มาสด้า มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น โชว์ความสำเร็จผลิตรถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า 3 ทั่วโลกทะลุ 3 ล้านคัน ชี้ช่วยเสริมแกร่งให้ DNA แบรนด์มาสด้า
มาสด้า มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น โชว์ความสำเร็จผลิตรถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า 3 ทั่วโลกทะลุ 3 ล้านคัน ชี้ช่วยเสริมแกร่งให้ DNA แบรนด์มาสด้า
บริษัท มาสด้า มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น แถลงถึงยอดการผลิตรวมของรถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า3 ทั่วโลกทะลุ 3 ล้านคัน (หรือในประเทศญี่ปุ่นเรียกว่า มาสด้า แอ็กซ์เซล่า Axela) เมื่อวันที่ 26 เมษายนที่ผ่านมา ความสำเร็จนี้เกิดขึ้นในระยะเวลาเพียง 7 ปี 10 เดือนเท่านั้น นับตั้งแต่เริ่มผลิตรถมาสด้า3 เจเนอเรชั่นแรก ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูงได้รับความนิยมสูงสูดและยังเป็นรถยนต์รุ่นที่มียอดขายเติบโตสูงที่สุดสำหรับตลาดรถเก๋งของมาสด้าในปัจจุบัน รถยนต์สปอร์ตมาสด้า3 นับเป็นรถยนต์ที่ลูกค้าทั่วโลกให้การยอมรับ
โดยทำการผลิตจากโรงงานทั้ง 3 แห่ง คือ โรงงานมาสด้า โฮฟุ ที่เมืองยามากูชิ ประเทศญี่ปุ่น โรงงานมาสด้าร่วมกับพันธมิตรฟอร์ด - ฉางอัน ภายใต้ชื่อออโตโมบิล (CFMA) ที่เมืองนานจิง ประเทศจีน และโรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย (AAT) โดยจำหน่ายออกสู่กว่า 90 ประเทศ และหลากหลายภูมิภาคทั่วโลก ซึ่งรถยนต์มาสด้า3 คันที่ 3 ล้าน ทำการผลิตขึ้นที่โรงงานโฮฟุ โดยเป็นรถสเปคของประเทศญี่ปุ่น เป็นรุ่นแฮตช์แบค 5 ประตู เครื่องยนต์ MZR 2.0L พร้อมระบบ i-stop ซึ่งเป็นระบบดับเครื่องยนต์อัตโนมัติ เมื่อจอด (Idling Stop System) ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของมาสด้า
มร. ฮิโรทากะ คานาซาว่า เจ้าหน้าที่บริหารอาวุโสของมาสด้า รับผิดชอบงานด้านการวิจัยและพัฒนา กล่าวว่า "รถยนต์มาสด้า3 ได้รวบรวมองค์ประกอบทั้ง 3 อย่างภายใต้ DNA ของมาสด้าเข้าไว้ด้วยกัน คือ การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว (Distinctive Design) ประโยชน์ใช้สอยที่ยอดเยี่ยม (Exceptional Functionality) การตอบสนองต่อการควบคุม และสมรรถนะในการขับขี่ (Responsive handling and Driving performance) ความสำเร็จที่ยั่งยืนของมาสด้าทั่วโลก
พิสูจน์ได้จากการเติบโตของรถยนต์รุ่นหลักของมาสด้า ซึ่งปัจจุบันยอดขายของรถยนต์มาสด้า3 คิดเป็นสัดส่วนถึง 1 ใน 3 ของยอดขายรถยนต์ทั้งหมดของมาสด้า นับตั้งแต่รถยนต์มาสด้า3 เจเนอเรชั่นแรกได้เปิดตัวแนะนำสู่ตลาด และมีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง จนเป็นส่วนหนึ่งของการพลิกโฉมหน้าอุตสาหกรรมรถยนต์
นอกจากนี้ รถยนต์มาสด้า3 ยังมีส่วนช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับ DNA ของแบรนด์มาสด้า ซึ่งนำไปสู่ความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม และประสิทธิภาพด้านความปลอดภัย ซึ่งในโอกาสของการเฉลิมฉลองการผลิตถึง 3 ล้านคัน ผมขอขอบคุณลูกค้ามาสด้า3 หลายล้านคนที่ให้การสนับสนุน และช่วยยืนยันถึงความมุ่งมั่นในการส่งมอบสมรรถนะในการขับขี่ที่มากกว่าความคาดหวังของลูกค้า โดยยังคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพด้านความปลอดภัย และความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม"
นางสุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า รถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า3 ได้สร้างความสำเร็จและชื่อเสียงต่างๆ ไว้มากมาย ซึ่งเป็นบทพิสูจน์และยอมรับมาแล้วจากลูกค้าทั่วโลกรวมถึงลูกค้าในประเทศไทย
ทั้งนี้รถยนต์มาสด้า3 รุ่นนี้ได้เปลี่ยนโฉมหน้าอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทยด้วยเช่นกัน การมียอดผลิตรวมถึง 3 ล้านคันทั่วโลกนับเป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงความเหนือกว่าในทุกๆ ด้าน ทั้งรูปลักษณ์อันสปอร์ตโฉบเฉี่ยว สมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้น ความปลอดภัยเต็มคัน และความประณีตใส่ใจในทุกรายละเอียด จนเป็นที่ยอมรับหลังการเปิดตัวเพียงแค่ข้ามคืน
รถยนต์รุ่นนี้ก็กลายเป็นที่ต้องการของลูกค้าอย่างรวดเร็ว ซึ่งในปัจจุบันมีรถยนต์รุ่นนี้วิ่งอยู่บนถนนเมืองไทยมากถึง 28,700 คัน ที่สำคัญล่าสุด มาสด้ายังได้ตอกย้ำถึงความสำเร็จด้วยการเปิดตัวแนะนำ All New Mazda3 2.0L ไปเมื่อเร็วๆนี้ และขณะนี้มียอดจองซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมาก
โดยจะพร้อมส่งมอบให้กับลูกค้าได้ตั้งแต่เดือนมิถุนายนนี้เป็นต้นไป ตามลำดับการจองก่อน-หลัง พร้อมเตรียมโหมกิจกรรมทางการตลาดทันทีด้วยการเปิดตัวแคมเปญสื่อสารการตลาดแบบครบวงจรของมาสด้า3 2.0 ลิตรใหม่ในเดือนเดียวกัน ภายใต้สโลแกน "เปลี่ยน ... ทุกคำจำกัดความที่เคยมี (Create Your Own Definition)"
Thailandindustrycom_official
