ก.พลังงาน จัดทำแผนยุทธศาสตร์พลังงานระยะสั้น 5 ปี เผยพร้อมดึงประชาชนร่วมกิจการ มั่นใจพัฒนาแหล่งพลังงานใหม่ในประเทศได้
ก.พลังงาน จัดทำแผนยุทธศาสตร์พลังงานระยะสั้น 5 ปี เผยพร้อมดึงประชาชนร่วมกิจการ มั่นใจพัฒนาแหล่งพลังงานใหม่ในประเทศได้
กระทรวงพลังงานจัดทำแผนยุทธศาสตร์พลังงานระยะสั้น 5 ปี พร้อมดึงประชาชนเข้าร่วมกิจการพลังงานมากขึ้น มั่นใจสามารถพัฒนาแหล่งพลังงานใหม่ให้เกิดขึ้นภายในประเทศได้ ประกาศปรับบทบาทรับมือวิกฤตพลังงานในอนาคต
นายณอคุณ สิทธิพงศ์ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานกำลังเร่งจัดทำแผนยุทธศาสตร์การมีส่วนร่วมของภาคประชาชน ประจำปี 2555-2559 ซึ่งเป็นแผนระยะสั้น 5 ปี เพื่อส่งเสริมให้ภาคประชาชนเข้ามามีบทบาทและส่วนร่วมในกิจการพลังงานมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดการยอมรับ ตั้งแต่ขั้นตอนการกำหนดนโยบาย จัดทำแผนงาน และจัดทำแผนยุทธศาสตร์พลังงานของประเทศ ที่ผ่านมาจะได้เห็นจากการจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP) ที่เปิดโอกาสให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดทำแผน หลังจากนี้เมื่อแผนยุทธศาสตร์ดังกล่าวแล้วเสร็จจะนำเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงพลังงานเพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป
“ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยประสบปัญหาพัฒนาแหล่งพลังงานในประเทศ และไม่สามารถพัฒนาโครงการพลังงานใหม่ได้ตามแผนที่วางไว้ ซึ่งกำลังสร้างวิกฤตด้านพลังงานในอนาคต เนื่องจากประเทศไทยมีการใช้พลังงานที่โตขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่เรามีแหล่งพลังงานในประเทศจำนวนจำกัด ส่งผลให้ต้องพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันดิบเกิน 80% โดยเฉพาะหากดูสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าของประเทศแล้วกำลังประสบปัญหาการพึ่งพา ก๊าซธรรมชาติมากถึง 70% และยังมีสัดส่วนการนำเข้าและซื้อไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มสูงขึ้น
ทั้งนี้ เป็นผลจากการไม่ยอมรับความจำเป็นในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของ ประเทศ และการไม่ยอมรับการก่อสร้างโรงไฟฟ้า ได้แก่ ถ่านหิน นิวเคลียร์ หรือแม้แต่พลังงานชีวมวล ตลอดจนการคัดค้านการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมภายในประเทศที่เกิดขึ้น”
ปลัดกระทรวงพลังงานกล่าวอีกว่า กระทรวงพลังงานต้องปรับบทบาทและเปลี่ยนแปลงตนเอง ซึ่งมีความจำเป็นต้องเร่งส่งเสริมและทำความเข้าใจกับประชาชนทุกภาคส่วนเพื่อ ไม่ให้ประเทศไทยต้องประสบปัญหาวิกฤตด้านพลังงานในอนาคต
ปัจจุบันกระทรวงพลังงานได้จัดตั้งสำนักประสานการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน ขึ้น โดยจะทำหน้าที่รับเรื่องร้องเรียนด้านพลังงาน แก้ไขปัญหา ตลอดจนลงพื้นที่เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนทุกฝ่าย ซึ่งสำนักดังกล่าวจะเป็นทั้งศูนย์ประชาชนสัมพันธ์ และสร้างเครือข่ายการมีส่วนร่วมจากประชาชน ตั้งอยู่ที่ศูนย์เอ็นเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ อาคารบี กระทรวงพลังงาน