เนื้อหาวันที่ : 2011-07-27 13:16:37 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 3180 views

พาเพลิน ทั่วไทย ใน 1 วัน ณ. เมืองโบราณ

จะมีที่ไหนที่ให้คุณได้ท่องเที่ยวแบบที่เดียวจบไม่ต้องขึ้นเหนือล่องใต้ไปทั่วประเทศให้เหนื่อย หลายคนคงพอนึกออก วันนี้เราจะพาคุณเที่ยวทั่วไทยใน 1 วันที่เมืองโบราณใกล้ ๆ กทม.นี่เองค่ะ

พิสิษฐ์  ช่อชิต

 

          ยังมึนๆ งงๆ อยู่กับฤดูของประเทศไทย เช้ามีฝน บ่ายมีหนาว ค่ำมีร้อน สรุปมี 3 ฤดูภายในวันเดียว (ดีนะที่ยังไม่มีหิมะ) อารัมภบทกับตัวเองก่อนสะพายกระเป๋ากล้องขึ้นบ่า เพื่อไปรวมตัวกับเพื่อนๆ ในทริปถ่ายรูปแต่เช้ามืด โดยจุดหมายปลายทางคราวนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการจะท่องเที่ยวแบบที่เดียวจบไม่ต้องไปทัวร์ทั่วประเทศไทยให้เหนื่อย เพราะที่นี่เค้าจำลองสถานที่ และสิ่งสำคัญๆ ของจังหวัดต่างๆ มารวบรวมกันไว้เกือบหมด แถมอยู่ไม่ไกลจากเมืองหลวงของเราเท่าไหร่เช้าไปเย็นกลับแบบสบายๆ จึงไม่แปลกเลยที่ทริปนี้พวกเราจะเลือกเดินทางกันไปเก็บภาพสวยๆ ที่ “เมืองโบราณ”

          เมืองโบราณ ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ พ.ศ.2506 โดยคุณเล็ก และคุณประไพ วิริยะพันธุ์ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากเมื่อครั้งออกสำรวจเก็บข้อมูลเป็นเวลากว่า 10 ปี ทั่วประเทศ ก่อนที่จะเริ่มลงมือสร้างจริงบนพื้นที่ประมาณ 800 ไร่ (พื้นที่มีรูปร่างคล้ายกับแผนที่ประเทศไทย) ณ. ตำบลบางปูใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ สถานที่ และสิ่งของสำคัญต่างๆ ในประเทศไทยจำนวนมากมายนี้ ถูกสร้างขึ้นได้ใกล้เคียงกับของจริงมาก แต่สำหรับพวกเราแล้วพอเริ่มจับแฮนด์จักรยานที่เช่ามาปั่นในบริเวณเมืองโบราณไม่ทันไร ท้องฟ้าก็ดันกลับเปลี่ยนเป็นอึมครึมขมุกขมัวเหมือนไม่อยากต้อนรับแขกอย่างพวกเราเอาซะเลย หลายคนเริ่มทำใจกับสภาพอากาศแบบนี้ (พวกนี้อุปกรณ์ครบ) อีกพวกก็ภาวนาให้ท้องฟ้าพอแจ่มใส และอย่าได้มีฝน

          ขี่จักรยานชื่นชมไปได้ไม่ไกลเท่าไหร่ก็ต้องรีบปั่นเข้าไปหลบฝนที่โปรยปราย แถวตลาดโบราณ รูปที่ได้ตอนนี้จึงหนักไปทางรูปคนซะมากกว่ารูปวิวทิวทัศน์เพราะถ่ายกันเอง บางคนก็เริ่มหาซื้อของกิน หรือของฝากกระจุกกระจิกภายในตลาดย้อนยุคแห่งนี้ พอฝนหยุดตกได้ไม่นานเท่าไหร่พวกเราจึงรีบปั่นจักรยานออกไปหาที่ถ่ายสถานที่กันต่อแบบกลัวๆ ฝน แต่จากที่เดินทางไปได้ซักพักท้องฟ้าก็เริ่มรู้เห็นเป็นใจกับพวกเรา ด้วยการส่องแสงแดดลงมาให้พอเห็นเป็นนัยๆ ว่าทริปคราวนี้คงไม่ล่มเพราะสายฝนแน่ๆ

