เนื้อหาวันที่ : 2011-08-10 15:27:41 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1012 views

RS เปิดแผนรุกตลาดไทยรับโอกาสธุรกิจโต

RS Components เปิดแผนรุกตอบรับโอกาสการเติบโตทางธุรกิจในไทยพุ่งเป้าเจาะตลาดออโตเมชั่นและคอนโทรลที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว

          RS Components เปิดแผนรุกตอบรับโอกาสการเติบโตทางธุรกิจในไทยพุ่งเป้าเจาะตลาดออโตเมชั่นและคอนโทรลที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว

          RS Components (RS) ผู้แทนจำหน่ายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และสินค้าเพื่อการซ่อมบำรุงที่ใหญ่ที่สุดในโลก ภายใต้เครื่องหมายการค้า Electrocomponents plc (LSE: ECM) เปิดเผยถึงแผนรุกธุรกิจในไทย เริ่มจากการเร่งเพิ่มสต็อกสินค้าสำหรับตลาดออโตเมชั่นและคอนโทรล (A&C) หวังครองส่วนแบ่งจากเซ็คเตอร์นี้ที่ยังมีโอกาสในการเติบโตมหาศาลในประเทศไทย การเพิ่มยอดสต็อกสินค้าในหมวดนี้ส่งผลให้ RS Components มีจำนวนสินค้าหมวดออโตเมชั่นและคอนโทรลจากผู้ผลิตชั้นนำมากกว่า 15,000 รายการที่พร้อมจัดส่งให้แก่ลูกค้าทั่วทั้งเมืองไทยและประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ทันที 

          ตลาดออโตเมชั่นและคอนโทรลมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว จากผลการสำรวจโดย Frost & Sullivan พบว่ามูลค่ารวมของตลาดออโตเมชั่นและคอนโทรลในประเทศไทยเพียงแห่งเดียวสูงถึง 128.3 ล้านยูเอสดอลลาร์ในปี 2552 และรายได้จากอุตสาหกรรมนี้คาดว่าจะแตะ 212 ล้านยูเอสดอลลาร์ ด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) อยู่ที่ 7.4% นับจากปี 2552–2559 ด้วยจำนวนฐานข้อมูลของโรงงานผลิตในประเทศไทยที่มีมากกว่า 120,000 (ที่มา: สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และกรมโรงงานอุตสาหกรรม (DIW)) โรงงานซึ่งยังไม่ได้มีการเข้าถึงเท่าใดนัก เราจึงวางกลยุทธ์ในการสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจในประเทศไทยโดยพุ่งเป้าไปยังตลาดออโตเมชั่นและคอนโทรล ซึ่งถือเป็นตลาดที่มีความสำคัญที่สุดของเราในเวลานี้

คุณสุธี เวชพฤกษ์พิทักษ์
ผู้จัดการประจำประเทศไทยของ RS Components

          “เนื่องจากระบบการผลิตมีแนวโน้มที่จะปรับเปลี่ยนไปสู่ระบบออโตเมชั่นเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นการบำรุง รักษาและเปลี่ยนชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับระบบออโตเมชั่นและคอนโทรลได้อย่างรวดเร็วจึงมีความสำคัญมากขึ้นกว่าเดิม” กล่าวโดย คุณสุธี เวชพฤกษ์พิทักษ์ ผู้จัดการประจำประเทศไทยของ RS Components “ด้วยการขยายพอร์ทโฟลิโอของสินค้าหมวดออโตเมชั่นและคอนโทรล เราวางเป้าหมายให้ RS Components เป็น One-stop Shop เพียงแห่งเดียวในประเทศไทยที่มีสินค้าหมวดออโตเมชั่นและคอนโทรลทุกประเภทครบถ้วนที่สุด”

          นับตั้งแต่เปิดดำเนินการในประเทศไทยในปี 2549 RS Components ได้เติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งในแต่ละช่วงเวลา โดยปัจจุบันเราคือผู้จัดจำหน่ายชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำของไทย รายงานผลประกอบ การของบริษัทประจำปี 2554 แสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างมั่นคงของธุรกิจในประเทศไทย พร้อมทั้งตอกย้ำว่าประเทศไทยคือตลาดที่มีการเติบโตสูงสุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 

