ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ จับมือไมโครซอฟท์ เปิดตัวโซลูชั่นศูนย์ข้อมูลแบบผสานรวมใหม่ สำหรับลูกค้าที่ต้องการใช้งานในสภาพแวดล้อมเสมือนจริง
ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ จับมือไมโครซอฟท์ เปิดตัวโซลูชั่นศูนย์ข้อมูลแบบผสานรวมใหม่ (New Converged Data Center Solutions – CDCS) เป็นโซลูชั่นที่ผนวกกับ Microsoft® Hyper-V™ Cloud Fast Track และ Microsoft Exchange 2010 สำหรับลูกค้าที่ต้องการใช้งานในสภาพแวดล้อมเสมือนจริงให้เป็นไปอย่างเหมาะสม อัตโนมัติ และมีประสิทธิภาพสูง
บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ คอร์ปอเรชัน หรือ เอชดีเอส ร่วมกับไมโครซอฟท์ เปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์โซลูชั่นศูนย์ข้อมูลแบบผสานรวม (Converged Data Center Solutions - CDCS) โดยผนวกMicrosoft® Hyper-V™ Cloud Fast Track และ Microsoft Exchange 2010 เป็นครั้งแรก ให้ลูกค้าที่ต้องการใช้งานในสภาพแวดล้อมเสมือนจริงให้เป็นอย่างเหมาะสม อัตโนมัติ และมีประสิทธิภาพสูง
ผลิตภัณฑ์โซลูชั่นศูนย์ข้อมูลแบบผสานรวม (Converged Data Center Solutions - CDCS) สามารถลดระยะเวลาการนำไปใช้ ตลอดจนทำให้การปรับใช้ระบบคลาวด์เป็นเรื่องง่ายและกระบวนการที่ทำงานแบบอัตโนมัติ Hitachi CDCS ได้รวมการปรับแต่ง ของระบบจัดเก็บข้อมูลระดับองค์กรขนาดใหญ่ และ ระบบประมวลผลแบบเบลด จากบริษัท ฮิตาชิที่มาพร้อมด้วยโครงสร้างเครือข่ายที่เป็นมาตรฐาน มาปรับใช้อย่างเหมาะสม ที่ครอบคลุม แอพพลิชั่นต่างๆ ในสภาพแวดล้อมของระบบคลาวด์ ภายใต้การนำระบบไปใช้ที่รวดเร็วขึ้น ขยายระบบได้ภายหลัง และมีกระบวนการเป็นอัตโนมัติ โซลูชั่นใหม่นี้ช่วยให้องค์กรสามารถปรับแต่ง สภาพแวดล้อมแบบคลาวด์ จากสิ่งที่องค์กรมีอยู่ และสามารถคาดการณ์ผลจากการนำไปใช้และความคุ้มค่าได้เร็วขึ้น
นายวัชรสิทธิ์ สันติสุขนิรันดร์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ กล่าวว่า “กลุ่มผลิตภัณฑ์โซลูชั่นศูนย์ข้อมูลแบบผสานรวม (Converged Data Center Solutions - CDCS) เป็นการผนวกกับ Microsoft® Hyper-V™ Cloud Fast Track และ Microsoft Exchange 2010 จะช่วยวางรากฐานระบบคลาวด์ หรือโครงสร้างพื้นฐานแบบคลาวด์ ด้วยการปรับแต่งระบบของระบบต่างๆมาใช้ร่วมกันได้ อันได้แก่ ระบบจัดเก็บข้อมูล การประมวลผล และการเครือข่ายการสื่อสารข้อมูล
องค์กรหลายแห่งต้องการได้รับประโยชน์จากระบบส่วนตัวภายใต้สภาพแวดล้อมแบบคลาวด์ แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นด้วยวิธีใดเนื่องจากมีข้อมูลน้อยมากสำหรับ มาตรฐาน การปรับแต่งเพื่อทำงานรวมกัน และการรับรอง สำหรับการนำใช้งานภายใต้สภาพแวดล้อมคลาวด์ ที่สามารถแสดงผลสำเร็จที่เด่นชัดและเชื่อถือได้
