เนื้อหาวันที่ : 2011-07-19 10:10:34 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1642 views

Adobe Creative Suite 5.5 Production Premium

โซลูชั่นซอฟต์แวร์แบบครบวงจรสำหรับวิดีโอและงานโพสต์โปรดักชั่นยกระดับประสิทธิภาพ ปรับปรุงเวิร์กโฟลว์อย่างครบวงจรสำหรับมืออาชีพด้านระบบเสียงและวิดีโอ

           Adobe Creative Suite 5.5 Production Premium โซลูชั่นซอฟต์แวร์แบบครบวงจรสำหรับวิดีโอและงานโพสต์โปรดักชั่นยกระดับประสิทธิภาพ ปรับปรุงเวิร์กโฟลว์อย่างครบวงจรสำหรับมืออาชีพด้านระบบเสียงและวิดีโอ
  
           Adobe Creative Suite 5.5 Production Premium โซลูชั่นซอฟต์แวร์แบบครบวงจรสำหรับวิดีโอและงานโพสต์โปรดักชั่น ซึ่งรองรับการนำเสนอคอนเทนต์สำหรับหน้าจอทุกขนาดบนอุปกรณ์หลากหลายรุ่น  ด้วยสมรรถนะที่เหนือชั้น การปรับปรุงเวิร์กโฟลว์ การสร้างสรรค์นวัตกรรม และการตัดต่อเสียงอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ โปรดักชั่น พรีเมี่ยม ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากลูกค้า ทั้งในส่วนของสถานีโทรทัศน์ ผู้สร้างภาพยนตร์ และมืออาชีพด้านวิดีโอทั่วโลก โดยมีการอัพเดตคอมโพเนนต์ต่างๆ เช่น Adobe Premiere Pro CS5.5, Adobe After Effects CS5.5, Adobe Flash Professional CS5.5, Adobe Flash Catalyst CS5.5, Adobe Story, Adobe Media Encoder CS5.5 และ Adobe Device Central CS5.5  และส่วนประกอบใหม่ใน Creative Suite 5.5 ก็คือ Adobe Audition CS5.5 ซึ่งรองรับการตัดต่อเสียงสำหรับวิดีโอแบบมัลติแทร็คบน Mac OS และ Windows เป็นครั้งแรกในแวดวงอุตสาหกรรม

          พร้อมด้วยแผนบริการสมัครสมาชิกที่ยืดหยุ่นและช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายสำหรับลูกค้าที่ต้องการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ อะโดบี ครีเอทีฟ สวีท (Creative Suite) อยู่เสมอ หรืออาจต้องการใช้งานสำหรับโครงการหนึ่งๆ หรือต้องการทดลองใช้งานซอฟต์แวร์เป็นครั้งแรก โดย Subscription Editions จะช่วยให้สามารถใช้งานซอฟต์แวร์เวอร์ชั่นล่าสุด โดยไม่ต้องจ่ายค่าซอฟต์แวร์เต็มราคา

          Adobe Creative Suite 5.5 Production Premium ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพอย่างเหนือชั้นสำหรับมืออาชีพด้านวิดีโอและเสียงที่ต้องการเพิ่มความรวดเร็วให้กับเวิร์กโฟลว์การทำงาน  Adobe Mercury Playback Engine ใน Adobe Premiere Pro CS5 ช่วยขยายการสนับสนุนฮาร์ดแวร์หน่วยประมวลผลกราฟิก (Graphics Processing Unit - GPU) เพื่อให้ครอบคลุมแลปท็อปและการ์ดแสดงผลเพิ่มเติม ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเริ่มต้นโครงการได้เร็วขึ้น รับคำติชมแบบเรียลไทม์สำหรับฟีเจอร์ที่เร่งความเร็ว GPU และทำงานได้ราบรื่นมากขึ้นที่ความละเอียด 4k ขึ้นไป

          Adobe Premiere Pro CS5.5 เพิ่มประสิทธิภาพ ด้วยการรองรับเวิร์กโฟลว์การตัดต่อที่ราบรื่นและต่อเนื่อง โดยอาศัยเครื่องมือตัดต่อที่แม่นยำมากขึ้น  การสนับสนุนเสียงแบบ Dual-system จากคำสั่ง Merge Clips ใน Adobe Premiere Pro CS5.5 จะช่วยให้ผู้ใช้ซิงค์วิดีโอเข้ากับระบบเสียงคุณภาพสูงที่บันทึกไว้บนอุปกรณ์ที่แยกต่างหาก เช่น เครื่องบันทึกโลเกชั่น ซึ่งเหมาะสำหรับเวิร์กโฟลว์ DSLR หรือ RED  การใช้ประโยชน์จากเวิร์กโฟลว์แบบครบวงจรโดยใช้ Adobe Audition จะช่วยให้ผู้ใช้ Adobe Premiere Pro ประหยัดเวลาด้วยการบันทึกคลิปและลำดับภาพ

