เนื้อหาวันที่ : 2011-09-07 09:10:26 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1182 views

ภาวะเศรษฐกิจประจำวันที่ 6 ก.ย. 2554

สำนักงานวิเคราะห์สถานการณ์เศรษฐกิจประจำวันที่ 6 กันยายน 2554 ชี้การลดราคาสินค้า 5 รายการช่วยลดแรงกดดันต่ออัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในช่วงขาขึ้น ด้านผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจโดยรวมมากขึ้น โดยสะท้อนจากยอดตั้งบริษัทใหม่เดือน ส.ค. 54 พุ่งกว่า 5 พันราย

1. 5 สินค้าลดราคาช่วยเหลือผู้บริโภค
-  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า หลังการหารือกับผู้ประกอบการสินค้าประมาณ 200 ราย ผลการหารือทางผู้ประกอบการยินดีให้ความร่วมมือปรับลดราคาสินค้า มี5 สินค้า ได้แก่ ปูนซิเมนต์ ลดราคาถุงละ 5-10 บาท กระเบื้องมุงหลังคา ลดราคาแผ่นละ5 บาท ปุ๋ยเคมีลดราคาถุงละ 5-8บาท เครื่องปั้มน้ำ ลดราคาเครื่องละ 100-200บาท และแป้งสาลี ลดถุงละ10บาท มีผลในสัปดาห์นี้ ส่วนสินค้าที่เหลือ เช่นเครื่องอุปโภค และของใช้ส่วนตัว จะให้ความร่วมมือตรึงราคาสินค้าไปจนถึงสิ้นปี

-  สศค. วิเคราะห์ว่าการลดราคาลงของสินค้าดังกล่าวคาดว่าจะช่วยลดแรงกดดันต่ออัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในช่วงขาขึ้นโดยล่าสุดอัตราเงินเฟ้อเดือน ส.ค. 54 อยูที่ร้อย 4.3 เพิ่มขึ้นจากเดือน ก.ค. 54 ที่อยู่ที่ร้อยละ 4.1 ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อเฉี่ย 8 เดือนแรกของปี 54 อยู่ที่ร้อยละ 3.7 นอกจากนี้ การลดลงของราคาสินค้าบางประเภท โดยเฉพาะราคาวัสดุก่อสร้างยังคาดว่าจะส่งผลดีต่อการลงทุนภาคเอกชนสาขาก่อสร้างให้ขยายตัวเพิ่มขึ้น

2. ก.พาณิชย์เผยยอดตั้งบริษัทใหม่ส.ค.54 พุ่งกว่า5พันราย
-  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลใหม่เดือน ส.ค. 54 มีจำนวน 5,014 ราย แบ่งเป็นจัดตั้งในกรุงเทพฯ2,958 ราย ส่วนภูมิภาค 2,059 ราย โดยมีเงินทุนจดทะเบียนจำนวน 45,549 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ12 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ส่งผลให้การจดทะเบียนในช่วง 8 เดือนแรก (ม.ค.– ส.ค.)ปี 54 มีจำนวน 41,295 ราย เพิ่มขึ้น 7,868 ราย หรือขยายตัวร้อยละ 23  เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยนิติบุคคลจดทะเบียนจัดตั้งสูงสุด 3 อันดับแรกได้แก่ ก่อสร้างอาคารทั่วไปจำนวน บริการนันทนาการ และอสังหาริมทรัพย์

-  สศค. วิเคราะห์ว่าการที่ภาคเอกชนมีการจัดตั้งบริษัทใหม่เพิ่มขึ้น บ่งชี้ว่าผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งสอดคล้องกับภาพรวมของอุปสงค์ภายในประเทศ ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 54 ที่ยังคงมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากอัตราการขยายตัวของการลงทุนภาคเอกชนที่ร้อยละ 10.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน นอกจากนี้ทิศทางการลงทุนในประเทศ คาดว่าจะได้รับปัจจัยบวกจากมาตรการภาครัฐในส่วนของการลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลจากร้อยละ 30 เหลือร้อยละ 23 ในปี 55  และเหลือ ร้อยละ 20ในปี 56

3. ผู้นำสหรัฐฯ เรียกร้องสภาคองเกรสหนุนการใช้จ่ายสาธารณูปโภค
-  ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวปราศรัยต่อสมาชิกสหภาพแรงงานว่า การแถลงเรื่องเศรษฐกิจต่อสภา คองเกรสในวันที่ 8 ก.ย. จะมุ่งเน้นไปในเรื่องวิธีการใหม่ๆ สำหรับการสร้างงานเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ และทำให้ชาวอเมริกันจำนวนมากกลับมามีงานทำอีกครั้ง โดยข้อเสนอที่จะยื่นต่อสภาคองเกรสจะ รวมถึงการเพิ่มการใช้จ่ายในเรื่องการสร้างถนน และโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานอื่นๆ ทั้งนี้ ตัวเลขว่างงานของสหรัฐฯ เดือน ส.ค. 54 อยู่ในระดับสูงถึงร้อยละ 9.1

-  สศค. วิเคราะห์ว่า GDP ของสหรัฐในไตรมาส 2 ปี 54 ขยายตัวเพียงร้อยละ 1.5 ชะลอลงจากไตรมาส 1 ที่ขยายตัวร้อยละ 2.2 ขณะเดียวกันภาคการบริโภคครัวเรือน ซึ่งเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจสหรัฐถึงร้อยละ 70 ขยายตัวเพียงร้อยละ 0.1

นอกจากนี้ ตังชี้วัดทางเศรษฐกิจล่าสุดของสหรัฐฯ เช่น อัตราการว่างงานเดือน ส.ค. 54 ที่ทรงตัวในระดับสูงที่ระดับร้อยละ 9.1 และอัตราความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ส.ค. 54 ที่อยู่ในระดับต่ำที่ 44.5 (จาก 59.2 ใน ก.ค.54) สะท้อนว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังมีความเปราะบาง  ซึ่งจะเป็นปัจจัยกดดันให้รัฐบาลสหรัฐต้องออกมาตรการกระตุ้นการบริโภค อย่างไรก็ดี การส่งออกของไทยไปสหรัฐฯในช่วง 7 เดือนแรกของปี 54 ยังคงขยายตัวในระดับสูงที่ร้อยละ 17.5 ต่อปี