1. ดัชนีราคาและผลผลิตสินค้าเกษตร เม.ย.54 สูงขึ้น-แนวโน้ม พ.ค. 54 สูงต่อเนื่อง
- กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานว่าภาพรวมราคาสินค้าเกษตรของเดือนเม.ย.เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ดัชนีราคาสินค้าเกษตรสูงขึ้นร้อยละ 22.28 ขณะที่ ภาพรวมด้านการผลิตสินค้าเกษตร เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ดัชนีผลผลิตลดลงร้อยละ 14.87 และ ในเดือนพ.ค. 54 คาดว่าดัชนีผลผลิตในภาพรวมจะสูงขึ้นจากเดือนที่ผ่านมา เพราะมีผลผลิตสินค้าสำคัญหลายชนิดออกสู่ตลาดมากขึ้น ได้แก่ ปาล์มน้ำมัน และผลไม้ภาคตะวันออก
- สศค.วิเคราะห์ว่า ปริมาณผลผลิตสินค้าเกษตรจะยังคงขยายตัวสูงจากระยะเดียวกันปีก่อนจากผลผลิตข้าวและยางพาราเป็นหลัก สำหรับราคาสินค้าเกษตรยังขยายตัวในระดับสูงตามราคายางพาราและปาล์มน้ำมันเป็นสำคัญ โดยราคาเร่งตัวขึ้นเนื่องจากความต้องการในตลาดโลกที่ขยายตัวดี
ในขณะที่อุปทานทั้งในประเทศและต่างประเทศยังตึงตัวจากปัญหาสภาพภูมิอากาศไม่เอื้ออำนวย โดยในไตรมาสที่ 1 ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรขยายตัวร้อยละ 12.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เช่นเดียวกับราคาสินค้าเกษตรในไตรมาสที่ 1 ของปี 54 ที่ยังคงขยายตัวได้ดีที่ร้อยละ 25.7 ทำให้รายได้ของเกษตรกรที่แท้จริงยังคงขยายตัวได้ดีในระดับสูงอยู่ที่ร้อยละ 36.4 จากไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 14.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
2. โตโยต้าเผยยอดขายรถยนต์เดือนเม.ย. 54 มีจำนวน 67,283 คัน สูงสุดเป็นสถิติใหม่
- ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่บริษัทโตโยต้า เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ในเดือนเม.ย.54 มีปริมาณการขายทั้งสิ้น 67,283 คัน สูงสุดเป็นสถิติใหม่ของยอดขายในเดือนเม.ย.54 หรือมีอัตราการเติบโตร้อยละ 17.8 ซึ่งเป็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 20 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ ตลาดรถยนต์ในเดือนพ.ค.มีแนวโน้มลดลงหลังจากการปรับลดกำลังการผลิตตั้งแต่ช่วงปลายเดือนเม.ย.ของค่ายรถญี่ปุ่น
- สศค.วิเคราะห์ว่า ยอดขายรถยนต์ที่ขยายตัวได้ดีเป็นผลมาจาก 1) ภาวะเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง 2) รายได้เกษตรกรที่ขยายตัวได้ดีจากราคาสินค้าเกษตรที่ปรับตัวสูงขึ้น 3) การจ้างงานที่ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง 4) ความคล่องตัวของการปล่อยสินเชื่อรถยนต์ และอัตราดอกเบี้ยก็ยังคงอยู่ในระดับต่ำ และ 5) รถยนต์รุ่นใหม่ที่ออกสู่ตลาด อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการผลิตที่ลดลงในเดือนพ.ค.54 เป็นผลมาจากสถานการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิในญี่ปุ่น ส่งผลทำให้ไม่สามารถนำเข้าชิ้นส่วนรถยนต์บางรายการ
3. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของออสเตรเลียปรับตัวลดลง
- สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของออสเตรเลีย ณ เดือน พ.ค. 54 ได้ปรับลดลงมาสู่ที่ระดับ 103.9 หรือคิดเป็นร้อยละ 1.3 โดยมีสาเหตุสำคัญ คือ ภาคเอกชนได้คาดการณ์ว่าธนาคารกลางออสเตรเลียจะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายภายในเดือน มิ.ย. 54 จากอัตราปัจจุบันที่ระดับร้อยละ 4.75 มาสู่ที่ร้อยละ 5 ซึ่งเป็นผลจากอัตราเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น และอัตราการว่างงานที่ปรับตัวลดลง
- สศค. วิเคราะห์ว่า การปรับตัวลดลงของดัชนีราคาผู้บริโภคของออสเตรเลียในเดือน พ.ค. 54 มีสาเหตุสำคัญมาจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น เพื่อลดแรงกดดันจากอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น โดยอัตราเงินเฟ้อในไตรมาสแรกของปี 54 ขยายตัวร้อยละ 3.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดีวกันของปีก่อน เนื่องจากความต้องการในการจับจ่ายใช้สอยในประเทศ และราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น
นอกจากนี้ อัตราการว่างงานในเดือนเม.ย. 54 ยังคงอยู่ในระดับต่ำที่ร้อยละ 4.85 ของกำลังแรงงานรวม ทั้งนี้ ในปี 54 สศค. คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจออสเตรเลียจะขยายตัวอยู่ที่ระดับร้อยละ 3.1
ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
Thailandindustrycom_official
