ไทยอินดัสเตรียล แก๊ส ประกาศทุ่มงบประมาณกว่า 3.5 พันล้านบาทสร้างโรงแยกอากาศที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
ไทยอินดัสเตรียล แก๊ส ประกาศทุ่มงบประมาณกว่า 3.5 พันล้านบาทสร้างโรงแยกอากาศที่ใหญ่ที่ใหญที่สุดในประเทศไทย ที่นิคมอุตสาหกรรมตะวันออก
บริษัทไทยอินดัสเตรียล แก๊ส จำกัด (มหาชน) หรือ ทีไอจี หนึ่งในกลุ่มบริษัทลินเด้ ประกาศทุ่มงบ 3,500 ล้านบาท (ประมาณ 78 ล้านยูโร) ติดตั้งโรงแยกอากาศแห่งใหม่ ที่นิคมอุตสาหกรรมตะวันออก (EIE) อำเภอมาบตาพุด จังหวัดระยอง ด้วยเทคโนโลยีล่าสุดจากประเทศเยอรมันนี
โดยโรงงานแห่งใหม่นี้จะเป็นโรงแยกอากาศที่มีกำลังการผลิตก๊าซเหลวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งจะสร้างอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกับโรงแยกอากาศปัจจุบันของบริษัทฯ ใน อำเภอมาบตาพุด และมีกำหนดเริ่มเดินเครื่องจักรในเดือนกันยายน 2556
นายคีรินทร์ ชูธรรมสถิตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทไทยอินดัสเตรียล แก๊ส จำกัด (มหาชน), กล่าวว่า "การสร้างโรงแยกอากาศแห่งใหม่นี้เป็นสิ่งแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในธุรกิจของบริษัทฯ พร้อมทั้งตอกย้ำความเป็นผู้นำในวงการก๊าซอุตสาหกรรมในประเทศไทย และถือได้ว่าเป็นกำลังการผลิตหลักของทีไอจีเลยทีเดียว โรงแยกอากาศแห่งใหม่นี้มีความสามารถในการผลิตก๊าซเหลวได้กว่า 800 ตันต่อวัน ซึ่งเมื่อบริษัทฯเริ่มเดินเครื่องจักรในการผลิตจะเป็นการเพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพในการให้บริการแก่ลูกค้าของเรา อาทิ ลูกค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์, เหล็ก, ปิโตรเคมี, เคมี, อาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงกลุ่มลูกค้าทางการแพทย์ซึ่งมีอยู่ทั่วภูมิภาคในประเทศ
นอกจากนี้ ทางบริษัทฯ มีความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่อง ที่จะเพิ่มขีดความสามารถในการจัดหาและบริการที่ดีที่สุดเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม และรองรับการเติบโตของกลุ่มลูกค้าทั้งในปัจจุบันและอนาคตข้างหน้า"
เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ทีไอจี ได้ลงทุนไปแล้วกว่า 400 ล้านบาท (ประมาณ 9 ล้านยูโร) สำหรับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของระบบผลิตและจัดจำหน่ายก๊าซของบริษัทฯ ที่อยู่ในเขตมาบตาพุด อาทิ การติดตั้งเครื่องเพิ่มแรงดันก๊าซไนโตรเจน (Nitrogen Compressor) ตัวใหม่ และวางโครงข่ายท่อส่งก๊าซเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการนำส่งผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าในบริเวณนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดและบริเวณใกล้เคียง
นายแซนจิฟ แลมบา กรรมการบริหารของ ลินเด้ เอจี และประธานกลุ่มธุรกิจลินเด้ประจำภูมิภาคเอเชียใต้และเอเชียตะวันออก กล่าวว่า "ประเทศไทยเป็นประเทศที่สำคัญในกลุ่มลินเด้ ทางลินเด้มีความกระตือรือร้นที่จะได้ขยายธุรกิจในประเทศไทย เนื่องจากเล็งเห็นถึงการเจริญเติบโต รวมถึงความต้องการในผลิตภัณฑ์และบริการของธุรกิจลินเด้ ซึ่งสอดคล้องกับการเติบโตทางเศรษฐกิจในอุตสาหกรรมของประเทศที่มีอย่างต่อเนื่อง
นายแลมบากล่าวเพิ่มเติมว่า “การตัดสินใจของลินเด้ ในการสร้างโรงงานแห่งใหม่นี้ ถือว่าเป็นการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดของลินเด้ในประเทศไทย ซึ่งเป็นความมุ่งมั่นและความต่อเนื่องของเราที่สร้างโอกาสทางการตลาดใหม่ๆ พร้อมทั้งขยายธุรกิจของเราในประเทศไทยอีกด้วย"
Thailandindustrycom_official
