รมว.อุตสาหกรรม นั่งหัวโต๊ะบัญชาทิศทางอุตสาหกรรมไทย เน้นเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ดูแลสิ่งแวดล้อม มอบบีโอทำงานเชิงรุกเร่งดึงนักลงทุนเข้าประเทศ
รมว.อุตสาหกรรม นั่งหัวโต๊ะบัญชาทิศทางอุตสาหกรรมไทย เน้นเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ดูแลสิ่งแวดล้อม มอบบีโอทำงานเชิงรุกเร่งดึงนักลงทุนเข้าประเทศ
นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ประชุมมอบนโยบายอย่างเป็นทางการแก่ผู้บริหารระดับสูงและหัวหน้าส่วนราชการในภูมิภาค เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2554 ภายหลังจากการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา เพื่อเป็นการผลักดันนโยบายรัฐบาลด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมไปสู่การปฏิบัติให้บรรลุผลสำเร็จโดยเร็ว
โดยได้มอบนโยบายให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนไปพิจารณาเงื่อนไขและสิทธิประโยชน์ในเชิงรุกเพื่อดึงดูดนักลงทุนให้กลับมาลงทุนในประเทศไทยเพื่อฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างฐานการส่งออกของประเทศให้เติบโตต่อไป รวมทั้งส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยไปลงทุนต่างประเทศ และให้มีการจัดเตรียมพื้นที่นิคมและเขตลงทุนด้านอุตสาหกรรมแห่งใหม่เพิ่มเติมจากบริเวณอีสเทอร์นซีบอร์ดให้เพียงพอกับความต้องการ
นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ยังให้ความสำคัญกับการส่งเสริมอุตสาหกรรมรูปแบบใหม่ที่จะเพิ่มมูลค่าให้กับเศรษฐกิจ ได้แก่อุตสาหกรรมที่ต่อยอดจากวัฒนธรรมของชาติ อาทิเช่น อาหารไทย ครัวไทยไปครัวโลก ศิลปะ กีฬามวยไทย การท่องเที่ยว การถ่ายทำภาพยนตร์เมืองไทย อุตสาหกรรมสีเขียว (Green Industry) อาทิเช่น พลาสติกชีวภาพ เคมีชีวภาพ อุตสาหกรรมต้นน้ำที่จะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมการเกษตรเพื่อยกระดับราคาพืชผลการเกษตร และอุตสาหกรรมที่ผลิตสินค้าประหยัดพลังงาน เพื่อการประหยัดพลังงานและสร้างไทยให้เป็นฐานในการส่งออกสินค้าประหยัดพลังงานและสินค้าพลังงานทดแทน
นอกจากนั้นยังจะต้องเร่งจัดการให้ได้ข้อสรุปเรื่องโครงสร้างภาษีรถยนต์ประหยัดพลังงานที่ค้างมาจากรัฐบาลชุดที่แล้ว ให้ได้ข้อสรุปที่เหมาะสมกันทุกฝ่ายเพื่อสนับสนุนการลงทุนของอุตสาหกรรมรถยนต์ของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสนับสนุนรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงจากภาคเกษตร ซึ่งเป็นจุดแข็งของเศรษฐกิจไทย
นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ได้เน้นย้ำต่อความสำคัญของ SMEs และสินค้า OTOP ที่มีต่อเศรษฐกิจ การลงทุน และการท่องเที่ยว โดยให้มีการบูรณาการและปรับรูปแบบของความร่วมมือของหน่วยงานที่รับผิดชอบเพื่อการส่งเสริม SMEs ภายใต้กระทรวง ให้กระชับ มีประสิทธิภาพ ลดความซ้ำซ้อน ประหยัดงบประมาณ และให้นโยบายในการสนับสนุนเงินทุน การตลาด และยกระดับมาตรฐานของสินค้า SMEs และ OTOP ให้ทั่วถึง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมได้กำชับในเรื่องการเข้มงวดกวดขันกับโรงงานอุตสาหกรรมที่สร้างปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อม และการทำความเข้าใจกับประชาชนเรื่องความเข้าใจในกระบวนการสิ่งแวดล้อมอย่างถ่องแท้ เพื่อความร่วมมือซึ่งกันและกัน รวมทั้งการให้นโยบายเรื่องการใช้มาตรฐานอุตสาหกรรมให้เกิดประโยชน์ การเร่งรัดสำรวจแหล่งแร่ต่าง ๆ เพื่อเป็นต้นทุนของเศรษฐกิจของประเทศ และการเตรียมความพร้อมของภาคอุตสาหกรรมสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558