          เสียงชัตเตอร์แว่วกระจายไปทั่ว เพราะแค่เลยซุ้มประตูทางเข้ามาได้ไม่ไกลเท่าไหร่ เราจะได้พบกับสถานที่สำคัญๆตลอด 2 ข้างทาง ไม่ว่าจะเป็นพระบรมธาตุไชยา สุราษฎ์ธานี, สวนอิเหนา, เทวรูปปัลลวะ พังงา, อนุสรณ์สถานสงครามยุทธหัตถี ฯลฯ จนมาถึงทางแยกตรงวงเวียนพระพุทธรูปทวารวดี พวกเราจึงตกลงแบ่งออกกันเป็น 2 กลุ่ม โดยกลุ่มแรกจะไปแวะพักกันที่ศาลาพระอรหันต์ อีกกลุ่มก็จะไปพักที่ปราสาทพระวิหาร ศรีสะเกษ ซึ่งถ้าหากเรามองเมืองโบราณจากภาพถ่ายทางอากาศจะพบว่า กลุ่มแรกน่าจะต้องปั่นจักรยานมากกว่ากลุ่มที่สองเพราะสถานที่แต่ละจุดจะอยู่กระจายตัวแบบห่างๆ จากที่หนึ่งไปยังอีกที่จึงต้องปั่นจักรยานกันน่าดู แต่ข้อดีของกลุ่มนี้คือสถานที่แต่ละจุดนั้นเป็นสถานที่ที่เป็นที่โล่งแจ้ง มีขนาดใหญ่ และกว้าง เช่น เขาพระสุเมรุ, พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ปางแสดงปาฏิหาริย์, สวนพฤกษชาติในวรรณคดีไทย, เรือสำเภาไทย ฯลฯ ดังนั้นการชื่นชม และถ่ายรูปในแต่ละสถานที่จึงค่อนข้างใช้เวลานานเป็นพิเศษ

          ส่วนอีกกลุ่มนับว่าเป็นกลุ่มที่โชคดีในเรื่องของจำนวนสถานที่ในแต่ละจุดเพราะสถานที่ต่างๆ ทางด้านนี้ จะถูกสร้างให้อยู่บริเวณใกล้เคียงกัน เช่น ปราสาทหินพิมาย นครราชสีมา, ศาลาแปดเหลี่ยม, พระธาตุพนม นครพนม, ปราสาทหินพนมรุ้ง บุรีรัมย์, ปราสาทสด๊กก๊อกธม สระแก้ว, ป่าเจดีย์, พระที่นั่งสรรเพชญปราสาท อยุธยา ฯลฯ เรียกได้ว่ากลุ่มนี้แค่จอดรถจักรยานไว้ที่ที่หนึ่งแล้วเดินถ่ายรูปก็ได้หลายสถานที่แล้ว (ข้อเสียคือสถานที่เยอะจัดจนลายตา...ถ่ายไม่หมด) 

          พอถึงช่วงบ่ายกว่าๆ จึงได้โทรนัดหมายอีกกลุ่มเพื่อไปเจอกันที่ ตลาดน้ำ ซึ่งตั้งอยู่เกือบระหว่างกลางของพื้นที่ทั้ง 2 กลุ่ม โดยตกลงกันว่าหากมีเวลาเหลือพอก็จะสลับพื้นที่กันไปตระเวนถ่ายรูปกันต่อ แต่ถ้าเวลาไม่พอก็จะได้หาอะไรกินที่ตลาดน้ำ เพื่อที่จะได้เตรียมตัวกลับบ้านกัน ซึ่งผลก็ออกมาตามข้อตกลงข้อที่ 2 เพราะขืนเลือกข้อแรกรับรองว่าได้นอนค้างที่นี่แน่ๆ

