เนื้อหาวันที่ : 2011-08-11 14:07:08 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1229 views

ภาวะเศรษฐกิจประจำวันที่ 11 ส.ค. 2554

1. ภาคธุรกิจท่องเที่ยวห่วงปัญหาสหรัฐ-ยุโรป กระทบท่องเที่ยวไทย
          -  นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว(TTAA) กล่าวถึงปัญหาจลาจลในประเทศอังกฤษ ว่าอาจส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจเดินทางมาท่องเที่ยวในไทย แต่ที่กังวลมากที่สุดคือปัญหาเศรษฐกิจของอเมริกาและยุโรป ซึ่งต้องรอดูสถานการณ์อีก 2 เดือน ว่าจะกระทบหรือไม่    

          -  สศค. วิเคราะห์ว่า ปัญหาเศรษฐกิจในสหรัฐและยุโรป อาจส่งผลกระทบต่อภาคบริการ และโรงแรมภัตตาคารอาหารไทย ที่มีสัดส่วนร้อยละ 16.5 ของ GDP ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวจากยุโรปและอเมริกามีสัดส่วนร้อยละ 28.9 และ 5.3 ของจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมดตามลำดับ รองจากเอเชีย ที่มีสัดส่วนร้อยละ 57.5 ซึ่งส่งผลให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีการปรับเป้าหมายของจำนวนนักท่องเที่ยวในปี54 จากเป้าเดิมที่ 17.0 ล้านคน เป็น 19.5 ล้านคน เนื่องจากพบว่า 7 เดือนแรกของปี นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดิมทางเข้าประเทศมีถึง 11.2 ล้านคน คิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวกว่าร้อยละ 57.44 ของเป้าหมายทั้งปี

2. ธนาคารกลางอินโดนีเซียคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับร้อยละ 6.75
          -  ธนาคารกลางอินโดนีเซีย ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับร้อยละ 6.75 ซึ่งอัตราดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวได้รับการพิจารณาว่ายังคงเหมาะสมสำหรับการดูแลระบบการเงินและเศรษฐกิจมหภาค อีกทั้งยังช่วยสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ธนาคารกลางอินโดนีเซียเชื่อว่าความผันผวนในตลาดการเงินโลกและการลดอันดับความน่าเชื่อสหรัฐจะส่งผลกระทบในวงจำกัดเท่านั้น ซึ่งธนาคารกลางสามารถรับมือกับผลกระทบดังกล่าวได้ ด้วยการติดตามสถานการณ์ในตลาดอย่างต่อเนื่องและประสานงานกับทางรัฐบาล 

          -  สศค.วิเคราะห์ว่า จากอัตราเงินเฟ้อของอินโดนีเซียในเดือน ก.ค. 54 ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 มาอยู่ที่ร้อยละ 4.6 จากปีก่อนหน้า ซึ่งต่ำกว่าร้อยละ 5 เป็นครั้งแรกในรอบ 14 เดือน สะท้อนแรงกดดันจากเงินเฟ้อที่ลดลงชัดเจน ดังนั้น ธนาคารคารกลางอินโดนีเซียจึงตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 6.75 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศท่ามกลางเศรษฐกิจโลกยังมีความเสี่ยงจากปัญหาหนี้สาธารณะจากสหรัฐฯและยุโรป ทั้งนี้ สศค. คาดว่าในปี 54 อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของอินโดนีเซียขยายตัวที่ร้อยละ 6.3 (คาดการณ์ ณ เดือน มิ.ย.54 )

3. เฟดมีมติคงดอกเบี้ยร้อยละ 0-0.25 พร้อมยืนยันคงดอกเบี้ยต่ำไปจนถึงกลางปี 56
          -  ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น(fed funds rate) ที่ระดับร้อยละ 0-0.25 พร้อมประกาศจะใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นพิเศษต่อไปอีกอย่างน้อยจนถึงกลางปี56 นอกจากนี้ เฟดยังส่งสัญญาณว่าอาจจะมีการใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

          -  สศค.วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐที่ยังคงเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงภายในประเทศ เช่น  อัตราการว่างงานในสหรัฐฯ ที่ปรับตัวสูงขึ้นเป็นร้อยละ 9.2 ในเดือน มิ.ย. 54 รวมไปถึงมาตรการด้านนโยบายการคลังผ่านการก่อหนี้สาธารณะ และการปรับบัญชีการใช้จ่าย ทั้งนี้ ปัจจุบันหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ อยู่ที่ประมาณร้อยละ 99 ของ GDP ซึ่งเป็นการก่อหนี้เต็มเพดาน 14.3 ล้านล้านดอลลาร์ ตลอดจนปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะวิกฤตด้านการคลังในภูมิภาคอื่นๆ เช่น ยุโรป และญี่ปุ่น จะเป็นสาเหตุให้เฟดจำเป็นต้องยืนอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 0.0-0.25 ทั้งนี้ สศค. คาดว่าในปี 54 อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯขยายตัวที่ร้อยละ 2.3 (คาดการณ์ ณ เดือน มิ.ย.54 )

ที่มา : สำนักงานเศรษฐการคลัง