1. ตลาดอนุพันธ์ปรับเพิ่มหลักประกันสัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนี SET50 และโกลด์ฟิวเจอร์ส 19 ส.ค.54
-กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (TFEX) เปิดเผยว่าการซื้อขายหลักทรัพย์และทองคำในช่วงนี้มีความผันผวนมาก และทำให้สำนักหักบัญชีต้องพิจารณาปรับเพิ่มอัตราหลักประกันของฟิวเจอร์สดัชนี SET50 และโกลด์ฟิวเจอร์สตามสภาพความผันผวนของตลาด โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 19 ส.ค. 54 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ การปรับหลักประกันดังกล่าวจะส่งผลให้ผู้ลงทุนทั่วไปต้องวางหลักประกันของฟิวเจอร์สของดัชนี SET50 เพิ่มขึ้นจาก 38,000 บาทต่อสัญญา เป็น 53,200 บาทต่อสัญญา โกลด์ฟิวเจอร์สขนาด 50 บาททองคำ จาก 47,500 บาทต่อสัญญา มาเป็น 62,700 บาทต่อสัญญา และโกลด์ฟิวเจอร์สขนาด 10 บาททองคำ จาก 9,500 บาทต่อสัญญา มาเป็น 12,540 บาทต่อสัญญา
-สศค. วิเคราะห์ว่า สศค. วิเคราะห์ว่า ปัญหาการปรับเพดานหนี้สหรัฐฯที่นำไปสู่การปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ประกอบกับความเสี่ยงของเศรษฐกิจสหภาพยุโรป โดยเฉพาะฝรั่งเศสที่อาจโดนปรับลดอันดับ ทำให้มีเงินทุนเคลื่อนย้ายมาในภูมิภาคมาก ก่อให้เกิดความผันผวนในตลาดหลักทรัพย์ไทยตลอดจนราคาทองคำ การปรับเพิ่มอัตราหลักประกันของฟิวเจอร์สดัชนี SET50 และโกลด์ฟิวเจอร์ส จะช่วยลดความผันผวนในตลาดซื้อขายล่วงหน้าได้ส่วนหนึ่ง อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกยังคงมีความเสี่ยง คาดว่าเงินทุนเคลื่อนย้ายจะมีความผันผวนสูงในระยะต่อไป ซึ่งอาจส่งผลต่อค่าเงินบาทได้
2. ส.อ.ท. เผยยอดส่งออกรถยนต์เดือน ก.ค. 54 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 จากเดือนก่อนหน้า
-สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เผยยอดส่งออกรถยนต์ในเดือน ก.ค. 54 อยู่ที่ 75,803 คัน หดตัวร้อยละ -13.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน แต่มากกว่าเดือน มิ.ย. 54 ร้อยละ 0.2 โดยมีมูลค่าการส่งออก 33,817.5 ล้านบาท หดตัวร้อยละ -15.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน
ขณะที่จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือน ก.ค. 54 มีทั้งสิ้น 147,236 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนขยายตัวร้อยละ 1.1 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ทั้งนี้ ส.อ.ท.ได้ประมาณการผลิตรถยนต์ในไตรมาสที่ 3 ปี 54 ว่ามีจำนวน 510,012 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 27.6 จากช่วงเดียวกันปีก่อน หรือขยายตัวร้อยละ 17.2 จากไตรมาสก่อนหน้า
-สศค. วิเคราะห์ว่า ยอดส่งออกรถยนต์ที่ยังคงหดตัวต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน เป็นผลมาจากการขาดชิ้นส่วนการผลิตรถยนต์ ที่ต้องนำเข้าจากบริษัทผลิตรถยนต์ของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งบางแห่งต้องปิดทำการชั่วคราวเนื่องจากได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติสึนามิในเดือน มี.ค. 54 อย่างไรก็ตาม หลังจากที่บริษัทดังกล่าวทยอยเปิดทำการตามปกติ
การผลิตรวมไปถึงการส่งออกรถยนต์จึงเริ่มปรับตัวดีขึ้น ซึ่งคาดว่าจะกลับมาขยายตัวตามปกติในช่วงครึ่งหลังของปี 54 นอกจากนี้การขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ผนวกกับพฤติกรรมการใช้รถยนต์ที่เริ่มเปลี่ยนไป โดยมีการหันมาใช้ Ecocar เพิ่มมากขึ้น จะเป็นแรงส่งให้ยอดขายรถยนต์ในช่วงครึ่งหลังของปี 54 เร่งขึ้นจากช่วงก่อนหน้า
3. มอร์แกน สแตนลีย์ ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจทั่วโลกในปี 54 ลงมาอยู่ที่ร้อยละ 3.9
-มอร์แกน สแตนลีย์ ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกในปี 54 ลงมาอยู่ที่ร้อยละ 3.9 จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ว่า จะขยายตัวที่ร้อยละ 4.2 พร้อมกับปรับลดประมาณการการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 55 ลงเหลือร้อยละ 3.8 จากเดิมที่คาดไว้ที่ร้อยละ 4.5 จากผลกระทบของวิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรปและการปรับเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐฯ
-สศค. วิเคราะห์ว่า การปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 54 และปี 55 มีปัจจัยสำคัญจากปัญหาหนี้สาธารณะในสหภาพยุโรปที่ยังคงลุกลามอย่างต่อเนื่อง ผนวกกับแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าวยังไม่เพียงพอที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ภาคเอกชน นอกจากนี้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงขยายตัวอย่างเปราะบาง โดยอัตราการว่างงานยังคงอยู่ในระดับสูง ซึ่งในเดือน ก.ค. 54 อัตราการว่างงานอยู่ที่ร้อยละ 9.1 ของกำลังแรงงานรวม ทั้งนี้ สศค. คาดว่าเศรษฐกิจคู่ค้าสำคัญของไทย 14 ประเทศ จะขยายตัวร้อยละ 3.3 (คาดการณ์ ณ เดือน มิ.ย. 54)
ที่มา : สำนักเศรษฐกิจการคลัง
Thailandindustrycom_official