การผสานรวมอุปกรณ์ต่างๆ จาก ระบบจัดเก็บข้อมูล การประมวลผล และเครือข่ายการสื่อสาร ของ Hitachi CDCS จะนำเอาจุดได้เปรียบที่เด่นชัดของความเชื่อมั่นของอุปกรณ์สำหรับองค์กรขนาดใหญ่ ความรวดเร็วในการปรับใช้ ประสิทธิภาพ และระบบบริหารจัดการ ที่แตกต่างชัดเจนเมื่อเทียบกับโซลูชั่นที่มีการผสานรวมกันอย่างหลวมๆ โดยไม่ได้มีการปรับใช้ให้เหมาะสม นอกจากนี้ โซลูชั่นของฮิตาชิยังให้คำตอบ สำหรับที่องค์กรที่ยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับระบบคลาวด์ มีกระบวนการสั่งการและนำไปใช้ที่ง่าย ตลอดจนได้ผลการนำไปใช้ที่มากขึ้นเมื่อเทียบกับระบบอื่นๆ”
นางสาวปัญจพร วิทยเลิศพันธุ์ ผู้จัดการผลิตภัณฑ์อาวุโสด้านเซิร์ฟเวอร์และแอพพลิเคชั่น แพลตฟอร์ม บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย และฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ ได้ร่วมกันประกาศ โซลูชั่นศูนย์ข้อมูลแบบผสานรวม(CDCS) ในวันนี้ โดย โซลูชั่นศูนย์ข้อมูลแบบผสานรวม(CDCS) ทำงานบน Microsoft Hyper-V Cloud Fast Track และ Microsoft Exchange 2010 ที่สามารถช่วยให้องค์กรมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม อัตโนมัติ และเสมือนจริงที่มีประสิทธิภาพสูงและตรงความต้องการของลูกค้าในด้านความยืดหยุ่น ประสิทธิภาพ ด้านการคาดการณ์ และสามารถขยายได้อย่างราบรื่น
โดยฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ และไมโครซอฟท์ ร่วมกันให้ออปชั่นที่หลากหลายสำหรับลูกค้าเพื่อให้ได้ประโยชน์จากโซลูชั่นนี้มากที่สุด เราทราบดีว่าธุรกิจมีความจำเป็นเฉพาะด้านและหลากหลายที่ต้องการความแตกต่างในการผสานรวมกัน เราจึงให้โซลูชั่นแบบเปิดและยืดหยุ่นเพื่อการป้องการการลงทุน ระยะยาวและสามารถปรับใช้กับระบบคลาวด์ของลูกค้าได้”
นายสุนิล ชวาล ผู้อำนวยการกลุ่มซอฟต์แวร์ และโซลูชั่นสำหรับคลาวด์ บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ กล่าว ว่า“บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ ให้ความสำคัญกับการทำให้สภาพแวดล้อมระบบคลาวด์ของลูกค้าสามารถเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วและเป็นเรื่องง่าย ขณะที่ต้องคุ้มค่าต่อการลงทุนด้านไอทีของลูกค้าด้วยและ Hitachi CDCSโซลูชั่นใหม่ของเรา ได้รวบรวมเทคโนโลยีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ความเชี่ยวชาญ และเชื่อมั่นได้ จากระบบจัดเก็บข้อมูลของฮิตาชิ ที่วันนี้ได้ มารวมเข้ากับระบบประมวลผล