          อีกอย่างที่ขอชมเชยสำหรับการมาทริปถ่ายรูปคราวนี้ ตลอดการขี่จักรยานไปๆ มาๆ ในเมืองโบราณ เราจะพบว่าเจ้าหน้าที่ของเมืองโบราณ เค้าปฏิบัติงานในตำแหน่งของตนเองได้ค่อนข้างดีถึงดีมาก เพราะตลอด 2 ข้างทางที่ขี่จักรยานจะพบว่ามีเจ้าหน้าที่คอยดูแล และทำความสะอาด ตกแต่งต้นไม้ใบหญ้าอยู่ตลอดเวลา ทำให้สถานที่ต่างๆ โดยรวมทั้งหมดของเมืองโบราณดูมีระเบียบสวยงาม แลดูสะอาดตาไปหมด ทำให้การชื่นชมความงดงามของศิลปะในแต่ละสถานที่ที่ถูกสร้างขึ้นมีเสน่ห์เพิ่มขึ้นมาอีกมากมาย แถมบางส่วนที่มีการซ่อมแซมก็จะมีเจ้าหน้าที่คอยบอกนักท่องเที่ยวอีกต่างหาก ถนนเส้นเล็กๆ ที่ลัดเลาะเชื่อมต่อกันไปมาในเมืองโบราณยังมีจุดให้พักผ่อน และร้านขายเครื่องดื่มอยู่เป็นระยะๆ สำหรับท่านที่ไม่แน่ใจว่าจะยึดจุดไหนในเมืองโบราณเป็นหลัก หรือเป็นที่นัดหมาย ก็ขอแนะนำที่ตลาดน้ำของเมืองโบราณเค้านี่แหล่ะ มีที่ให้นั่งคอยแถมมี ของกิน ของใช้ ของฝาก ครบหมด

          ความสวยงามของเมืองโบราณทำให้พวกเราหลายคนสรุปได้ว่าหากจะมาถ่ายรูปที่เมืองโบราณภายในหนึ่งวัน บอกได้เลยว่าไม่มีทางถ่ายครบทุกที่ได้อย่างแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์ (เว้นถ่ายแบบรวกๆ) แต่หากจะมาเพื่อเพลิดเพลินสบายๆ กับสถานที่สำคัญต่างๆ ทั่วประเทศไทยภายในวันเดียวก็ถือว่าคุ้มมากมาย

          สำหรับทริปถ่ายรูปวันนี้พวกเราเองได้ฉากหลังของภาพที่ไม่ดีเท่าที่ควร บางรูปจะเห็นว่าท้องฟ้าสีหม่นๆ บางรูปก็แดดจ้าซะ แต่ก็ยังดีกว่าฝนตกตลอดจนทำให้ได้แต่ภาพของพวกเรากันเอง สภาพอากาศวันนี้เลยมีส่วนให้บางคนในทริปป่าวประกาศล่วงหน้าไว้เลยว่าจะต้องกลับมาถ่ายซ่อมที่เมืองโบราณนี้อีกแน่นอน แต่สำหรับผมแล้วนึกแอบประกาศกร้าวไว้ในใจว่าจะกลับมาเมืองโบราณแห่งนี้อีก...ในอาทิตย์หน้าแน่นอน

การเดินทาง
          - รถยนต์ส่วนบุคคล: ใช้เส้นทางด่วน ปลายทางที่สำโรง-สมุทรปราการ ถึงสามแยกสมุทรปราการให้เลี้ยวซ้ายไปตามถนนสุขุมวิทสายเก่า (ไปทางบางปู) ประมาณกิโลเมตรที่ 33 เมืองโบราณจะอยู่ทางด้านซ้ายมือ
          - สายรถประจำทาง: รถโดยสารประจำทาง สาย 25, 102, 145 รถโดยสารปรับอากาศ สาย 25, 102, 142, 142, 507, 508, 511 (สายใต้ใหม่-ปากน้ำ), 536 ไปลงตลาดปากน้ำ แล้วต่อรถสองแถวสาย 36 หรือสองแถว ปากน้ำ-วัดตำหรุ, ปากน้ำ-นิคมบางปู และ ปากน้ำ-คลองด่าน ผ่านเมืองโบราณ 
          - สถานที่ตั้ง: 296/1 หมู่ที่ 7 ถ.สุขุมวิท ต.บางปูใหม่ อ.เมืองฯ จ.สมุทรปราการ 10280
          - เวลาปิด - เปิด: 08.00 - 17.00 น.
          - เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ: สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ บริษัทเมืองโบราณ จำกัด ตำบลบางปู กิโลเมตรที่ 33 โทร. 0-2709-
             1644 สำนักงานกรุงเทพฯ มุมอนุสาวรีย์ ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินกลาง โทร. 0-2224-1057, 0-2226-1936-7
          - เว็บไซต์:  www.ancientcity.com

ขอบคุณบทความดี ๆ จาก Add Free Magazine