บลจ.ไอเอ็นจี มองจังหวะลงทุน อีควิตี้ ทริกเกอร์ 10% ดี นักวิเคราะห์ไทย-ต่างชาติมองตลาดหุ้นไทยสดใส ผลประกอบบริษัทจดทะเบียนโดดเด่น ดันตลาดหุ้นไทยทะยานต่อ
นายต่อ อินทวิวัฒน์
ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายธุรกิจกองทุนและที่ปรึกษาการลงทุน
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด
บลจ.ไอเอ็นจี มองจังหวะลงทุน “อีควิตี้ ทริกเกอร์ 10% (4)” ดี นักวิเคราะห์ไทย-ต่างชาติมองตลาดหุ้นไทยสดใส ผลประกอบบริษัทจดทะเบียนโดดเด่น ดันตลาดหุ้นไทยทะยานต่อ
บลจ.ไอเอ็นจี เชื่อลงทุน “อีควิตี้ ทริกเกอร์ 10% (4)” ถูกจังหวะ มั่นใจทิศทางตลาดหุ้นไทยยังสดใส หลังนักวิเคราะห์ต่างชาติยกให้ไทยมีตัวเลขกำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 2/2554 โต 31% สูงสุดในภูมิภาค ด้านสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์มองดัชนีสิ้นปี 1197 ถึง 1221 จุด ปัจจัยสนับสนุนสำคัญ ภาคการเมืองชัดเจน เศรษฐกิจโตต่อเนื่อง เม็ดเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติกลับมาในตลาดหุ้นอีกครั้ง เชื่อปัญหาวิกฤติหนี้ยุโรปและการแก้ปัญหาหนี้สหรัฐฯ สามารถจัดการได้ มองเลือกลงทุนในจังหวะดี มีโอกาสพิชิตเป้าหมายผลตอบแทนได้ ย้ำเสนอขายจนถึง 25 กรกฎาคมนี้ จองขั้นต่ำเพียง 2,000 บาท
นายต่อ อินทวิวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายธุรกิจกองทุนและที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า หลังจาก บลจ.ไอเอ็นจี เสนอขาย “กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย อีควิตี้ ทริกเกอร์ 10% (4)” (ING Thai Equity Trigger 10% Fund (4)) ให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา ปรากฏว่า ได้รับกระแสตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี โดยมีผู้สนใจจองซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากนักลงทุนมั่นใจในทิศทางของตลาดหุ้นไทย หลังจากสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์เปิดเผยผลสำรวจนักวิเคราะห์ล่าสุด ซึ่งได้มีการปรับดัชนีราคาหุ้นเป้าหมายเพิ่มขึ้นจาก 1,187 จุดเป็น 1,197 และมีโอกาสขึ้นสูงสุดที่ระดับ 1,221 จุด ในขณะที่คาดว่าอัตราการเติบโตของกำไรต่อหุ้น (EPS Growth) ปี 54 จะปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นเฉลี่ย 16.7% รวมถึงความเชื่อมั่นจากนักลงทุนต่างชาติที่กลับเข้ามาลงทุนในช่วงที่ผ่านมา และการที่สถาบันวิจัยต่างชาติประเมินว่า บริษัทจดทะเบียนของไทยจะมีกำไรสุทธิในไตรมาส 2/2554 เติบโต 31.7% สูงกว่าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นอินโดนีเซีย สิงคโปร์ และมาเลเซีย (source: Morgan Stanley 19 July 2011)
“การปรับประมาณการเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยเพิ่มขึ้นของบรรดานักวิเคราะห์ ซึ่งเป็นสมาชิกสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ มีปัจจัยสำคัญมาจากกระแสเงินทุนจากต่างชาติที่ไหลเข้ามาลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่อง หลังจากมีการประเมินว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวเพิ่มขึ้น รวมถึงผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ดีขึ้นสูงกว่าประเทศอื่นในภูมิภาค อย่างไรก็ตาม แม้เราจะเชื่อว่าตลาดยังไปได้ ตามที่นักวิเคราะห์คาด แต่ก็คงจะมีความผันผวนค่อนข้างสูง ไม่แพ้ในช่วงครึ่งปีแรก นั่นจะเป็นสาเหตุที่เราออก “กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย อีควิตี้ ทริกเกอร์ 10% (4)” เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่นักลงทุน เพราะเป็นกองทุนที่มีความยืดหยุ่นในการลงทุน ทั้งการปรับเปลี่ยนน้ำหนักการลงทุนในหุ้น (Market Timing) และการกำหนดน้ำหนักของการลงทุนในหุ้นแต่ละตัว (Stock Weighting) ซึ่งเป็นจุดเด่นในการบริหารพอร์ตการลงทุนในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนได้เป็นอย่างดี ” นายต่อกล่าว
ขณะเดียวกัน นโยบายการลงทุนของ “กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย อีควิตี้ ทริกเกอร์ 10% (4)” ที่เน้นลงทุนในหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย โดยจะเลือกลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง มีผลประกอบการดี มีแนวโน้มการเติบโตสูง และการใช้เทคนิคเรื่องการจับจังหวะที่เหมาะสมในการเข้า-ออกตลาด เพื่อสร้างโอกาสให้ได้ผลตอบแทนจากการลงทุนตามเป้าหมาย โดยเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนสุทธิ (NAV) เพิ่มขึ้นจากราคาเสนอขายครั้งแรกที่ 10 บาท ไปอยู่ที่ 11.20 บาทต่อหน่วย ณ วันใดวันหนึ่ง กองทุนก็จะดำเนินการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนทั้งหมดโดยอัตโนมัติ ภายใน 5 วันทำการ และนำเงินค่าขายคืนหน่วยลงทุนไปลงทุนใน กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย แคช แมเนจเม้นท์ ในวันทำการถัดจากวันที่รับซื้อคืนอัตโนม้ติ ยังสอดคล้องกับความต้องการของนักลงทุนและเหมาะสมกับสถานการณ์การลงทุนในขณะนี้
ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายธุรกิจกองทุนและที่ปรึกษาการลงทุน บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) กล่าวด้วยว่า แม้ว่าขณะนี้ดัชนีราคาหุ้นไทยจะขยับเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังเชื่อว่า การลงทุนในช่วงเวลานี้ ราคาหุ้นพื้นฐานดีหลายบริษัทยังอยู่ในระดับที่ไม่แพง อีกทั้งกองทุนอาจถือเงินสดไว้รอการลงทุนที่ระดับราคาที่เหมาะสม เนื่องจากมองว่าจากความเชื่อมั่นในพื้นฐานเศรษฐกิจไทยที่มีความแข็งแกร่งสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และมีปัจจัยสนับสนุนที่จะสามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในตลาดหุ้นไทยได้
“กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย อีควิตี้ ทริกเกอร์ 10% (4)” ของ บลจ.ไอเอ็นจี เสนอขายระหว่างวันที่ 18-25 กรกฎาคมนี้ โดยกำหนดอัตราจองซื้อขั้นต่ำ 2,000 บาท ผู้สนใจสามารถขอรายละเอียดได้ที่ บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) โทร.02-688-7777 กด 2 หรือ www.ingfunds.co.th
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
Thailandindustrycom_official
