจของสหรัฐและยุโรปมีอัตราการเติบโตที่หยุดชะงักลง ซึ่งขณะนี้ โลกได้เข้าสู่ยุคที่มีวงจรปัจจัยเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบซึ่งกันและกัน จากการสูญเสียความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ซึ่งทำให้บริษัทต่างๆชะลอการลงทุน
-สศค. วิเคราะห์ว่า แนวโน้มเศรษฐกิจโลกในปัจจุบันมีความผันผวนมากขึ้น จากความเสี่ยงของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่อาจเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยอีกครั้ง (double-dip recession) จากปัญหาอัตราการว่างงานสหรัฐฯ ที่อยู่ในระดับสูง ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ส.ค. 54 อยู่ในระดับต่ำที่สุดในรอบ 2 ปี ที่ระดับ 44.5 ยอดทำสัญญาซื้อขายบ้าน (Pending Home Sales) เดือน ก.ค. 54 หดตัวร้อยละ -1.3
ประกอบกับการลดลงของดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ ขณะที่ปัญหาหนี้สาธารณะในสหภาพยุโรปยังไม่คลี่คลาย ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปในไตรมาสที่ 2 ปื 54 ขยายตัวร้อยละ 1.6 และ 1.7 ชะลอลงจากไตรมาสก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 2.2 และ 2.5 ตามลำดับ ทั้งนี้ สศค. คาดว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และยูโรปในปี 54 ขยายตัวร้อยละ 2.3 และ 2.3 ตามลำดับ (คาดการณ์ ณ เดือน มิ.ย. 54 และจะปรับประมาณการอีกในเดือน ก.ย. 54)
3. ยอดการค้าปลีกในยูโรโซนในเดือนก.ค. 54 ขยายตัวร้อยละ 0.2
-สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท เปิดเผยว่า ยอดการค้าปลีกในยูโรโซนในเดือนก.ค. 54 ขยายตัวร้อยละ 0.2 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมิ.ย. 54 ขณะที่ยอดค้าปลีกอาหาร เครื่องดื่ม และยาสูบในกลุ่มประเทศที่ใช้เงินยูโร ลดลงร้อยละ 0.4 ส่วนยอดค้าปลีกที่ไม่ใช่อาหาร เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 ซึ่งเมื่อเทียบเป็นรายปีแล้ว ยอดค้าปลีกเดือนก.ค. 54 ลดลงร้อยละ 0.2 สำหรับยอดค้าปลีกเดือนก.ค.ในกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 จากเดือนมิ.ย. 54 แต่ลดลงร้อยละ 0.2 จากปีที่ 53
-สศค. วิเคราะห์ว่า การที่ยอดการค้าปลีกในยูโรโซนที่ขยายตัวชะลอลง เนื่องจากความกังวลของปัญหาหนี้สาธารณะในสหภาพยูโรปที่ยังไม่คลี่คลาย ทำให้เศรษฐกิจของสหภาพยูโรปในไตรมาสที่ 2 ปื 54 ขยายตัวร้อยละ 1.7 ขยายตัวชะลอลงจากไตรมาสก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 2.5 สำหรับอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือน ส.ศ. 54 ขยายตัวร้อยละ 2.5 ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ส.ค. 54 (เบื้องต้น) ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 มาอยู่ที่ระดับ -16.6 ต่ำที่สุดในรอบ 15 เดือน บ่งชี้แรงกดดันต่อการบริโภค ทั้งนี้ สศค. คาดว่าอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจในกลุ่มสหภาพยูโรปในปี 54 คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 2.3 (คาดการณ์ ณ เดือน มิ.ย. 54 และจะปรับประมาณการอีกในเดือน ก.ย. 54)