เนื้อหาวันที่ : 2011-05-12 16:17:46 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1972 views

บีโอไอปลื้มตัวเลขลงทุน 4 เดือนพุ่งแตะกว่า 1.7 แสนล้าน

โครงการใหญ่ทุ่มลงทุนในไทย ทุนญี่ปุ่น-ต่างชาติยังโตต่อเนื่อง จำนวนโครงการเพิ่มกว่า 53% ดันตัวเลขลงทุน 4 เดือนพุ่ง 31% มูลค่าแตะ 170,000 ล้าน

          โครงการใหญ่ทุ่มลงทุนในไทย ทุนญี่ปุ่น-ต่างชาติยังโตต่อเนื่อง จำนวนโครงการเพิ่มกว่า 53% ดันตัวเลขลงทุน 4 เดือนพุ่ง 31% มูลค่าแตะ 170,000 ล้าน

          บีโอไอรายงานตัวเลขลงทุนช่วง 4 เดือนแรกของปี 2554 เพิ่มขึ้นทั้งจำนวนโครงการ และเงินลงทุนจากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยจำนวนโครงการเพิ่ม 53% ในขณะที่เงินลงทุนเพิ่ม 31% เลขาบีโอไอ ชี้ โครงการลงทุนขนาดกลาง และขนาดใหญ่ยังมั่นใจขยายลงทุนในไทย ในขณะที่ทิศทางการลงทุนจากญี่ปุ่น และต่างชาติยังโตต่อเนื่อง

          นางอรรชกา สีบุญเรือง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยถึงภาวะการลงทุนในช่วง 4 เดือน (มกราคม-เมษายน 2554) ว่า การยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น ทั้งจำนวนโครงการและมูลค่าเงินลงทุน โดยมีทั้งสิ้น 582 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 170,100 ล้านบาท จำนวนโครงการเพิ่มขึ้น 53% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มี 381 โครงการ ในขณะที่มีมูลค่า เงินลงทุนเพิ่มขึ้น 31% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีมูลค่าอยู่ที่ 129,500 ล้านบาท

          กลุ่มกิจการที่ได้รับความสนใจลงทุนสูงสุด ได้แก่ กิจการผลิตภัณฑ์โลหะ เครื่องจักรและอุปกรณ์ขนส่ง มีจำนวน 148 โครงการ เงินลงทุนรวม 50,300 ล้านบาท รองมาคือ กิจการบริการและสาธารณูปโภค จำนวน 131 โครงการ มุลค่าเงินลงทุน 37,700 ล้านบาท กิจการเคมี กระดาษ และพลาสติก จำนวน 73 โครงการ เงินลงทุน 32,900 ล้านบาท ตามลำดับ โดยกิจการลงทุนส่วนใหญ่เป็นกิจการขนาดกลางและขนาดใหญ่ ที่มีมูลค่าตั้งแต่ 200- 1,000 ล้านบาท ที่มีจำนวนถึง 169 โครงการจากทั้งหมด และมีมูลค่าเงินลงทุนกว่า 148,800 ล้านบาทจากมูลค่าทั้งหมด

          “การลงทุนในช่วงตั้งแต่ต้นปี มีความหลากหลาย และกระจายในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม ทั้งนี้จำนวนเงินลงทุนที่เป็นกลุ่มขนาดกลางและขนาดใหญ่ที่มีจำนวนมาก แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของกลุ่ม นักลงทุนรายใหญ่ที่มีต่อประเทศไทย และยังมองเห็นศักยภาพการเป็นแหล่งรองรับการลงทุนที่สำคัญ ในภูมิภาค เพื่อกระจายสินค้าส่งออกไปยังตลาดโลกได้อย่างต่อเนื่อง” นางอรรชกากล่าว

          นางอรรชกา กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้เหตุการณ์แผ่นดินไหว และคลื่นยักษ์สึนามิ จะส่งผลต่อภาคอุตสาหกรรมของประเทศญี่ปุ่น แต่ความสนใจของกลุ่มนักลงทุนญี่ปุ่นที่เข้ามาในประเทศไทยยังมีทิศทางขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยในเดือนเมษายน 2554 ที่ผ่านมา มีโครงการจากผู้ประกอบการญี่ปุ่นที่เดินหน้าขยายการลงทุนในไทย เช่น บริษัท เอจีซี ออโตโมทีฟ ( ประเทศไทย ) จำกัด ขยายกิจการผลิตกระจกนิรภัย สำหรับรถยนต์ เงินลงทุน 759 ล้านบาท บริษัท สยาม ฟูโกกุ จำกัด ขยายกิจการ ยางปัดน้ำฝน เงินลงทุน 854 ล้านบาท เป็นต้น

ในขณะที่มีโครงการขนาดใหญ่ของนักลงทุนประเทศอื่น ๆ อาทิ บริษัท แคล –คอมพ์ อิเล็กทรอนิกส์ ( ประเทศไทย ) จำกัด ( มหาชน ) จากกลุ่มทุนไต้หวัน-สิงคโปร์ ขยายกิจการ ผลิตผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ เงินลงทุน 1,962 ล้านบาท บริษัท อิเนอร์ยี ออโตโมทิฟ ซิสเต็มส์ ( ประเทศไทย ) จำกัด จากกลุ่มทุนจากประเทศฝรั่งเศส ขยายกิจการผลิต ถังน้ำมันพลาสติก สำหรับยานพาหนะ เงินลงทุน 441 ล้านบาท เป็นต้น

ที่มา : บีโอไอ