IFEC มองแนวโน้มธุรกิจทั้งปียังสดใส เล็งเปิดตลาดเครื่องดิจิทัลมัลติฟังก์ชั่นรุ่นใหม่ หลังเศรษฐกิจฟื้น พร้อมลุยโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เต็มกำลัง มั่นใจรายได้ปีแรก 174 ล้านบาท
นายณรงค์ เตชะไชยวงศ์
ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ วิศวการ จำกัด (มหาชน)
IFEC มองแนวโน้มธุรกิจทั้งปียังสดใส เล็งเปิดตลาดเครื่องดิจิทัลมัลติฟังก์ชั่นรุ่นใหม่ หลังเศรษฐกิจฟื้น พร้อมลุยโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เต็มกำลัง มั่นใจรายได้ปีแรก 174 ล้านบาท
บมจ.อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ วิศวการ หรือ IFEC มองแนวโน้มธุรกิจทั้งปียังสดใส วางแผนเปิดตัว ตลาดเครื่องดิจิทัลมัลติฟังก์ชั่นรุ่นใหม่ หลังภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัว ดันความต้องการสินค้าพุ่งขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาสแรกทำยอดขาย 141.64 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 15.34 ล้านบาท มั่นใจสิ้นปีผลการดำเนินงานได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ 10-15% พร้อมรุกขยายลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ ล่าสุดส่งเครื่องดิจิทัล มัลติฟังก์ชั่น ให้ ปตท. 187 เครื่อง
นายณรงค์ เตชะไชยวงศ์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ วิศวการ จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกของปี 2554 (มกราคม-มีนาคม) ของบริษัทฯ ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม 141.64 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 15.34 ล้านบาท คิดเป็นเปลี่ยนแปลง -5.49%% และ -22.40 % ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีรายได้ 149.87 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 19.77 ล้านบาท
สำหรับผลประกอบการในไตรมาสแรก เป็นช่วงที่อยู่ระหว่างแนะนำสินค้าใหม่เข้าสู่ตลาด ทำให้รายได้และกำไรของบริษัทฯ อาจจะยังเติบโตไม่เป็นไปตามเป้าหมายนัก เนื่องจากลูกค้าจะใช้ช่วงเวลาในไตรมาสแรกในการวางแผนจัดซื้อและเริ่มสั่งซื้อสินค้าในช่วงไตรมาส 2 เป็นต้นไป เพื่อรองรับกับการขยายธุรกิจ จึงมั่นใจว่า ในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ จะสามารถสร้างรายได้ทั้งปีให้เติบโตได้ 10-15% ได้ตามเป้าที่วางไว้
ทั้งนี้ บริษัทฯ มองว่าความต้องการสินค้าเครื่องดิจิทัลมัลติฟังก์ชั่นในตลาดยังมีอีกมาก หลังจากภาวะเศรษฐกิจของไทยมีการขยายตัวที่ดี บริษัทฯ จึงมีแผนนำเข้าดิจิทัลมัลติฟังก์ชั่นรุ่นใหม่มาทำตลาดเพิ่มเติม เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่เป็นองค์กรธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก รวมถึงกลุ่มลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ ซึ่งต้องการสินค้าเครื่องดิจิทัลมัลติฟังก์ชั่นที่มีเทคโนโลยีของเครื่องเข้ามาช่วยการจัดการงานทางด้านเอกสารเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะเครื่อง Production Printing ที่เป็นเครื่องใหญ่สำหรับโรงพิมพ์ที่สนใจ Printing on Demand
โดยตั้งเป้าขายในปีนี้ประมาณ 40 เครื่อง ราคาเฉลี่ยเครื่องละ 2 ล้านบาท ซึ่งแผนการดำเนินงานในครั้งนี้ สอดคล้องกับทิศทางการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทย ที่มีอัตราการเติบโตที่ดี ส่งผลให้องค์กรธุรกิจขนาดใหญ่มีการขยายงานและมีความจำเป็นที่ต้องใช้งานเครื่องดิจิทัลมัลติฟังก์ชั่นเข้ามาช่วยในการจัดการงานทางด้านเอกสารเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อรายได้ของบริษัทฯ ในช่วงที่เหลือของปีนี้
“ทิศทางการดำเนินงานที่เหลือของปีนี้ บริษัทฯ มีความมั่นใจว่า จะสามารถสร้างรายได้จากธุรกิจหลักที่มาจากการเป็นผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายเครื่องดิจิทัลมัลติฟังก์ชั่น แบรนด์โคนิก้ามินอลต้าที่มากขึ้น หลังจากที่บริษัทฯ ได้นำเข้าเครื่องรุ่นใหม่เข้ามาทำตลาดที่มีฟังก์ชั่นการทำงานที่ช่วยให้องค์กรธุรกิจประหยัดค่าใช้จ่ายในการจัดการทางด้านเอกสาร
โดยในไตรมาส 2 บริษัทฯ ได้ดำเนินการส่งเครื่องดิจิทัลมัลติฟังก์ชั่นสี ให้กับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จำนวนทั้งสิ้น 187 เครื่อง ซึ่งสามารถเป็นการแนะนำ Solution Printing ให้กับตลาด และเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการขยายตลาดในปีนี้ต่อไป” นายณรงค์ กล่าว
ส่วนการก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของบริษัทฯ ขนาด 5 เมกะวัตต์ จำนวน 2 โรง กำลังการผลิตรวม 10 เมกะวัตต์ ที่อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี ขณะนี้มีความคืบหน้าด้านการก่อสร้างไปมากแล้ว คาดแล้วเสร็จได้ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ได้ทันกำหนด และสามารถทำรายได้จากการจำหน่ายไฟให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ในปีแรกได้ 174 ล้านบาทแน่นอน