เนื้อหาวันที่ : 2011-05-27 11:30:45 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 2626 views

ควบม้าเหล็ก ตะลุยปากอ่าว สัมผัสชีวิตชาวสมุทร(สาคร)

นั่งรถไฟเที่ยวแบบชิล ๆ ดื่มด่ำบรรยากาศสองข้างทาง เดินเล่นกินลมชมวิวปากอ่าว ชมวิถีชีวิตชาวสมุทรสาคร

พิสิษฐ์ ช่อชิต

           เสียงม่านชัตเตอร์ที่เก็บภาพหัวขบวนรถไฟปิดลงอย่างรวดเร็ว ขณะเจ้าม้าเหล็กขบวนดังกล่าวกำลังค่อยๆ ชะลอหยุดลง ผู้คนมากมายต่างพากันขึ้นลงจากตู้รถไฟ เป็นอีกครั้งที่มีโอกาสได้เดินทางท่องเที่ยวด้วยรถไฟ และที่สถานีนี้ก็มีความโดดเด่นกว่าที่อื่นเพราะมีระยะทางระหว่างสถานีวงเวียนใหญ่-สถานีมหาชัยเท่านั้น ที่จริงแล้วตอนแรกกะว่าจะเดินทางด้วยรถส่วนตัว จากกรุงเทพถึงมหาชัยยังไงก็ไม่น่าจะถึง 1 ชั่วโมง แต่พอรู้ข้อมูลว่ามีเส้นทางรถไฟ (เชื่อว่าหลายคนไม่รู้) เลยเปลี่ยนโปรแกรมแบบทันที การเดินทางที่รวดเร็วเกินไปบางครั้งก็ทำให้ขาดเสน่ห์ การเดินทางด้วยรถไฟจึงเป็นอะไรที่มาเติมเต็มในส่วนนั้นได้เป็นอย่างดี

           ตลอดสองข้างทางของรถไฟสายนี้แตกต่างจากที่อื่นเพราะรางรถไฟจะตัดผ่านย่านชุมชนเกือบทั้งหมด ดังนั้นวิวส่วนใหญ่สำหรับตากล้องแล้วจะกลายเป็นแนวความเป็นอยู่ของผู้คนมากกว่า เพลิดเพลินอยู่บนตู้รถไฟได้ไม่นานรู้ตัวอีกทีก็ถึงสถานีมหาชัยแล้ว (ประมาณชั่วโมงกว่าๆ)

แค่ก้าวลงจากตู้รถไฟบรรยากาศความคึกคักของผู้คนมากมายก็วิ่งเข้าใส่ทันที ร้านค้า แม่ค้า พ่อค้า ลูกค้ามากมาย จากสถานีรถไฟเดินลัดเลาะตลาดได้ไม่ไกลเท่าไรก็จะถึงศาลเจ้าพ่อหลักเมือง สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองจังหวัดสมุทรสาคร ใกล้ๆ กันจะเป็นป้อมวิเชียรโชฎกที่เคยเป็นปราการด่านสำคัญในสมัยก่อน และที่พลาดไม่ได้อีกอย่างหากมาถึงมหาชัยแล้วก็คือ “อาหารทะเล” มากมายไม่ว่าจะเป็น กุ้ง หอย ปู ปลา รับรองได้ว่าสดแท้แน่นอน และถ้าเป็นปลาทูสมุทรสาครของจริงก็ต้อง “หน้างอคอหัก” นะครับ รับรองของแท้ไม่มีของเทียม ใครที่ชอบอาหารแนวซีฟู๊ตจึงไม่น่าพลาด

