เนื้อหาวันที่ : 2011-07-08 16:45:49 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1042 views

ภาวะเศรษฐกิจประจำวันที่ 8 ก.ค. 2554

1. ธนาคารพาณิชย์ไทยปรับเพิ่มเป้าสินเชื่อ
-ธนาคารพาณิชย์ปรับแผนเพิ่มเป้าสินเชื่อรับรัฐบาลใหม่  โดยผู้บริหารธนาคารแห่งใหญ่ทั้ง 4 แห่งของประเทศ (กรุงไทย  ทหารไทย กรุงเทพ และไทยพาณิชย์) โดยเน้นปล่อยกู้ธุรกิจรายย่อย-ใหญ่ รวมไปถึงเอสเอ็มอี ทั้งนี้ แม้ว่าตัวเลขสินเชื่อครึ่งปีแรก ยังไม่สรุปชัดเจนอย่างเป็นทางการว่าจะขยายตัวอย่างไร  แต่จากสัญญาณความเชื่อมั่นที่เริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากปัญหาในของคู่ค้าหลักของไทยเช่นสหภาพยุโรปคลี่คลาย โดยรัฐสภากรีซ ได้อนุมัติแผนรัดเข็มขัดและขึ้นภาษีลดค่าใช้จ่ายแลกกับการสนับสนุนจากทางการเงินจากสหภาพยุโรป และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ)

-สศค. วิเคราะห์ว่า สินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ในเดือน พ.ค. 54 ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 16 ที่ร้อยละ 13.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และหลังขจัดผลทางฤดูกาลแล้วขยายตัวเร่งขึ้นที่ร้อยละ 1.0 จากเดือนก่อนหน้า สะท้อนความต้องการสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากเศรษฐกิจของไทยที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง ทั้งจากอุปสงค์ในประเทศ และนอกประเทศ โดยเฉพาะจากการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน ทั้งนี้ คาดว่าเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 54 จะขยายตัวดีต่อเนื่อง แม้จะขยายตัวในอัตราชะลอลงบ้างจากปัจจัยฐานสูง ส่งผลให้คาดว่า สินเชื่อจะขยายตัวได้ดีในระยะต่อไป

2. ส่งออกรถยนต์เกาหลีใต้ทำสถิติสูงเป็นประวัติการณ์
-กระทรวงเศรษฐกิจความรู้ของเกาหลีใต้ แถลงยอดส่งออกรถยนต์ของเกาหลีใต้ในช่วงครึ่งแรกของปี 54 อยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,540,772 คัน หรือคิดเป้นอัตราการขยายตัวร้อยละ 15.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นในตลาดเกิดใหม่ ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นในรถยนต์เกาหลีใต้เพิ่มมากขึ้น และอานิสงส์จากการผลิตที่สะดุดลงของผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่น เนื่องจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิครั้งร้ายแรง  ทั้งนี้ กระทรวงเศรษฐกิจความรู้ของเกาหลีใต้คาดว่า ยอดส่งออกรถยนต์ของเกาหลีใต้ปีนี้จะทำสถิติใหม่ที่ 3 ล้านคัน 

-สศค. วิเคราะห์ว่า อุตสาหกรรมผลิตรถยนต์เกาหลีใต้มีส่วนเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมยานยนต์ในญี่ปุ่นในระดับต่ำ โดยการประกอบรถยนต์สัญชาติเกาหลีมักจะใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศ เหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิในญี่ปุ่นเมื่อเดือนมี.ค.54 ที่ผ่านมา จึงไม่เป็นอุปสรรคต่อการผลิตรถยนต์ของเกาหลีใต้ อีกทั้งอุปสงค์รถยนต์ขนาดเล็กที่ประหยัดพลังงานยังมีอยู่สูง การที่ญี่ปุ่นไม่สามารถผลิตและส่งมอบรถยนต์ในช่วงฟื้นฟูบูรณะประเทศจากความเสียหายจากภัยพิบัติดังกล่าว จึงทำให้อุปทานรถยนต์เกาหลีสามารถรองรับอุปสงค์ในตลาดโลกได้ ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ต่างจากไทย

เนื่องจากห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยมีความเชื่อมโยงกับญี่ปุ่นสูง โดยเฉพาะชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ในรถยนต์ที่ต้องนำเข้าจากญี่ปุ่นเป็นสำคัญ จึงทำให้ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 54 การส่งออกสินค้ายานยต์ของไทย ขยายตัวเพียงร้อยละ 9.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า ชะลอลงมากจากปี 53 ที่ขายตัวถึงร้อยละ 55.2

3. ธนาคารกลางจีนปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งที่ 3 ตั้งแต่ต้นปี 54 ขึ้นร้อยละ 0.25
-ธนาคารกลางจีนปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งที่ 3 นับตั้งแต่ต้นปี 54 ในวันที่ 7 ก.ค. 54 เพื่อชะลอแรงกดดันจากเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูง โดยได้ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขึ้นร้อยละ 0.25 จากเดิมที่อยู่ที่ร้อยละ 6.31 เป็นร้อยละ 6.56 และปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเงินฝากจากเดิมที่อยู่ที่ร้อยละ 3.25 เป็นร้อยละ 3.50

-สศค. วิเคราะห์ว่า อัตราเงินเฟ้อจีนที่ทรงตัวอยู่ในระดับสูงนับตั้งแต่เดือน ม.ค. 54  จากราคาพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงราคาอาหาร ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา โดยในเดือน พ.ค. 54 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ร้อยละ 5.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า เร่งขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ร้อยละ 5.3 จากปีก่อนหน้า สร้างแรงกดดันให้ธนาคารกลางจีนใช้นโยบายการเงินแบบตึงตัวมากขึ้น ทั้งนี้ สศค. วิเคราะห์ว่า  ราคาน้ำมันที่ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูง แม้เริ่มชะลอลงบ้างจากช่วงต้นปี 54 จะยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญ และเพิ่มแรงกดดันต่อเงินเฟ้อ ทำให้คาดว่าธนาคารกลางจีนน่าจะยังคงดำเนินนโยบายการเงินตึงตัวต่อเนื่อง เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อในระยะต่อไป

ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง