ตลท. เผยไตรมาสแรกปี 2554 บจ. สร้างสถิติกำไรรวมสูงสุดต่อเนื่องกว่า 2 แสนล้านบาท ปตท. ไทยพาณิชย์ แรงไม่ตกทำกำไรสูงสุด
ตลท. เผยไตรมาสแรกปี 2554 บจ. สร้างสถิติกำไรรวมสูงสุดต่อเนื่องกว่า 2 แสนล้านบาท ปตท. ไทยพาณิชย์ แรงไม่ตกทำกำไรสูงสุด
บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ สร้างสถิติยอดขายและกำไรสูงสุดต่อเนื่อง โดยทำกำไรรวมงวดแรกของปี 2554 สูงถึง 205,298 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.74% จากงวดเดียวของปีก่อน ซึ่งมีกำไรรวม 158,244 ล้านบาท และมียอดขายรวมสูงถึง 2,120,798 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.22% กลุ่มอุตสาหกรรม 3 อันดับแรกที่มีอัตราการเติบโตของกำไรสูงสุด คือ กลุ่มวัตถุดิบสินค้าอุตสาหกรรม กลุ่มทรัพยากร และกลุ่มธุรกิจการเงิน โดยมี PTT, SCB , IVL , PTTEP และ SCC เป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีกำไรสุทธิสูงสุด 5 อันดับแรก
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จำนวน 460 บริษัทหรือ 90.96% ของบริษัทจดทะเบียนทั้งหมด 506 บริษัท (รวมกองทุนอสังหาริมทรัพย์ 32 กองทุน) ได้นำส่งผลการดำเนินงานงวดสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2554 โดยมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 6 กลุ่มอุตสาหกรรม รวมกำไรสุทธิ 205,298 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนซึ่งมีกำไรรวม 158,244 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 29.74%
โดยมีการเติบโตเพิ่มของยอดขายเป็นสถิติสูงสุดรวม 2,120,798 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.22% ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 9.06 % จากงวดไตรมาส 4 ปี 2553 ซึ่งมียอดขายรวม 1,944,615 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET) ที่ส่งงบการเงินงวดไตรมาส 1 ปี 2553 มีบริษัทที่มีกำไรสุทธิ 393 บริษัท หรือ 85.43%
“ในไตรมาสแรกปี 2554 ยอดขายและผลกำไรรวมของบริษัทจดทะเบียนสร้างสถิติสูงสุด เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของทุกปีนับแต่จัดตั้งตลาดหลักทรัพย์ฯมา สะท้อนถึงพื้นฐานเศรษฐกิจซึ่งมีเสถียรภาพ และศักยภาพของผู้ประกอบการบจ.ในการสร้างกำไรแก่ธุรกิจภายใต้ภาวะต้นทุนการดำเนินงานที่สูงขึ้น และความพร้อมเพื่อการขยายตัวในอนาคต โดยมีการเติบโตอย่างโดดเด่นในหุ้นขนาดใหญ่ (SET50) โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค ซึ่งเป็นการเติบโตต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 2 ของปี 2553 ” นายจรัมพรกล่าว
สำหรับบริษัทในกลุ่ม SET100 มีกำไรสุทธิงวดไตรมาสแรกปี 2554 รวม 182,726 ล้านบาท คิดเป็น 89.01% ของกำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนรวม เพิ่มขึ้น 35.27% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยมียอดขายเพิ่มขึ้น 19.61% หรือ 297,760 ล้านบาท ในขณะที่กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนลดลง 84.92% มีภาระดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้น 15.96% และต้นทุนขายเพิ่มขึ้น 18.87% ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 19.70% เป็น 20.19%
ทั้งนี้ บริษัทจดทะเบียนที่มีกำไรสุทธิสูงสุด 5 อันดับแรก คือ บมจ. ปตท. (PTT) บมจ.ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) บมจ. อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) และ บมจ. ปูนซิเมนต์ไทย (SCC)
ภาพรวมผลการดำเนินงานกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีกำไรรวมสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กลุ่มทรัพยากร กลุ่มธุรกิจการเงิน กลุ่มวัตถุดิบสินค้าอุตสาหกรรม กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง และกลุ่มเทคโนโลยี โดยกลุ่มที่อัตราการเติบโตของกำไรสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ กลุ่มวัตถุดิบสินค้าอุตสาหกรรม กลุ่มทรัพยากร และกลุ่มธุรกิจการเงิน
ในขณะที่หมวดพลังงานและสาธารณูปโภค หมวดปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ และหมวดธนาคาร เป็นหมวดธุรกิจที่มีทั้งยอดขายและกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นสูงสุด 3 อันดับแรก โดยยอดขายรวมของทั้ง 3 หมวดคิดเป็น 58% ของยอดขายรวมทั้งหมด และกำไรสุทธิของทั้ง 3 หมวดคิดเป็น 67% ของกำไรสุทธิรวมทั้งหมด