          รวมถึงวิดีโออ้างอิง ไปยัง Adobe Audition โดยตรงสำหรับการตัดต่อและกู้คืนเสียง ด้วยการสนับสนุนที่เหนือกว่าสำหรับ RED และกล้องอื่นๆ ที่ไม่ใช้เทป รวมถึงกล่องโต้ตอบ RED Source Settings ใน Premiere Pro และ After Effects CS5.5 และการสนับสนุนแบบเนทีฟสำหรับสื่อที่มีความละเอียดสูงสุด 5k จากกล้อง RED Epic ผ่านทางส่วนขยายที่มีอยู่บน Adobe Labs  การจัดหาโซลูชั่นตัดต่อแบบเนทีฟใน CS5.5 ช่วยให้ผู้ใช้ประหยัดเวลา และขจัดความจำเป็นในการเข้ารหัส/ถอดรหัส หรือการปรับแต่งฟุตเทจภาพยนตร์

          ด้วยการพัฒนาต่อยอดจากความสามารถในการแสดงผลหลายหน้าจอของ Creative Suite Production Premium มีการปรับเปลี่ยน Adobe Media Encoder CS5.5 รุ่น 64 บิต เพื่อนำเสนอลำดับวิดีโอ Adobe Premiere Pro, ผลงาน After Effects และโครงการ Adobe Encore สำหรับหน้าจอหลากหลายรูปแบบภายในเวลาอันรวดเร็ว ขณะที่กำลังเข้ารหัสที่ส่วนแบ็คกราวด์  นอกจากนี้ Adobe Media Encoder CS5.5 ยังรองรับรูปแบบใหม่ๆ เช่น AVC-Intra และ DPX รวมถึงโฟลเดอร์สำหรับการรับชม เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้ารหัสคลิปวิดีโอหนึ่งชุดสำหรับปลายทางที่หลากหลาย โดยใช้การลากและปล่อยอย่างง่ายดาย

การสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ปฏิวัติวงการ
          นวัตกรรมใหม่ๆ ในชุดซอฟต์แวร์นี้ช่วยให้มืออาชีพด้านเสียงและวิดีโอสามารถขจัดอุปสรรคในการสร้างสรรค์งานครีเอทีฟ  ทั้งนี้ After Effects CS5.5 มีฟีเจอร์ใหม่ๆ เช่น Warp Stabilizer, Camera Lens Blur และ Light Falloff ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับปรุงฟุตเทจภาพยนตร์ในขั้นตอนโพสต์โปรดักชั่น  ฟีเจอร์ Warp Stabilizer จะกำจัดปัญกาการสั่นไหวของกล้อง ทำให้ภาพที่ได้ดูเรียบนิ่งราวกับว่ากล้องถ่ายภาพยนตร์ถูกติดตั้งไว้บนแท่นตั้งวางที่มั่นคง  ขณะที่เอฟเฟ็กต์ Camera Lens Blur เลียนแบบภาพเบลอจากเลนส์ได้อย่างสมจริง  ส่วนเอฟเฟ็กต์ Light Falloff ช่วยให้ผู้ใช้จำลองแสงธรรมชาติที่ตกกระทบวัตถุในฉาก 3 มิติ และยังสามารถใช้ในการสร้างเอฟเฟ็กต์ความเข้มแสงในลักษณะอื่นๆ ได้อีกด้วย

          นอกเหนือจากงานด้านเสียงแล้ว ตอนนี้บุคลากรด้านงานวิดีโอจะสามารถใช้ประโยชน์จาก Adobe Audition ใน CS5.5 Production Premium สำหรับแพลตฟอร์ม Mac และ Windows โดยเอนจิ้นเสียงที่ปรับเปลี่ยนใหม่ใน Audition นับเป็นชุดเครื่องมือที่แข็งแกร่งสำหรับการบันทึก ตัดต่อ มิกซ์ ปรับแต่ง และปรับเสียงให้อ่อนนุ่มลง ด้วยเครื่องมือตัดต่อและมิกซ์แบบมัลติแทร็ค จึงช่วยลดเสียงรบกวน พร้อมเสนอทางเลือกเอฟเฟ็กต์ที่หลากหลาย ช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญด้านเสียงและวิดีโอบนแพลตฟอร์ม Mac และ Windows ได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จาก Adobe Audition CS5.5 สำหรับการจัดการงานต่างๆ มากมายอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

ปรับปรุงการทำงานร่วมกัน
          Adobe Creative Suite 5.5 Production Premium ผลักดันการสร้างสรรค์นวัตกรรม ด้วยการปรับปรุงการทำงานร่วมกันบนเวิร์กโฟลว์ที่มีอยู่ แม้กระทั่งในกรณีที่ผู้ใช้แต่ละคนใช้เครื่องมือที่แตกต่างหลากหลาย  การสนับสนุนการแลกเปลี่ยนโครงงานที่ปรับปรุงดีขึ้นสำหรับผู้ใช้ Final Cut Pro จะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นสูงสุดสำหรับพนักงานตัดต่อวิดีโอ ขณะที่การสนับสนุน OMF ใน Adobe Premiere Pro และ Adobe Audition ช่วยให้สามารถส่งออกโครงงานเสียงคุณภาพสูงไปยัง Avid ProTools ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกันของพนักงานตัดต่อเสียง พนักงานรีมิกซ์ และนักออกแบบเสียง