ไอดีซีเผยตลาดแอพพลิเคชั่นสำหรับองค์กรใหญ่ของไทยฟื้นตัวในปี 2553 และคาดว่าจะเติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีนี้
ไอดีซีเผยตลาดแอพพลิเคชั่นสำหรับองค์กรใหญ่ของไทยฟื้นตัวในปี 2553 และคาดว่าจะเติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีนี้
รายงานการศึกษาตลาดแอพพลิเคชั่นสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ประจำปี 2553 ของไอดีซี ระบุว่าตลาดแอพพลิเคชั่นสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ของประเทศไทยในปี 2553 เติบโตขึ้นจากปี 2552 ถึง 13.7% ถือว่าเป็นระดับที่สูงเมื่อเทียบกับการเติบโตของตลาดในปี 2552 เทียบกับ 2551 ซึ่งตลาดเติบโตในเชิงลบถึง -20.6% โดยไอดีซีคาดการณ์ว่ามูลค่ารวมของตลาดประเทศไทยจะประมาณ 187 ล้านเหรียญสหรัฐได้ในปี 2558 นั่นหมายความว่าอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีจะอยู่ที่ระดับ 12.5%
แอชวาร์ยา คาปูร์ นักวิเคราะห์กลุ่มตลาดซอฟต์แวร์ประจำประเทศไทยของไอดีซีเผยว่า “อุปสงค์สำหรับแอพพลิเคชั่นสำหรับองค์กรขนาดใหญ่นั้นเริ่มแสดงถึงแนวโน้มที่เป็นบวกตั้งแต่ต้นปี 2553 แล้ว และยังคงรักษาแน้วโน้มนั้นได้ตลอดปี สถานการณ์ด้านการส่งออกที่ดีขึ้นทำให้การลงทุนในภาคอุตสาหกรรมเพิ่มมากขึ้น และการลงทุนในภาคนี้เองที่เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ตลาดแอพพลิเคชั่นสำหรับองค์กรขนาดใหญ่โตขึ้น”
ในปีที่ผ่านมานั้น ตลาดในส่วนของแอพพลิเคชั่นบริหารทรัพยากรองค์กร (ERP) นั้นฟื้นตัวขึ้นเป็นอย่างมาก ตามด้วยตลาดแอพพลิเคชั่นการบริหารลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) และตลาดแอพพลิเคชั่นด้านห่วงโซ่อุปทานของผลิตภัณฑ์ (Product Supply Chain) ตามลำดับ ทั้งนี้เป็นเพราะองค์กรขนาดใหญ่ได้จัดสรรงบประมาณมาลงทุนในส่วนของระบบปฏิบัติการหลักมากขึ้น
“ไอดีซีพบว่าตลาดซอฟต์แวร์บริหารสินทรัพย์ขององค์กร (EAM) ภายใต้ส่วนของ ERP นั้นเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้เป็นเพราะองค์กรที่อยู่ในอุตสาหกรรมการผลิตได้ให้ความสำคัญกับระบบเครื่องจักรอัตโนมัติ การเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต และการดูแลรักษาสินทรัพย์ต่างๆ เช่นเครื่องจักรและอุปกรณ์การผลิต ในส่วนของการทำกระบวนการขายแบบอัตโนมัติก็ได้รับความสนใจมากขึ้น ซึ่งสะท้อนผ่านการเติบโตของตลาดซอฟต์แวร์ CRM นอกจากนี้สภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่อยู่ในเกณฑ์ดีก็มีส่วนกระตุ้นตลาดซอฟต์แวร์บริหารการสั่งซื้อสินค้าและบริการ ที่ช่วยในการวางแผนจัดการสินค้าคงคลังและการสั่งซื้อของลูกค้าอีกด้วย” แอชวาร์ยา กล่าวเสริม
ตลาดแอพพลิเคชั่นสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ของประเทศไทยถือได้ว่าเป็นตลาดใหญ่ที่สุดอันดับที่ 3 ในบรรดาตลาดเกิดใหม่ในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งตามหลังตลาดสิงคโปร์และมาเลเซียที่มีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 15% ไอดีซียังพบว่าประเทศไทยยังเป็นหนึ่งในประเทศกำลังพัฒนาที่มีการเติบโตของตลาดอยู่ในระดับสูงที่สุดประเทศหนึ่ง ถึงแม้ว่าจะได้นับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและปัญหาความไม่สงบทางการเมืองภายในประเทศก็ตาม
การฟื้นตัวของตลาดแอพพลิเคชั่นสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ของประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านทำให้มูลค่าของตลาดรวมของประเทศแถบนี้ในปี 2553 สูงกว่ามูลค่าของตลาดก่อนเกิดวิกฤติเศรษฐกิจโลกในปี 2552 เสียด้วยซ้ำ โดยตลาด ERM เป็นตลาดที่เติบโตมากที่สุดและยังมีส่วนแบ่งในตลาดรวมของแอปฟลิเคชันระดับองค์กรในภูมิภาคย่อยนี้สูงที่สุดอีกด้วย
ซิว-ชุน ลิว นักวิเคราะห์ตลาดแอพพลิเคชั่นสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ของไอดีซี ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า “การเติบโตอย่างเห็นได้ชัดของมูลค่าตลาดแอพพลิเคชั่นสำหรับองค์กรขนาดใหญ่แสดงถึงอุปสงค์จากองค์กรใหญ่ที่มีปริมาณเพิ่มมากขึ้น และนั่นทำให้ตลาดในภูมิภาคนี้ยังคงเติบโตขึ้นไปได้อีกในอนาคต ไอดีซีคาดว่าระดับการเติบโตที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นนี้เป็นผลมาจากการที่องค์กรใหญ่ๆ เริ่มจัดสรรงบประมาณไปที่การปรับปรุงระบบการปฏิบัติงานหลักมากขึ้น และในขณะเดียวกันยังขยายสาขาทั้งในประเทศและไปยังประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเพิ่มมากขึ้น”
และในปี 2554 นี้ ไอดีซีเชื่อว่าแอพพลิเคชั่นสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ในภูมิภาคอาเซียนจะเติบโตประมาณ 14.5% ซึ่งตลาด CRM ยังคงเติบโตในอัตราสูงที่สุด เช่นเดียวกับตลาดของประเทศไทยที่ CRM จะเติบโตขึ้นจนทำให้ตลาดรวมขยายขึ้นประมาณ 15.4%
การคาดการณ์การเติบโตของตลาดแอพพลิเคชั่นสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ในภูมิภาคอาเซียนของไอดีซี ประจำปี 2553 - 2558
ที่มา: IDC's Asia/Pacific Semiannual Enterprise Applications Tracker, 2H2010