สิ่งนี้จะช่วยให้ลูกค้าของเราสามารถสร้างโครงสร้างพื้นฐานสภาพแวดล้อมแบบคลาวด์ได้โดยง่าย มีต้นทุนที่เหมาะสม และเป็นระบบที่เชื่อถือได้ ลูกค้าของเราสามารถนำเสนอการให้บริการแบบคลาวด์ได้ในแบบที่ พวกเขาต้องการและสอดคล้องกับธุรกิจของตนได้มากที่สุด ซึ่งในท้ายที่สุดแล้ว โซลูชั่นเหล่านี้จะช่วยปรับเปลี่ยนศูนย์ข้อมูลเดิมของลูกค้าให้เป็นศูนย์ข้อมูลแบบอัตโนมัติ เพื่อให้เข้าใกล้ความต้องการทางธุรกิจ โดยใช้โครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้เกิดอัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ทั้งหมดได้อย่าง คุ้มค่าสูงสุด”
ส่วนประกอบโซลูชั่นศูนย์ข้อมูลแบบผสานรวมของฮิตาชิ(CDCS)
Hitachi CDCS ได้รวมระบบจัดเก็บข้อมูล ระบบประมวลผล และเครือข่ายสื่อสารข้อมูล เข้ากับการจัดการซอฟต์แวร์ ทำให้กระบวนการเป็นแบบอัตโนมัติ และปรับใช้ได้อย่างเหมาะสม สิ่งนี้ทำให้องค์กรสามารถจัดสรรทรัพยากรด้วยตนเองและติดตามการใช้งาน ตลอดจนการนำไปปรับใช้ที่เหมาะสมที่สุดที่ระดับแอพพลิเคชั่น แพลตฟอร์ม ไฮเปอร์ไวเซอร์ และให้ความยืดหยุ่นในการใช้เทคโนโลยีได้ตามต้องการ โดย CDCS ในช่วงเริ่มแรกนั้น จะประกอบด้วย
• ชุดโซลูชั่นของฮิตาชิพร้อมใช้กับ Microsoft® Hyper-V™ Cloud Fast Track: การผสานรวมของระบบการจัดเก็บข้อมูลและการประมวลผลของฮิตาชิเข้ากับระบบเครือข่ายสื่อสารข้อมูล และ Microsoft Windows Server 2008 R2 พร้อมด้วย Hyper-V และ System Center สำหรับโครงสร้างพื้นฐานส่วนตัวในสภาพแวดล้อมแบบคลาวด์ที่มีประสิทธิภาพสูง ที่จะนำไปสู่การทำให้กระบวนการแบบอัตโนมัติ และ การบริหารจัดการแบบทำงานเป็นหนึ่งเดียวของคุณลักษณะ Orchestration
• Hitachi Converged Platform for Microsoft Exchange 2010: ผลิตภัณฑ์แรก ของ กลุ่ม CDCS สำหรับแอพพลิเคชั่นเฉพาะ ที่ผ่านการทดสอบล่วงหน้า ถูกออกแบบขึ้นเพื่อให้วิศวกรระบบ สามารถนำไปใช้ที่รวดเร็วและ เข้ากันได้กับคุณสมบัติใหม่ที่ทรงประสิทธิภาพของ Exchange 2010 ได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นการปรับแต่งให้ใช้งานได้ยืดหยุ่นตามต้องการ การคาดการณ์ประสิทธิภาพการทำงานได้ และความสามารถในการปรับขนาดเพิ่มเติมได้อย่างราบรื่น ภายใต้การสนับสนุนจากHitachi Global Services และสะดวกต่อการสั่งซื้อในรูปแพคเกจที่จัดมาพร้อมใช้
Hitachi Unified Compute Platform (UCP): การบริหารจัดการแบบทำงานเป็นหนึ่งเดียวของคุณลักษณะ Orchestration ครอบคลุมทุกขอบเขตของเทคโนโลยี
UCP เป็นกลยุทธ์สำคัญของ ศูนย์ข้อมูลแบบผสานรวม ของบริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ UCPจะให้การบริหารจัดการแบบทำงานเป็นหนึ่งเดียวและสามารถจัดการร่วมภายในกลุ่มผลิตภัณฑ์โซลูชั่นแบบผสานรวมของฮิตาชิ และด้วยซอฟต์แวร์ในการบริหารจัดการแบบทำงานเป็นหนึ่งเดียวแบบใหม่นี้ ทำให้ UCP สามารถเป็นศูนย์รวมและจัดการบริหารเป็นหนึ่งเดียวกับ เซิร์ฟเวอร์ ระบบจัดเก็บข้อมูล และระบบเครือข่ายสื่อสารข้อมูล เสมือน ศูนย์รวมทรัพยากรเชิงธุรกิจ ผ่านอินเทอร์เฟสการใช้งานง่ายที่ครอบคลุม
