โตโย-ไทย เซ็นสัญญารับงานใหญ่สร้างโรงงานสินแร่หายาก Rare Earths ที่มาเลเซียมูลค่ากว่าหกพันล้านบาทดันแบ็คล็อคเพิ่มเท่าตัว
โตโย-ไทย (TTCL) เซ็นสัญญาคว้างานใหญ่ รับเหมาครบวงจรมูลค่า 6,000 ล้านบาท รับงานก่อสร้างโรงงานสินแร่หายาก Rare Earths ขนาดใหญ่ที่มาเลเซีย ดันแบ็คล็อคเพิ่ม 1 เท่าตัวเป็นกว่า 12,000 ล้านบาท
คุณสุวิทย์ มโนมัยยานนท์ กรรมการบริหารและรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโสฝ่ายขาย ของ TTCL หรือ บริษัทโตโย-ไทย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าบริษัทฯ ได้เซ็นสัญญารับงานก่อสร้างทั้งโครงการที่เมืองกวนตัน รัฐปาหัง ประเทศมาเลเชีย ให้กับบริษัท ไลนาส (มาเลเชีย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัท ไลนาส คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ LYC ซึ่งเป็น 1 ใน 100 บริษัทมหาชนขนาดใหญ่ของตลาดหลักทรัพย์ออสเตรเลีย- ASX100)
“เราภูมิใจที่ได้รับความไว้วางใจ จากกลุ่มบริษัท ไลนาส คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ให้ดำเนินงาน รับเหมาแบบครบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่ ออกแบบวิศวกรรม ติดตั้งเครื่องจักร และก่อสร้างโรงงานแยกสินแร่หายาก Rare Earth โรงแรกของโลก ที่ตั้งอยู่นอกประเทศจีน มูลค่าโครงการประมาณ 5,400 – 6,300 ล้านบาท (US$ 180 – 210 million) ซึ่งสินแร่หายาก Rare Earth นี้เป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตสินค้าไฮเทคจำนวนมาก สำหรับหลากหลายอุตสาหกรรมโดยเฉพาะ อุตสาหกรรมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น Ipod จอภาพ อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ อุตสาหกรรมพลังงานทดแทน เช่น เครื่องผลิตกังหันลม ที่สำคัญเป็นวัตถุดิบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยนำเข้าจากเหมืองของกลุ่มบริษัท ไลนาสในประเทศ ออสเตรเลีย
การชนะงานโครงการนี้ที่มีมูลค่าประมาณ 6,000 ล้านบาท ทำให้ มูลค่างานในมือหรือ แบ็คล็อค ของ TTCL เพิ่มขึ้นกว่า 1 เท่า ตัวเป็นประมาณ 12,000 ล้านบาท และ TTCL จะสามารถรับรู้รายได้จากโครงการนี้ได้ทันทีตั้งแต่ไตรมาส 3 นี้ โดยโครงการจะเริ่มดำเนินงานในเดือนสิงหาคม 2554 นี้และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปลายปี 2555” คุณสุวิทย์ มโนมัยยานนท์ กล่าว
“โครงการนี้ เป็น 1 ในโครงการในต่างประเทศ ที่สำคัญในปีนี้ของบริษัทฯ ซึ่ง TTCL มั่นใจว่าจะสามารถเติบโตได้สูงถึง 40% ด้วยกลยุทธ์เติบโตทั้งนอกบ้านและในบ้าน คือ การขยายงานต่างประเทศควบคู่กับงานในประเทศ ขณะนี้ TTCL มีงานก่อสร้างทั้งในประเทศและต่างประเทศหลากหลายโครงการ อาทิ โครงการก่อสร้างโรงงานผลิตเอทานอลที่เวียดนาม โครงการสร้างโรงไฟฟ้านวนคร (NNE) (ซึ่งโครงการนี้นอกจากบริษัทฯจะได้รับงานรับเหมาแบบครบวงจร EPC แล้วบริษัทฯยังได้เข้าลงทุนด้วยการเข้า ถือหุ้น บุริมสิทธิ์ประมาณ 71% ของทุนจดทะเบียน ซึ่งจะทำให้ TTCL มีผลประกอบการที่มั่นคงสูงยิ่งขึ้น)
“TTCL มุ่งมั่นใช้กลยุทธ์หมวก 2 ใบเพื่อขยายธุรกิจคือ นอกจากจะรับงานรับเหมาก่อสร้างแบบครบวงจร (EPC) แล้วบริษัทฯยังพร้อมจะร่วมเข้าลงทุนถือหุ้นในโครงการที่น่าสนใจอีกด้วย (ดังเช่นโครงการโรงไฟฟ้า นวนคร) เนื่องจากบริษัทฯมีสถานะการเงินที่แข็งแกร่ง มีปริมาณเงินสดในมือสูง และมีทีมผู้บริหารและวิศวกรที่พรั่งพร้อม อีกทั้งมีพันธมิตรหลักระดับโลกที่ร่วมถือหุ้นในบริษัท ถึง 3 บริษัทคือ โตโย เอ็นจิเนียริ่ง (TOYO Engineering) และ ชิโยดะ คอร์ปอเรชั่น (CHIYODA Corporation) ซึ่งเป็นผู้รับเหมาครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 3 และ 2 ในประเทศญี่ปุ่นและ บมจ. อิตาเลียนไทย เดเวล็อปเมนต์ (ITD) ผู้รับเหมาก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดของไทย โดยในขณะนี้ TTCL อยู่ระหว่างการเข้าประมูลงานหลากหลายโครงการทั้งในและต่างประเทศ มูลค่ารวมกว่า 70,000 ล้านบาท” คุณสุวิทย์กล่าวสรุป