เชาว์ สตีลฯ ตั้งทริปเปิ้ล เอ พลัสฯ ที่ปรึกษาทางการเงินเตรียมความพร้อมก่อนกระจายหุ้นเข้าตลาดหลักทรัพย์
นายอนาวิล จิรธรรมศิริ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน)
“เชาว์ สตีลฯ” ตั้งทริปเปิ้ล เอ พลัสฯ ที่ปรึกษาทางการเงินเตรียมความพร้อมก่อนกระจายหุ้นเข้าตลาดหลักทรัพย์
“เชาว์ สตีล อินดัสทรี้” ผู้ผลิตและจำหน่ายเหล็กแท่งยาว แต่งตั้ง “ทริปเปิ้ล เอ พลัส แอดไวเซอรี่” ทำหน้าที่ที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ คาดกระจายหุ้นให้กับ นักลงทุนทั่วไปได้ในปี 2554 มั่นใจสถานการณ์เหมาะสม ทั้งภาพรวมของตลาดหุ้นที่คึกคักขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ ขณะที่ราคาเหล็กมีแนวโน้มฟื้นตัวชัดเจน ด้านที่ปรึกษาทางการเงินชี้อนาคตธุรกิจสดใส มีโอกาสเติบโตสูง
นายอนาวิล จิรธรรมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ CHOW เปิดเผยความคืบหน้าในการนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ว่า บริษัทฯ ได้แต่งตั้งบริษัท ทริปเปิ้ล เอ พลัส แอดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมและดำเนินการรวบรวมข้อมูล เพื่อที่จะยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟล์ลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขออนุมัติการกระจายหุ้นให้กับประชาชนเป็นการทั่วไป โดยคาดว่าจะพร้อมดำเนินการได้ในเร็วๆ นี้
ทั้งนี้ บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเหล็กแท่งยาว (Billet) ตามมาตรฐานอุตสาหกรรมไทย ซึ่งผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ สามารถสนองความต้องการในอุตสาหกรรมต่อเนื่องที่มีความต้องการใช้เหล็กแท่งยาวภายในประเทศ เพื่อนำไปผ่านกระบวนการเป็นผลิตภัณฑ์เหล็กทรงยาวชนิดต่าง ๆ ได้แก่ เหล็กเส้น เหล็กข้ออ้อย เหล็กลวด และเหล็กรูปพรรณทรงยาว โดยในปัจจุบันบริษัทฯ มีกำลังการผลิตเหล็กแท่งทรงยาวสูงสุดจำนวนประมาณ 730,000 ตันต่อปี
“เรามั่นใจว่า ปีนี้นับเป็นจังหวะที่ดีในการนำหุ้นเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เนื่องจากสภาพตลาดมีความคึกคักขึ้น หลังจากได้รับปัจจัยสนับสนุน ทั้งการคลี่คลายของปัญหาเศรษฐกิจต่างประเทศ ประกอบกับเศรษฐกิจในประเทศเริ่มฟื้นตัว ทำให้การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์กระเตื้องขึ้น ขณะเดียวกัน อุตสาหกรรมเหล็กก็นับได้ว่าถึงรอบของการฟื้นตัว หลังจากที่ซบเซาอย่างต่อเนื่องในช่วงปี 2552-2553 ที่ผ่านมา โดยเฉพาะหลังจากนี้ เราเชื่อว่าจะเกิดการลงทุนในโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อราคาเหล็กโดยตรง” นายอนาวิล กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ กล่าวด้วยว่า ในปี 2553 ที่ผ่านมา บริษัทฯ สามารถทำยอดขายได้ประมาณ 3,800 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการขยายตัวสูงถึงประมาณ 91% เมื่อเทียบกับปี 2552 ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า อุตสาหกรรมเหล็กได้เข้าสู่รอบของการฟื้นตัวขึ้นอย่างชัดเจนอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม เพื่อรักษาโอกาสในการรักษาระดับยอดขายไว้ บริษัทฯ ยังได้วางแผนที่จะมุ่งเน้นการทำตลาดต่างประเทศเพิ่มมากขึ้นตั้งแต่ปี 2552 ที่ผ่านมา รวมถึงเตรียมที่จะขยายการลงทุนเพิ่มเพื่อเพิ่มกำลังการผลิต
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการปรับปรุงประสิทธิภาพในการกระบวนการผลิต เพื่อลดความสูญเสียในขั้นตอนการผลิต ซึ่งนอกจากจะช่วยประหยัดต้นทุนให้กับบริษัทฯแล้ว ยังส่งผลดีกลุ่มลูกค้าที่สั่งซื้อสินค้าจากทางบริษัทฯ ให้มีความเชื่อมั่นในคุณภาพของสินค้ามากยิ่งขึ้นอีกด้วย
นางสาวปิ่นมณี เมฆมัณฑนา กรรมการผู้จัดการบริษัท ทริปเปิ้ล เอ พลัส แอดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ บมจ.เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ กล่าวว่า บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าจะสามารถดำเนินการยื่นไฟลิ่งให้กับสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ พิจารณาได้ในเร็วๆ นี้ และมั่นใจว่า ธุรกิจของ บมจ.เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ ยังมีโอกาสเติบโต จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ รวมถึงความต้องการใช้เหล็กในโครงการก่อสร้างที่เพิ่มมากขึ้น จะเป็นปัจจัยสนับสนุนการขยายตัวของธุรกิจในอนาคต
Thailandindustrycom_official
