กระทรวงการคลังเผยในช่วง 7 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2554 ฐานะการคลังยังอยู่ในระดับที่เข้มแข็ง และคาดว่ามาตรการลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลจะไม่กระทบต่อฐานะการคลังตลอดปีงบประมาณนี้
นายนริศ ชัยสูตร ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (ผอ.สศค.) แถลงข่าวฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในช่วง 7 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2554 ว่ารัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น 916,238 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 67,295 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.9 โดยเป็นผลมาจากเศรษฐกิจที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้การจัดเก็บรายได้รัฐบาลจาก 3 กรมจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้นมาก
ในขณะที่การเบิกจ่ายเงินงบประมาณมีจำนวนทั้งสิ้น 1,298,869 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 219,327 ล้านบาท หรือร้อยละ 20.3 ทำให้ดุลเงินงบประมาณขาดดุล 382,631 ล้านบาท เมื่อรวมกับการขาดดุลเงินนอกงบประมาณ 61,082 ล้านบาท จากการไถ่ถอนตั๋วเงินคลัง ส่งผลให้รัฐบาลขาดดุลเงินสดรวม 443,713 ล้านบาท และรัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล 129,605 ล้านบาท ทำให้ดุลเงินสดหลังกู้ขาดดุลทั้งสิ้น 314,108 ล้านบาท ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนเมษายน 2554 มีจำนวน 115,215 ล้านบาท
นายนริศ กล่าวสรุปว่า “ถึงแม้ว่ารัฐบาลจะมีมาตรการลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล แต่จากสถานการณ์เศรษฐกิจและการคลังที่อยู่ในระดับที่ดีมาตลอด ทำให้ สศค. มั่นใจว่ามาตรการดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อฐานะการคลัง โดยคาดว่าเงินคงคลัง ณ สิ้นปีงบประมาณ 2554 จะมีจำนวนประมาณ 3 แสนล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่มั่นคง”
ฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในช่วง 7 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2554
ที่มา: กรมบัญชีกลาง และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง