เนื้อหาวันที่ : 2011-09-07 11:59:18 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 3137 views

กรุงศรีลิสซิ่ง หนุนลงทุนไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์

กรุงศรีลิสซิ่ง สบโอกาส กลุ่มพลังงานโต จับมือ พันธมิตรยักษ์ใหญ่จากแดนมังกร ประกาศหนุนนักลงทุนกลุ่มผู้ผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์

          กรุงศรีลิสซิ่ง สบโอกาส กลุ่มพลังงานโต จับมือ พันธมิตรยักษ์ใหญ่จากแดนมังกร ประกาศสนับสนุนนักลงทุนกลุ่มผู้ผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์

          “กรุงศรีลิสซิ่ง” ขานรับนโยบายภาครัฐในการจัดหาพลังงานทดแทน ล่าสุดจับมือกับ โซลา แพลนเน็ท และ China North Industries, เทียนเหว่ย พันธกิจยักษ์ใหญ่แห่งแดนมังกร ร่วมสนับสนุนนักลงทุนผู้แทนจำหน่าย และสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เป็นครั้งแรกในไทย พร้อมเสนอโปรดักส์โปรแกรม ด้วยเงื่อนไขการเงินแบบพิเศษสุด ชูสโลแกน “WIN WIN WIN” เชื่อมั่นนักลงทุนขานรับเพียบ

          นายเศมทัต จันทมงคล รักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัท อยุธยา ดีเวลลอปเม้นท์ ลีสซิ่ง จำกัด หรือ กรุงศรีลีสซิ่ง เปิดเผยว่า จากที่กระทรวงพลังงาน ได้ให้ความสำคัญในการสนับสนุนการจัดหาพลังงานทดแทนน้ำมัน หลังจากที่ทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยเองก็เริ่มที่จะประสบกับภาวะวิกฤติ และแบกรับราคาน้ำมันที่สูงขึ้น

ดังนั้นการเลือกใช้พลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่มีความปลอดภัยสูง อีกทั้งเป็นพลังงานที่สะอาดและดีที่สุด ส่งผลให้ผู้ประกอบการหรือนักลงทุนอุตสาหกรรมด้านพลังงานแสงอาทิตย์มีความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนเพิ่มมากขึ้น โดยในแต่ละปีการเติบโตของธุรกิจประเภทดังกล่าวสูงขึ้นเรื่อย ๆ เป็นลำดับ ซึ่งทางกรุงศรี ลิสซิ่งเองได้เล็งเห็นถึงช่องทางดังกล่าว จึงได้เริ่มมองหาพันธมิตร และร่วมมือกันจัดทำ” โครงการสนับสนุนผู้ผลิตไฟฟ้า จากพลังงานแสงอาทิตย์ “ขึ้น

          โดยโครงการล่าสุดนี้ ทางบริษัทฯได้จับมือร่วมกับพันธมิตร คือ บริษัท โซลา แพลนเน็ท จำกัด ผู้นำเข้า จัดจำหน่าย พร้อมการก่อสร้างและติดตั้ง โรงงานผลิตไฟฟ้าดังกล่าว และอีกหนึ่งพันธมิตร ซึ่งเป็นผู้ผลิตแผงโซลาเซลส์ พร้อมอุปกรณ์ จากประเทศจีนในนาม บริษัท Chaina North Industries Cooperation เทียนเหว่ย ซึ่งเป็นผู้ขายและผู้ส่งออกที่ใหญ่ที่สุดเป็นลำดับที่ 2 ของโลกอยู่ในขณะนี้

ซึ่ง ทางกรุงศรีลีสซิ่ง ได้จัดโปรดักส์โปรแกรมด้านการลงทุนดังกล่าวขึ้นมาเนื่องจากเล็งเห็นว่าปัจจุบันนี้มีกลุ่มผู้ที่ได้รับใบอนุญาตในการประกอบธุรกิจนี้จากกระทรวงพลังงานแล้วถึง 2,000 ราย แต่ยังมีผู้ที่ยังไม่ได้ลงมือทำธุรกิจนี้อีกมาก เพราะใช้เงินทุนค่อนข้างสูง เราจึงจัดโปรแกรมเพื่อนักลงทุนกลุ่มนี้โดยเฉพาะ ทั้งนี้ บริษัทจะปล่อยสินเชื่อให้แก่นักลงทุนที่สนใจ