           แม่น้ำท่าจีนเป็นแม่น้ำสายหลักของเมืองนี้ เดินกินลมชมวิวริมฝั่งพลางเก็บรูปเรือประมงมากมายที่กำลังทั้งไปและกลับจากอ่าวไทย หากจะข้ามไปท่าฉลอมก็สามารถขึ้นเรือข้ามฝากได้ที่ท่ามหาชัย อยู่ใกล้กับศาลเจ้าพ่อหลักเมือง เรือข้ามฝากเขาแปลกตรงที่นอกจากจะรับผู้โดยสารทั่วไปแล้ว ยังสามารถนำรถจักรยานยนต์ขึ้นบนเรือได้ด้วยทำให้อดแปลกใจไม่ได้ ตอนเวลาขับขึ้นลงเรือดูหวาดเสียวมาก แต่ก็เป็นวิถีชีวิตปกติของผู้คนที่นี่ เมื่อถึงท่าฉลอมแล้วจะเดินทางไปวัดช่องลมต่อ เราสามารถเลือกใช้บริการไม่ว่าจะเป็น สามล้อถีบ ตุ๊กตุ๊ก หรือมอเตอร์ไซค์รับจ้างก็ได้

           วัดสุทธิวาตวราราม หรือ วัดช่องลม ที่รู้จักกันดีนอกจากความศักดิ์สิทธิ์ของพระประธานในโบสถ์ รวมถึงจิตรกรรมฝาผนังที่งดงามแล้ว ยังมีเรื่องแปลกและสำคัญของวัดนี้อีก 2 อย่าง คือ ร่างที่กลายเป็นหินของพลวงพ่อแก้วในโลงทองพระราชทานที่ชาวบ้านให้ความเคารพศรัทธามาก และภายในวิหารของหลวงปู่แก้วก็ยังมีนกนางแอ่นจำนวนมากมายมาอาศัยทำรังอยู่กัน นับเป็นเรื่องแปลกแต่จริงสำหรับวัดนี้ ส่วนริมแม่น้ำจะเป็นพระบรมราชานุสาวรีย์ ร. 5 ซึ่งทางราชการและชาวบ้านจัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติที่พระองค์เคยเสด็จมาเยือนพร้อมกับทรงแต่งตั้งตำบลท่าฉลอมให้เป็น “สุขาภิบาล” แห่งแรกในประเทศไทย

           นั่งพักอยู่ริมแม่น้ำหน้าวัดช่องลมอยู่พักใหญ่ จึงเดินทางไปต่อที่อุทยานพระโพธิสัตว์กวนอิมซึ่งอยู่ตรงข้ามกับวัดช่องลม เข้าไปไหว้เคารพ หรือขอพรจากรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมขนาดใหญ่ ควันธูปคละคลุ้งตลบอบอวนอยู่ตลอดเวลาแสดงให้เห็นถึงความเชื่อความศรัทธาของผู้คนที่มีต่อเจ้าแม่กวนอิมอย่างมิเสื่อมคลาย เดินหามุมถ่ายรูปเจ้าแม่กวนอิมอยู่พักใหญ่จึงได้รู้ข้อมูลจากลุงๆ ป้าๆ ใจดีแถวนั้นว่าสามารถต่อรถไฟไปสถานีแม่กลองได้ที่หน้าอุทยานพระโพธิสัตว์กวนอิมนี่เอง นับว่าเป็นโชค 2 ชั้นหรือเปล่าไม่ก็ทราบ เพราะไม่ได้เตรียมแผนเดินทางขนาดนี้ แถมเวลาก็เพิ่งจะบ่ายกว่าๆ เท่านั้น (คิดไม่ยากแล้วหล่ะ)

           เผลอแป๊บเดียวก็นั้งอยู่บนตู้รถไฟอีกครั้ง หลังจากที่นั่งๆ เดินๆ คอยรถไฟอยู่ประมาณ 20 นาที วิวทิวทัศน์คราวนี้นอกจากจะวิ่งผ่านชุมชนเป็นครั้งคราวแล้ว (น้อยกว่าเที่ยวแรก) ที่สำคัญยังผ่านย่านที่ทำนาเกลือเป็นหลักด้วย แต่น่าเสียดายที่ช่วงนี้ไม่ใช่หน้าที่เขาจะทำนาเกลือกัน เลยได้แต่ภาพคันนาเกลือที่ไม่มีเกลือ สถานีปลายทางคราวนี้ คือ สถานีแม่กลอง

