เอสเอสไอปรับโครงสร้างการจัดการใหม่ แต่งตั้ง Group CEO และคณะกรรมการจัดการ พร้อมรับการแข่งขันทางธุรกิจระดับโลก
นายวิทย์ วิริยประไพกิจ
เอสเอสไอปรับโครงสร้างการจัดการใหม่ แต่งตั้ง Group CEO และคณะกรรมการจัดการ พร้อมรับการแข่งขันทางธุรกิจระดับโลก
เอสเอสไอปรับโครงสร้างการบริหารจัดการใหม่ แต่งตั้งประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม (Group CEO) และคณะกรรมการจัดการ (Management Committee) เพื่อรับผิดชอบขับเคลื่อนนโยบายเชิงรุกจากคณะกรรมการบริษัท รวมถึงจัดการงานและดำเนินกิจการของบริษัทให้พร้อมกับการแข่งขันทางธุรกิจระดับโลก
นายวิทย์ วิริยประไพกิจ ประธานกรรมการบริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) หรือ เอสเอสไอ เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2554 ได้มีมติแต่งตั้งนายวิน วิริยประไพกิจ ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ ให้ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม หรือ Group CEO อีกตำแหน่งหนึ่ง พร้อมทั้งแต่งตั้งคณะกรรมการจัดการ ประกอบด้วย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม กรรมการผู้จัดการใหญ่ และผู้บริหารระดับสูงจากทุกสายธุรกิจและบริษัทในกลุ่ม โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2554 เป็นต้นไป
นายวิทย์ วิริยประไพกิจ กล่าวว่า “การปรับโครงสร้างการบริหารครั้งนี้ เพื่อรองรับการเติบโตทางธุรกิจของเอสเอสไอที่ได้ก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิตเหล็กแผ่นครบวงจรรายใหญ่ที่สุดในอาเซียน และเป็นบริษัทเหล็กระดับโลกรายแรกในอาเซียน จึงจำเป็นต้องมีการขับเคลื่อนนโยบายที่คณะกรรมการบริษัทมอบหมายให้อย่างจริงจัง เข้มข้น และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดย Group CEO จะมีบทบาทหน้าที่เป็นผู้บริหารสูงสุดของบริษัทในกลุ่มเอสเอสไอ และทำหน้าที่เป็นประธานของคณะกรรมการจัดการด้วย
สำหรับคณะกรรมการจัดการจะมีหน้าที่รับผิดชอบจัดการและดำเนินกิจการของบริษัทตามที่คณะกรรมการบริษัทมอบนโยบายให้ เพื่อก้าวไปสู่ผลการดำเนินงานที่เป็นเลิศอย่างต่อเนื่อง ให้พร้อมรับการแข่งขันทางธุรกิจทั้งในปัจจุบันและอนาคตโดยสอดคล้องกับวิสัยทัศน์พันธกิจ”
นายวิน วิริยประไพกิจ สำเร็จการศึกษาปริญญาตรี สาขาวิศวกรรมอุตสาหการ จากมหาวิทยาลัยเคโอ โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น และปริญญาโท สาขาบริหารธุรกิจ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เข้าดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ของเอสเอสไอ มาตั้งแต่ปี 2547 และได้บริหารจัดการเอสเอสไอจนประสบผลสำเร็จมีความเติบโตรุดหน้ามาโดยลำดับ
โดยความสำเร็จสำคัญล่าสุด คือ การเข้าซื้อสินทรัพย์โรงงานถลุงเหล็กและเหล็กกล้าครบวงจร Teesside Cast Products (TCP) จากกลุ่มทาทาสตีล จนกระทั่งประสบความสำเร็จรับโอนสินทรัพย์ดังกล่าวมาตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา และก่อตั้งบริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี สหราชอาณาจักร หรือ เอสเอสไอ ยูเค ขึ้นเพื่อดำเนินการโรงถลุงเหล็กดังกล่าว ในชื่อของโรงงานสหวิริยาสตีลทีไซด์ ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดดำเนินการถลุงเหล็กและผลิตเหล็กแท่งแบนได้ภายในเดือนธันวาคม 2554 ซึ่งทำให้เอสเอสไอเป็นผู้ผลิตเหล็กแผ่นครบวงจรรายใหญ่ที่สุดในอาเซียน และเป็นบริษัทเหล็กระดับโลกรายแรกในอาเซียน
“การพัฒนาและยกระดับองค์กรของเอสเอสไอในระยะหลังที่ผ่านมานี้ ได้รับความทุ่มเทตลอดจนการร่วมมือจากทีมผู้บริหาร และพนักงานชาวเอสเอสไอเป็นอย่างดีจนประสบความสำเร็จในหลายๆ ด้าน รู้สึกยินดีที่คณะกรรมการบริษัทให้ความใว้วางใจแต่งตั้งตนให้ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มอีกตำแหน่งหนึ่ง และแต่งตั้งคณะกรรมการจัดการขึ้นจากทีมผู้บริหารระดับสูงจากทุกสายธุรกิจและบริษัทในกลุ่ม ซึ่งตนและคณะกรรมการจัดการจะดำเนินงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ของเอสเอสไอที่มุ่งสร้างสรรค์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์เหล็กและบริการที่มีมูลค่าเพิ่มกับลูกค้า สร้างกำไรสม่ำเสมอ สร้างผลตอบแทนแก่ผู้มีส่วนได้เสียอย่างยั่งยืน” นายวินกล่าว
?
Thailandindustrycom_official
