เนื้อหาวันที่ : 2011-07-06 10:03:42 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 2204 views

มิตซูบิชิ ปลื้มยอดขายรถโตกว่า 90%

แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ ฮ็อตยอดขายโตสูงสุดกว่า 200% ขณะที่ยอดขายรวมเดือนมิ.ย. สูงแตะ 6,635 คัน เตรียมส่ง ไทรทัน ดับเบิ้ลแค็บ พลัส รุ่นพิเศษลุยตลาดครึ่งปีหลัง

          แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ ฮ็อตยอดขายโตสูงสุดกว่า 200% ขณะที่ยอดขายรวมเดือนมิ.ย. สูงแตะ 6,635 คัน เตรียมส่ง ไทรทัน ดับเบิ้ลแค็บ พลัส รุ่นพิเศษลุยตลาดครึ่งปีหลัง

          มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย รายงานยอดขายรถยนต์เดือนมิถุนายนยังรักษาระดับ 6 พันคันต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ เติบโตสูงสุดถึง 206% พร้อมส่งไทรทันรุ่นพิเศษ “ดับเบิ้ลแค็บ พลัส สีขาวมุก” เกียร์ธรรมดา ที่มีให้เลือกครบทั้งเครื่องยนต์ดีเซล เบนซิน และซีเอ็นจี ลงลุยตลาด เชื่อตลาดรถครึ่งปีหลังสุดคึกคัก

          มร.โนบุยูกิ มูราฮาชิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงยอดขายรถยนต์มิตซูบิชิในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาว่า บริษัทฯ มียอดขายรวมอยู่ที่ 6,635คัน เติบโตขึ้น 91 % เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งมียอดขายสูงกว่า 6 พันคัน ต่อเนื่องเป็นเดือนที่สองนับจากเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาซึ่งมียอดขายอยู่ที่ 6,922 คัน สำหรับรุ่นที่มีอัตราการเติบโตสูงสุดในเดือนมิถุนายน คือ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ ซึ่งเติบโตถึง 206% ด้วยตัวเลขยอดขาย 437 คัน และถือเป็นตัวเลขสูงสุดนับตั้งแต่เปิดตัว

ในขณะที่มิตซูบิชิ ไทรทัน มียอดขาย 3,976 คัน เติบโต 107% ปาเจโร สปอร์ต 1,796 คัน เติบโต 112% แลนเซอร์ 1.6 ลิตร มียอดขายอยู่ที่ 334 คัน เติบโตลดลง 22% และสเปซ แวกอน มียอดขายอยู่ที่ 91 คัน ลดลง 35% ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์รวมครึ่งปีแรกของบริษัทฯ อยู่ที่ 34,428 คัน เติบโตขึ้น 107% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา

          “ยอดขายรถยนต์มิตซูบิชิรวมทุกรุ่นในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมายังมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถยนต์มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ ใหม่ ที่เติบโตขึ้นกว่า 200% ซึ่งเป็นผลจากการปรับโฉมครั้งล่าสุด ทำให้แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ซึ่งมีรูปลักษณ์ดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวโดนใจลูกค้าอยู่แล้วมีความคุ้มค่ามากยิ่งขึ้นด้วยการเสริมอุปกรณ์ตกแต่งและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทำให้ขณะนี้มียอดค้างการส่งมอบจำนวนหนึ่ง ซึ่งในขณะนี้บริษัท ได้เร่งดำเนินการเพื่อให้สามารถส่งมอบรถให้กับลูกค้าให้เร็วที่สุด และหากพิจารณายอดขายรถยนต์รวมทุกแบรนด์ จะเห็นว่าในไตรมาสแรกยอดขายเติบโตขึ้นกว่า 40% จาก 166,802 คัน ในปีก่อนหน้า มาอยู่ที่ 238,619 คัน

ในขณะที่ไตรมาส 2 แม้บางค่ายจะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว และสึนามิ ในประเทศญี่ปุ่นแต่ยอดขายรถยนต์โดยรวมก็ยังคงเติบโตขึ้น เนื่องจากในความเป็นจริงความต้องการซื้อรถยนต์ยังมีอยู่เท่าเดิม ไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด เพียงแต่ค่ายรถยนต์ต่างๆ ไม่สามารถผลิตและส่งมอบรถได้ทัน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ผมมั่นใจว่าภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในครึ่งปีหลังจะกลับมาคึกคักอีกครั้งหลังสถานการณ์ต่างๆเริ่มคลี่คลาย และคาดว่ายอดขายรวมของปีนี้น่าจะอยู่ที่ 850,000 – 900,000 คัน ” มร.มูราฮาชิกล่าว