ธีระมงคล ชี้ผลประกอบการ ครึ่งปีแรกมีรายได้รวมเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้กว่า 167 ล้านบาท เล็งพัฒนาบุคลากรการขายและดีลเลอร์ให้ครอบคลุมพื้นที่หัวเมืองหลัก พร้อมเดินหน้าขยายฐานลูกค้าตลาดต่างประเทศทั้งอาเซียน และตะวันออกกลาง เริ่มต้นปลายปีนี้
นายธีระชัย ประสิทธิ์รัตนพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธีระมงคล อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ TMI ผู้นำธุรกิจออกแบบ ผลิต และจัดจำหน่าย อุปกรณ์ไฟฟ้าส่องสว่าง อุปกรณ์ควบคุม หลอดไฟ และโคมไฟ ภายใต้แบรนด์กาต้า ที่มีกลุ่มลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ เปิดเผยว่า ผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2554 มีรายได้รวมทั้งสิ้น 167.92 ล้านบาท กำไรสุทธิ 10.292 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ส่วนผลประกอบการเฉพาะไตรมาส 2 ของปีนี้ TMI มีรายได้รวมอยู่ที่ 81.45 ล้านบาท กำไรสุทธิ 2.959 ล้านบาท
นายธีระชัย กล่าวถึงทิศทางผลประกอบการ ในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ ซึ่ง TMI เชื่อมั่นว่าผลการดำเนินงานน่าจะปรับตัวดีขึ้นอย่างแน่นอนและคาดว่ารายได้โดยรวมน่าจะปรับเพิ่มขึ้นมากกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองไทยเริ่มมีเสถียรภาพและชัดเจนมากขึ้น ล่าสุดได้มีการจัดตั้งรัฐบาลเรียบร้อย จึงเชื่อว่าจะส่งผลทำให้ผู้บริโภคเกิดความเชื่อมั่นและจะทำให้มีการอุปโภคบริโภคมากขึ้นตามลำดับ
“อีกทั้งทางบริษัทฯ ได้เตรียมปรับกลยุทธ์เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ต่างๆ โดยได้เพิ่มจำนวนบุคลากรด้านการขาย และจำนวนดีลเลอร์ปรับเพิ่มขึ้นอีกกว่า 100 ราย เพื่อรองรับการขยายตัวของตลาด และให้ครอบคลุมพื้นที่จัดจำหน่ายทั่วหัวเมืองหลักได้แก่ ขอนแก่น เชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี และชลบุรี เป็นต้น
อีกทั้งยังมีแผนที่จะเจาะกลุ่มตลาดรีเทลและโมเดิร์นเทรด ซึ่งล่าสุดสินค้าหลอดไฟภายใต้แบรนด์ “กาต้า” ทั้งหลอดไฟตะเกียบและหลอดไฟประเภทอื่นๆ ได้มีการว่างจำหน่ายในโกบอลเฮ้า ซึ่งถือเป็นตลาดรีเทลที่เน้นขายอุปกรณ์ก่อสร้างบ้านโดยมีสาขาครอบคลุมหัวเมืองหลัก เช่น เชียงใหม่ ระยอง ขอนแก่น เป็นต้น และในช่วงปลายปี 2554 นี้ ทางบริษัทฯ มีนโยบายเจาะตลาดต่างประเทศในแทบอาเซียน และตะวันออกกลาง” นายธีระชัย กล่าว
นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้เตรียมแผนการลงทุนระยะยาว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจให้เติบโตเพิ่มขึ้นในอนาคต โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการรอผลรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากบีโอไอ (BOI) อีก 2 โครงการ และเตรียมสร้างโรงงานเพื่อรองรับการผลิตหลอดไฟเพิ่มอีก 2 ผลิตภัณฑ์ มูลค่ารวมกว่า 70-100 ล้านบาท