PYLON คว้า 2 งานใหม่ ดัน Backlog พุ่งแตะ 1.2 พันลบ. เบนเข็มลุยงานรัฐเพิ่ม รับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ
นายบดินทร์ แสงอารยะกุล
กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน)
PYLON คว้า 2 งานใหม่ ดัน Backlog พุ่งแตะ 1.2 พันลบ. เบนเข็มลุยงานรัฐเพิ่ม รับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ
“บดินทร์ แสงอารยะกุล” ออกอาการปลื้ม หลังPYLON คว้างานใหม่อีก 2 โครงการ มูลค่ารวม 116.70 ล้านบาท ดัน Backlog พุ่งแตะ 1.2 พันล้านบาท ระบุแนวโน้มธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง และงานเสาเข็มเจาะยังโตต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง เชื่อรัฐบาลชุดใหม่แสดงเสถียรภาพแก้ปัญหา และขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจด้วยการลงทุนสานต่อโครงการเมกะโปรเจ็กกระตุ้นอุตสาหกรรมคึกคัก วางเป้าขยับสัดส่วนรับงานภาครัฐเป็น 60% ในปี 2555 จากปัจจุบันมีสัดส่วน 40% ส่วนทั้งปียังคงเป้ารายได้แตะ 1 พันล้านบาท
นายบดินทร์ แสงอารยะกุล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) หรือ PYLON เปิดเผยว่า ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและงานเสาเข็มเจาะมีการขยายตัวอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา และยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในครึ่งปีหลังนี้ โดยเฉพาะการได้รัฐบาลชุดใหม่เข้ามาบริหารประเทศ ซึ่งเชื่อว่าจะมีเสถียรภาพ สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เป็นไปตามนโยบาย และเอื้อประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างและงานเสาเข็มเจาะของบริษัทฯ ให้มีทิศทางที่ดีขึ้น
ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทฯ รับงานภาครัฐในสัดส่วน 40% และงานภาคเอกชนในสัดส่วน 60%โดยในปี 2555 บริษัทฯ มีโอกาสปรับสัดส่วนการรับงานภาครัฐเพิ่มขึ้นเป็น 60% ขณะที่งานภาคเอกชนมีสัดส่วน 40% จากนโยบายใหม่ในการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนของรัฐบาลชุดใหม่ รวมถึงการสานต่อโครงการเมกะโปรเจ็กต่างๆ อาทิ โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า ซึ่งจะเอื้อประโยชน์ต่อธุรกิจของบริษัทฯ อย่างมีนัยสำคัญ
“เชื่อว่ารัฐบาลชุดใหม่จะแสดงเสถียรภาพในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และจะขับเคลื่อนนโยบายทางเศรษฐกิจต่างๆ ได้มากขึ้น ซึ่งหากเศรษฐกิจกระเตื้องจะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมการก่อสร้างและเสาเข็มเจาะ และแน่นอนว่าบริษัทฯ ได้ประโยชน์ในการรับงานมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงครึ่งปีหลังนี้ ซึ่งจะส่งผลชัดเจนต่อผลประกอบการในไตรมาส 3/2554 เป็นต้นไป” นายบดินทร์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด บริษัทฯ ได้รับงานก่อสร้างเพิ่มเติมอีก 2 โครงการ มูลค่ารวมจำนวน 116.70 ล้านบาท ประกอบด้วยงานเสาเข็มเจาะสำหรับอาคารในโครงการชีวาทัย รามคำแหง ว่าจ้างโดยบริษัทชีวาทัย จำกัด มีระยะเวลาก่อสร้าง 75 วัน และงานเสาเข็มเจาะสำหรับโครงการพัฒนาที่ดินบริเวณ Block E และ D2 ศูนย์การค้าสยามสแควร์ ว่าจ้างโดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระยะเวลาก่อสร้าง 120 วัน ซึ่งการรับงาน 2โครงการใหม่ดังกล่าว ส่งผลให้งานในมือของบริษัทฯ (Backlog) เพิ่มขึ้นเป็น 1,200 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้ปีนี้สัดส่วน 50% และส่วนที่เหลือทยอยรับรู้รายได้ในปีถัดไป
นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังมีโครงการที่เตรียมประมูลในครึ่งปีหลังนี้อีกมูลค่าประมาณ 2,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นงานรับเหมาก่อสร้างทั่วไป มูลค่า1,200 ล้านบาท และงานเสาเข็มเจาะ มูลค่า 800 ล้านบาท ซึ่งจากศักยภาพทางธุรกิจของบริษัทฯ คาดว่ามีโอกาสได้งานประมาณ 25% ของงานที่เข้าประมูล และ ยังมั่นใจว่ารายได้ทั้งปีเป็นไปตามเป้าที่ 1,000 ล้านบาท เพิ่มจากปีก่อนที่มีรายได้ 630.87 ล้านบาท