          ปัจจุบัน RS Components ประเทศไทยมีลูกค้ากว่า 3,000 ราย ครอบคลุมอุตสาหกรรมสำคัญต่าง ๆ อาทิเช่น อิเล็กทรอนิกส์, น้ำมันและก๊าซ, สินค้าอุปโภคบริโภคเคลื่อนที่เร็ว (FMCG) และการผลิต, และเราวางแผนจะขยายฐานลูกค้าในอุตสาหกรรมนี้เพิ่มมากขึ้น บริษัทได้วางโครงสร้างระบบการจัดจำหน่ายที่ดีเยี่ยมพร้อมทั้งทีมงานชาวไทยราว 30 คน ที่คอยให้บริการลูกค้าทั้งในภาษาไทยและภาษาอังกฤษ และอยู่ในช่วงวางแผนยกระดับการให้บริการคอลเซ็นเตอร์เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า “เรามีการจัดตั้งที่ดีพร้อมเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคตเมื่อตลาดเปิดกว้างขึ้น” คุณสุธี เวชพฤกษ์พิทักษ์ กล่าวเพิ่มเติม

          แผนสร้างการเติบโตของธุรกิจอีกประการคือ การโฟกัสไปที่กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายที่สำคัญ และประสานงานร่วมกับหน่วยงานของไทยบางแห่ง อาทิศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) เพื่อผลักดันการสรรค์สร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ในแวดวงไอซีที

นอกจากนี้บริษัทยังจัดตั้งโปรแกรมสำหรับมหาวิทยาลัย (University Programme) เพื่อบ่มเพาะวิศวกรแห่งอนาคตด้วยการมอบทูลส์ที่ช่วยในงานออกแบบ–DesignSpark ให้ใช้งานฟรี รวมถึงการให้ส่วนลดพิเศษในการสั่งซื้อชิ้นส่วนสำหรับใช้ในภาคหลักสูตรการเรียนการสอน

          พันธกิจของ RS Components ที่มีต่อตลาดในประเทศไทยนั้นไม่ได้จำกัดอยู่แค่เรื่องของธุรกิจเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมาพนักงานของ RS Components ประเทศไทยได้ร่วมแรงร่วมใจในการทำกิจกรรมเพื่อสังคม ดังนี้

          • ร่วมบริจาคเงินจำนวน  81,000 บาทให้แก่องค์กรการกุศล “Operation Smile” ซึ่งช่วยจัดหาเงินทุนสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดเด็กที่เกิดมาพร้อมกับความผิดปกติบนใบหน้า อาทิ ปากแหว่งเพดานโหว่

          • อาสาสมัครจากพนักงาน RS Components ร่วมกันปรับปรุงสภาพห้องนอนของเด็ก ๆ ในสลัมคลองเตย  ซึ่งเป็นชุมชนแออัดที่ใหญ่ที่สุดของกรุงเทพฯ ทุกคนช่วยกันทาสีใหม่ สร้างและติดตั้งเครื่องเรือนต่าง ๆ รวมทั้งมอบของใช้จำเป็นภายในบ้าน  ยิ่งไปกว่านั้นพนักงาน RS Components ยังช่วยกันสร้างร้านค้าและฝึกสอนชาวบ้านให้บริหารจัดการร้านค้า ด้วยความตั้งใจที่จะสร้างแหล่งรายได้ที่ยั่งยืน สำหรับผู้คนที่อาศัยอยู่ในชุมชนแห่งนี้ให้สามารถยังชีพได้

          • ในโอกาสที่ RS Components จัดประชุม Sale Conference ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พนักงานได้เชิญน้อง ๆ จากบ้านเด็กกำพร้าพัทยามาร่วมงานรื่นเริงพร้อมรับประทานของว่างในช่วงบ่ายที่โรงแรมดุสิตธานี พัทยา โดยร่วมเล่นเกมและจับรางวัลอย่างสนุกสนาน รวมทั้งยังร่วมบริจาคเสื้อผ้า รองเท้า และยาให้แก่เด็ก ๆ อีกด้วย