นอกจากนี้ จากการพัฒนาบนระบบอัจฉริยะที่ครอบคลุมขอบเขตเทคโนโลยีต่างๆ ยังได้ให้สภาพแวดล้อมการประมวลผลขนาดใหญ่ ที่มีความคล่องตัวในการนำไปใช้ ให้สอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจ ตลอดจนลดต้นทุนและความเสี่ยงผ่านการสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพ เป็นแบบอัตโนมัติ ผสานรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน และมีความยืดหยุ่น
Hitachi Compute Blade: อุปกรณ์ประมวลผลพร้อมใช้สำหรับคลาวด์ ที่ยืดหยุ่นในการกำหนดระบบที่จะนำไปใช้งาน
เป็นที่ทราบกันดีว่า บริษัท ฮิตาชิ เป็นผู้จัดหาโซลูชั่นเชิงนวัตกรรมและเชื่อถือได้โดยได้สร้างประโยชน์ที่โดดเด่นให้กับศูนย์ข้อมูลบางแห่งที่มีความซับซ้อนที่สุดในโลกมาแล้ว บริษัท ฮิตาชิ อยู่ในธุรกิจด้านการประมวลผลมาเป็นเวลานานกว่า 50 ปีในรูปของมรดกสืบทอดด้านเมนเฟรม และผลิตภัณฑ์ Hitachi Compute Blade ได้วางจำหน่ายในตลาดญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 2547
กลยุทธ์ด้านการประมวผลของบริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ คือการนำเอาเอกลักษณะเฉพาะ เบลดประมวลผลของตน มาผสานรวมฟังก์ชันการทำงานเข้ากับโซลูชั่น CDCSได้อย่างเหมาะสม ซึ่งนำเอาความเชื่อมั่นและประสิทธิภาพ ของอุปกรณ์ระดับองค์กรขนาดใหญ่มาใช้ โดยเมื่อผสานรวมเข้ากับระบบจัดเก็บข้อมูลของฮิตาชิแล้ว Hitachi Compute Blade จะสามารถนำเสนอการประมวลผลที่ผลักดันให้เกิดสภาพแวดล้อมCDCS และโครงสร้างพื้นฐานแบบคลาวด์ของบริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ ได้อย่างสมบูรณ์
บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ นำเสนออุปกรณ์ประมวลผลพร้อมใช้สำหรับระบบคลาวด์ สองชุดที่มีความโดดเด่น ในการให้ความยืดหยุ่นในการกำหนดค่าของระบบอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนสำหรับลูกค้า ทั้งนี้ Hitachi Compute Blade 2000 และ Hitachi Compute Blade 320 มาพร้อมด้วยเทคโนโลยีการแบ่งพาร์ติชันแบบลอจิคัล (LPAR) เป็นเบลดเซิร์ฟเวอร์ X86 ระดับแนวหน้าขององค์กรใหญ่ ให้ฟังก์ชันการทำงานแบบเมนเฟรม โดยเทคโนโลยี LPAR ของบริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ เป็นคุณสมบัติด้านระบบเสมือนจริงแบบฝังตัวที่ทันสมัย ที่สร้างระบบเสมือนจริงได้ลงบนฮาร์ดแวร์ของเบลดเซิร์ฟเวอร์