จุดเด่นของสถานีปลายทางคราวนี้คงไม่พ้นความพิลึกพิลั่นของ “ตลาดร่มหุบ” ตลาดมหัศจรรย์ที่กลายเป็นจุดสนใจของบรรดานักท่องเที่ยวชาวไทย และต่างประเทศ ทั้งๆ ที่มีมานานแล้ว เพราะพ่อค้าแม่ค้าจะนำของขายมาวางเรียงรายอยู่ตามทางรถไฟ แม่ค้าบางคนถึงขึ้นวางเข่งวางของที่จะขายต่างๆ บนรางรถไฟเลยก็มี พอถึงเวลาที่รถไฟจะแล่นผ่าน บรรดาพ่อค้าแม่ค้าก็จะรีบหุบร่ม เก็บข้าวของที่ตั้งวางขายกันอย่างเร่งรีบ ช่วงที่รถไฟกำลังแล่นผ่านของต่างๆ ที่วางขายอย่างช้าๆ ดูน่าหวาดเสียวว่าจะทับข้าวของเสียหาย แต่พอขบวนรถไฟผ่านไปแล้ว พ่อค้าแม่ค้าก็จะนำร่มมากาง นำของมาวางขายกันแบบเดิมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้อย่างน่าแปลกใจ

           ใช้เวลาเดินทางชั่วโมงกว่าถึงสถานีแม่กลองก็บ่ายสามนิดๆแล้ว เดินลัดเลาะตลาดอีกครั้งเพื่อไปกราบนมัสการหลวงพ่อบ้านแหลมที่โด่งดัง ณ วัดเพชรสมุทร (วัดบ้านแหลม) ผ่านรั้ววัดเข้าไปได้นิดเดียวก็ต้องเจอกับผู้คนมากมายจากทั่วสารทิศที่มากราบไหว้บูชาหลวงพ่อบ้านแหลม กว่าจะเข้าไปกราบ ไปปิดทองหลวงพ่อได้ก็เกือบแย่เหมือนกัน วัดนี้มีรำแก้บนทำให้มีโอกาสเก็บภาพสวยๆ จากเด็กๆ ที่เป็นนางรำด้วย

          ขากลับหลังจากถามลุงป้าแถวนั้น (อีกแล้ว) ก็ได้ความว่าเราสามารถนั่งรถตู้โดยสารกลับกรุงเทพอย่างได้สบายๆ เพราะเดินออกจากวัดบ้านแหลมเข้าไปในตลาดไม่ไกลก็จะมีวินรถตู้เข้ากรุงเทพคอยให้บริการ ตลอดทางขากลับในรถตู้ก็แอบอมยิ้มกับการเดินทางคราวนี้ของตัวเองที่ไม่ได้เดินทางแนวตามใจฉัน แต่การยืดระยะเวลาในการเดินทางให้เพิ่มขึ้นอย่างไม่จำเป็น บางครั้งมันก็ทำให้เราค้นหาบางสิ่งบางอย่างได้ โดยที่เราอาจไม่สามารถเก็บเกี่ยวได้จากการเดินทางแบบรวดเร็วได้เลยจริงๆ ชึกชัก ชึกชัก ชึกชัก ...   


การเดินทาง
          - สถานที่ตั้ง : จังหวัดสมุทรสาคร , จังหวัดสมุทรสงคราม
           - สถานีรถไฟ : สถานีรถไฟวงเวียนใหญ่ – สถานีรถไฟมหาชัย , สถานีรถไฟบ้านแหลม – สถานีรถไฟแม่กลอง
          - เบอร์ติดต่อ : สถานีวงเวียนใหญ่ 02-465-2017 , สถานีแม่กลอง 034-711-906

ขอบคุณบทความดี ๆ จาก Add Free Magazine