เนื้อหาวันที่ : 2007-03-29 10:54:41 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1754 views

ผู้ผลิตเอทานอล วอนภาครัฐยกเลิก MBTE

โรงงานผู้ผลิตเอทานอล ผนึกกำลังยืนหนังสือวอนภาครัฐ กำหนดนโยบายชัดเจน ยกเลิก MBTE จี้รัฐฯแจงนโยบายส่งเสริมน้ำมันแก๊สโซฮอล์ให้ชัด และต้องดำเนินการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน ก่อนปัญหาบานปลาย

สมาคมการค้าผู้ผลิตเอทานอลไทย และ บริษัท ไทยชูการ์ มิลเลอร์ จำกัด ตัวแทน 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย ยื่นหนังสือขอความช่วยเหลือต่อนายปิยบุตร ชลวิจารณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เนื่องจากปัจจุบันผู้ผลิตเอทานอลกำลังได้รับความเดือดร้อนปริมาณ เอทานอลค้างอยู่ในสต๊อกกว่า 11.89  ล้านลิตร  ซึ่งเป็นผลผลิตจากโรงงานเอทานอลเพียง 6 โรงงานเท่านั้น ซึ่งภาครัฐยังไม่มีมาตรการในการแก้ไขปัญหาอย่างขัดเจนแต่อย่างใด โดยในปัจจุบันมีโรงงานที่ทำการผลิตแล้วทั้งสิ้น  6 โรงงานด้วยกัน กำลังการผลิตรวมประมาณ 855,000 ลิตรต่อวัน ในขณะเดียวกันก็มีโรงงานเอทานอลที่ได้ลงทุนและดำเนินการก่อสร้างไปแล้ว คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2550  อีกจำนวน 9 โรงงาน  ซึ่งมีอัตรากำลังการผลิตรวมกว่า 1.3 ล้านลิตรต่อวัน   สรุปภาพรวมในปี 2550 จะมีโรงงานผลิตเอทานอลรวมทั้งสิ้น 15 โรงงาน และจะมีเอทานอลในตลาด ประมาณ 2.1 ล้านลิตรต่อวัน นอกจากนี้ยังมีโรงงานที่ขออนุญาตผลิตเอทานอลอีก 30 โรงงาน         

.

จากสภาพการณ์ดังกล่าวข้างต้น สมาคมการค้าผู้ผลิตเอทานอลไทย สมาคมการค้าผู้ผลิตเอทานอลไทย และ บริษัท ไทยชูการ์ มิลเลอร์ จำกัด ตัวแทน 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย มีความเห็นว่า รัฐบาลจะต้องให้ความชัดเจนในการดำเนินนโยบายส่งเสริมน้ำมันแก๊สโซฮอล์ และต้องดำเนินการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน ก่อนที่จะเกิดปัญหาบานปลายไปมากกว่านี้ ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้

.

- ขอให้รัฐบาลประกาศยกเลิกการสาร  MBTE  ซึ่งเป็นส่วนผสมในน้ำมันเบนซินออกเทน 95    ที่ต้องนำ เข้าจากต่างประเทศ และประกาศให้ใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 ทดแทนโดยทันที โดยเร็ว

- รัฐบาลต้องเร่งกำหนดมาตรการส่งเสริมให้มีการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91ให้รวดเร็วขึ้น ด้วยการสนับสนุนบริษัทน้ำมันให้เพิ่มสถานีบริการน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 ให้มีทั่วประเทศภายใน 2551

- ขอให้ภาครัฐรับซื้อเอทานอลส่วนเกิน และจัดทำเป็นสต๊อกเอทานอลสำรอง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของโรงงานผู้ผลิตเอทานอล และใช้เป็นกลไกในการสร้างเสถียรภาพด้านปริมาณ และราคาเอทานอลในอนาคต

- ขอให้ภาครัฐกำหนดแนวทางในการพัฒนาเอทานอลให้เป็นพลังงานทดแทน โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อลดการพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศอย่างจริงจัง ในกรณีที่มีเอทานอลคงเหลือเกินกว่าปริมาณความต้องการใช้ภายในประเทศในขณะนั้น ให้เพิ่มสัดส่วนการผสมในน้ำมัน ในทางตรงกันข้าม ในกรณีที่มีเอทานอลต่ำกว่าความต้องการใช้ภายในประเทศ ก็ให้ปรับสัดส่วนการผสมในน้ำมันลง ซึ่งเป็นวิธีที่ประสบความสำเร็จมาแล้วในประเทศบราซิล

- เนื่องจากเอทานอลเป็นสินค้าที่ถูกควบคุมในฐานะที่เป็นเชื่อเพลิง และสุรา จึงขอให้รัฐบาลพิจารณาแก้ไขกฎระเบียบให้เอทานอลเป็นเชื้อเพลิงอย่างเดียว ทั้งนี้เพื่อให้ความคล่องตัวในการประกอบการยิ่งขึ้น

.

สำหรับวัตถุดิบในการผลิตเอทานอลนั้น คาดว่าไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน เนื่องจากสามารถวัตถุดิบสามรถผลิตได้จากพืชที่ปลูกในเมืองไทย อาทิ อ้อย มันสัมปะหลัง เป็นต้น ที่สำคัญเอทานอลเป็นพลังงานทดแทนสามารถช่วยลดการนำเข้าพลังงานเชื้อเพลิง จากต่างประเทศได้ปีละหลายล้านบาท และเป็นพลังงานสะอาดที่ช่วยลดมลภาวะพิษ เนื่องจากผลิตจากพืชการเกษตรทดแทน การใช้สารเพิ่มออกเทนในน้ำมันเบนซิน (MBTE) สาเหตุหลักของการเกิดภาวะเรือนกระจก (Green House Effect) และอุตสาหกรรมเอทานอลยังเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ พัฒนาการเกษตรของประเทศอีกด้วย