เนื่องจากเป็นระบบเสมือนจริงที่ใช้ฮาร์ดแวร์ ทำให้เทคโนโลยี LPAR ให้ความปลอดภัยในระดับที่สูงกว่า ด้วยการแบ่งพาร์ติชันในตัวฮาร์ดแวร์ ที่ยังคงสามารถใช้ร่วมกับเทคโนโลยีระบบเสมือนระดับซอฟต์แวร์ได้ด้วย ซึ่งนั่นจะช่วยให้ลูกค้าสามารถลดค่าใช้จ่ายส่วนเกิน ขณะที่ยังช่วยเพิ่มความสามารถในการจัดการ ความเชื่อถือได้ และคงประสิทธิภาพ ไปด้วยกัน โดย Hitachi Compute Blade 2000 ที่มี LPAR เป็นเบลดเซิร์ฟเวอร์เดียวที่รวมเอาเทคโนโลยี SMP interconnect แบบเฉพาะที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพให้สูงขึ้นด้วยการทำให้ผู้ใช้สามารถกำหนดค่าเบรดหลายชุด ให้ทำงานร่วมกันในแบบระบบเดียวได้
นี้เป็นแพลตฟอร์มเดียวที่สามารถนำเสนอทางเลือกแบบเปิดสำหรับระบบไอทีเพื่อให้เกิดสิ่งดีที่สุดในสภาพแวดล้อมขององค์กร ทำให้ Hitachi Compute Blade สามารถให้เลือก LPAR ที่ทำงานอยู่ในเบลดหนึ่งเบลดใด ไม่ว่าจะใช้ Microsoft Hyper-V หรือ VMware ให้ขยายการทำงานไปยัง เบลด อื่นๆ ภายใต้ Chassis เดียวกันได้
ประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับจากโซลูชั่น Hitachi CDCS
• ผลของการใช้งาน ที่คาดการณ์ได้ นำมาใช้ซ้ำได้ และเชื่อถือได้: ด้วยสถาปัตกรรมที่สามารถตรวจสอบวัดผลได้ล่วงหน้า โซลูชั่นที่จัดเตรียมไว้ล่วงหน้าด้วยอุปกรณ์ที่ใช้ในระดับองค์กรขนาดใหญ่ เพื่อที่สามารถกำหนดค่าการใช้งานได้ก่อนแบบมีเป้าหมายและครอบคลุม ทำให้แน่ใจได้ถึงผลลัพธ์ที่คาดการณ์ได้และสอดคล้องกันเมื่อองค์กรสร้างโครงสร้างพื้นฐานแบบคลาวด์ของตนขึ้นมา ในระบบนี้ยังมีคำแนะนำ แม่แบบเพื่อเรียกใช้ซ้ำ และกระบวนการทำงานเป็นอัตโนมัติในตัวที่สามารถขยายขีดความสามารถด้านการทำกระบวนการและผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นซ้ำอีกได้
• ระยะเวลาเร็วขึ้นให้เห็นถึงความคุ้มค่า: การนำไปใช้งานที่ง่ายขึ้น เร็วขึ้น จากสั่งงานจากจุดเดียวและการจัดสรรบริการ สำหรับวางแผนและการนำไปใช้จริง สำหรับโซลูชั่นแบบผสานรวมนี้ การกำหนดค่าล่วงหน้าคือกุญแจสำคัญในการช่วยลดเวลาในการนำไปใช้งานได้อย่างมาก กระบวนการทำงานอันชาญฉลาดแบบอัตโนมัติสำหรับขั้นตอนงานที่ซับซ้อน จะช่วยให้เกิดการจัดสรรทรัพยากรได้อย่างรวดเร็วภายใต้การรับประกันที่วางใจได้ว่าส่วนประกอบของโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญจะได้รับการจัดวางและนำไปใช้อย่างเหมาะสม
• ระบบคลาวด์ในแบบของคุณเอง: ลูกค้าสามารถปรับใช้โครงสร้างพื้นฐานแบบคลาวด์ของตนได้ ณ. ขณะนี้ ด้วยการรวมโซลูชั่นที่แตกต่างกันและแม้แต่ขยายโซลูชั่นเข้าสู่โครงสร้างพื้นฐานไอทีปัจจุบัน โดยโซลูชั่นที่ได้รับการปรับให้เหมาะสมนี้ ใช้ได้กับงานทั่วไป งานที่มีความสำคัญทางธุรกิจ และ แอพพลิเคชั่นเฉพาะ ตลอดจนสภาพแวดล้อมไฮเปอร์ไวเซอร์ที่มีระดับ ของความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกัน ซึ่งครอบคลุม ตั้งแต่ รูปแบบที่กำหนดเฉพาะไปจนถึงรูปแบบผสมผสานที่ครอบคลุมระบบอื่นๆกว้างขึ้น