โดยผู้ที่ทำธุรกิจตามโปรดักส์โปรแกรมนี้จะใช้ระยะเวลาในการคืนทุนประมาณ 7 – 8 ปี ซึ่งหลังจากที่มีการผ่อนชำระครบตามวาระที่กำหนดแล้ว นักลงทุนเชื่อมั่นได้ว่าจะสามารถสร้างผลกำไรกลับคืนมาได้อย่างแน่นอน และสบายใจได้ด้วยเนื่องจากทางผู้ผลิตรับประกันผลผลิตให้สูง และหากได้ค่า output ต่ำกว่าที่กำหนด ทางผู้ผลิตยินดีเปลี่ยนแผงอุปกรณ์ให้ อีกทั้งยังมีรับประกันการซื้อคืน และในขณะเดียวกันทางผู้ผลิตและผู้ขายก็ทำการการันตีอุปกรณ์ให้ถึง 25 ปีอีกด้วย

          “โปรดักส์โปรแกรมของ กรุงศรีลีสซิ่ง ในครั้งนี้ เกิดขึ้นมาจากคำว่า “WIN WIN WIN” โดยเรามองว่า WIN ตัวแรก คือ ผู้ลงทุนซื้อของได้ในราคาต่ำ รวมกับจะได้รับการปล่อยกู้ในวงเงินที่มากพอ อีกทั้งอัตราดอกเบี้ยถูก มีระยะเวลาการชำระคืนที่เหมาะสม ส่วน WIN ตัวที่ 2 คือ ทางบริษัทผู้จัดจำหน่ายและผู้ผลิตซึ่งเป็นซัพพลายเออร์รายใหญ่จะขายของได้ในปริมาณที่มากขึ้น และ WIN ตัวที่ 3 คือเรา กรุงศรี ลีสซิ่ง จะได้ปล่อยวงเงินกู้ให้กับลูกค้าชั้นดี มีอัตราความเสี่ยงลดน้อยลง และในปัจจุบันประเทศไทยเรานั้นมี ผู้ที่มี Licensed (ใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์) อยู่ประมาณ 2,000 ราย ฉะนั้นจากที่เราเจาะกลุ่มเฉพาะผู้ที่มีLicensed นี้ ในช่วงเริ่มต้นที่ผ่านมาเราได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้ามาแล้วประมาณ 5 % ก็จัดว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ”

          นอกจากนี้ นายเศมทัต ยังกล่าวอีกว่า การเปิดตัวโปรดักส์โปรแกรมดังกล่าว จะเป็นการช่วยกระตุ้นให้ผู้ที่จะเข้ามาลงทุนมีการตื่นตัวมากยิ่งขึ้น และถือว่าเป็นโปรดักส์โปรแกรมแรกที่จัดทำขึ้น มีประโยชน์เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะต่อประเทศชาติ เนื่องจากว่าพลังงานไฟฟ้าที่ได้จากพลังงานแสงอาทิตย์นี้เป็นพลังงานที่สะอาด จัดเป็นพลังงานทดแทนที่ดี ช่วยลดการนำเข้า ลดการใช้เชื้อเพลิง

ขณะเดียวกันเมื่อมีโครงดังกล่าวเกิดขึ้น การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ EGATเองก็ไม่ต้องไปตั้งโรงงานไฟฟ้าเพื่อสำรองพลังงาน นอกจากนี้แล้วเมื่อมีโรงผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์เพิ่มมากขึ้น ประชาชนตามต่างจังหวัดที่เป็นรากหญ้าจะมีไฟฟ้าใช้กันอย่างทั่วถึงมากขึ้น ส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศดียิ่งขึ้น