เนื้อหาวันที่ : 2011-05-10 15:21:41 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 2082 views

พานาเมร่า ดีเซล รถยนต์ จีที ซาลูน ที่ประหยัดที่สุด

ปอร์เช่ โชว์รถยนต์สปอร์ตใหม่สุดประหยัด แชมป์ทางไกลที่สามารถวิ่งทางไกลได้ถึง 1,200 กิโลเมตร พานาเมร่า ดีเซล

          แชมป์ทางไกล พานาเมร่า ดีเซล (Panamera Diesel) ที่สามารถวิ่งทางไกลได้ถึง 1,200 กิโลเมตรแกรนด์ ทัวริสโม่ (Gran Turismo) เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซล 250 แรงม้า (184 กิโลวัตต์) และบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเพียง 6.3 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตรเท่านั้น

          รถยนต์สปอร์ตแกรนด์ ทัวริสโม่ ชั้นนำจากค่ายปอร์เช่คันนี้สามารถวิ่งทางไกลพร้อมด้วยความเร็วที่เหนือชั้นได้อย่างน่าประทับใจ จากน้ำมันในถังที่มีขนาดความจุ 80 ลิตรนี้เองที่ทำให้พานาเมร่า ดีเซล (Panamera Diesel) ใหม่ล่าสุดคันนี้กลายมาเป็นรถยนต์ จีที ซาลูนที่ประหยัดที่สุดด้วยความสามารถในการวิ่งได้ไกลถึง 1,200 กิโลเมตร

ด้วยความยอดเยี่ยมของอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงของรถคันนี้ที่มีอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่แค่เพียง 6.3 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร (ตามวงจรการขับขี่ในรูปแบบ NEDC) อีกทั้งยังมีอัตราการปล่อย CO2 อยู่ที่ 167 กรัมต่อกิโลเมตรเท่านั้น

พานาเมร่า ดีเซล (Panamera Diesel) คันนี้ มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ จึงสามารถวิ่งจากเมืองเบอร์ลินเข้าสู่เมืองเบอล็อคเนอร์ได้โดยไม่ต้องแวะเติมน้ำมันทีเดียว และหากเลือกติดตั้งล้อและยางที่เป็นมาตรฐานของรถแล้วนั้นอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงก็จะอยู่ที่ 6.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร (172 กรัมต่อกิโลเมตร) เท่านั้น

          พานาเมร่า ดีเซล (Panamera Diesel) สามารถเร่งทะยานไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย แม้กระทั่งอยู่ในช่วงระหว่างการขับขี่บนพื้นถนนที่มีความสูงชันหรือขณะขึ้นเขา ซึ่งความสามารถเหล่านี้ได้มาจากเครื่องยนต์ขนาด 3 ลิตร V6 ที่มาพร้อมกับแรงม้าสูงสุดถึง 250 แรงม้า (184 กิโลวัตต์) ที่รอบเครื่องยนต์ระหว่าง 3,800 และ 4,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 550 นิวตันเมตรที่รอบเครื่องยนต์ 1,750 รอบต่อนาทีถึง 2,750 รอบนาที

ซึ่งส่งผลให้ให้เกิดขุมพละกำลังอย่างมหาศาลเลยทีเดียว ไม่เพียงเท่านั้นรถคันนี้ยังมีระบบส่งผ่านกำลังที่มีประสิทธิภาพสูงนั่นคือระบบเกียร์ทริปทรอนิค เอส (Tiptronic S) 8 จังหวะ ที่ทำงานร่วมกับลูกสูบแบบเทอร์โบดีเซล 6 สูบได้อย่างลงตัวและส่งผลให้แกรนด์ ทัวริสโม่ (Gran Turismo) ใหม่ล่าสุดคันนี้มีอัตราเร่งจากจุดหยุดนิ่งถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียงแค่ 6.8 วินาทีเท่านั้น

อีกทั้งยังมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 242 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (150 ไมล์ต่อชั่วโมง) และสำหรับรุ่นพานาเมร่า ดีเซล (Panamera Diesel) คันนี้ มีระบบขับเคลื่อนแบบขับเคลื่อนล้อหลัง เพื่อส่งเสริมการวิ่งทะยานไปข้างหน้าที่โดดเด่นได้อย่างไร้ขีดจำกัด

          เครื่องยนต์ขนาด 3 ลิตร V6 ของปอร์เช่ พานาเมร่า ดีเซล (Panamera Diesel) คันนี้ถือได้ว่าเป็นเครื่องยนต์ที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีดีเซลชั้นนำ อาทิเช่น ระบบคอมมอนเรล ไดเรค อินเจคชั่น (Common rail Direct Injection) หรือระบบจ่ายน้ำมันแบบรางร่วมซึ่งเป็นระบบจ่ายเชื้อเพลิงประกอบด้วยปั๊มแรงดันสูงถึง 2000 บาร์ผ่านวาล์วไพอีโซ (Piezo Valve)

อีกทั้งยังมีตัวเทอร์โบชาร์จที่ทำการควบคุม variable geometry turbochargers (VGTs) แบบอิเล็กทรอนิกส์และยังควบคุมไอเสียได้ดีเยี่ยมโดยใช้ระบบการนำไอเสียกลับมาเผาไหม้ใหม่ (Exhaust Gas Recirculation) และกระบวนการอ็อกซิเดชั่น เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Oxidation Catalyst) ซึ่งมาพร้อมด้วยหม้อกรองเขม่า (particle filter)

ด้วยประสิทธิภาพของระบบต่างๆในเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพสูงเหล่านี้จึงทำให้เกิดการสร้าง แรงบิดที่ดีเยี่ยม พร้อมกับการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงในอัตราต่ำ และวิ่งได้อย่างราบรื่น มั่นคง และลดมลพิษอีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้นรถรุ่นใหม่นี้ยังเสริมเพิ่มเติมด้วยการติดตั้งระบบเร่ง/หยุด อัตโนมัติ (Auto start/stop) มาเป็นมาตรฐานให้กับรถอีกด้วย

          ในเรื่องของการขับขี่ที่คล่องตัวและความสะดวกสบายของพานาเมร่า ดีเซล (Panamera Diesel) คันนี้นั้นเต็มไปด้วยรูปแบบของความเป็นปอร์เช่อย่างแท้จริง ซึ่งสามารถเลือกติดตั้งระบบช่วงล่างแบบถุงลมหรือAdaptive air suspension ได้หากต้องการเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่และคงไว้ซึ่งการขับขี่ที่คล่องตัวอย่างสปอร์ตได้อย่างลงตัว

          รูปลักษณ์ของภายในห้องโดยสารนั้นได้รับการพัฒนาเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในทุกๆ รายละเอียดให้แก่ผู้โดยสารในรถแกรนด์ ทัวริสโม่ (Grand Turismo) คันนี้ และเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายชั้นเลิศให้กับทั้ง 4 ที่นั่งในห้องโดยสารนั้นรถยนต์คันนี้จึงมีความยาวในห้องโดยสารที่ 4.97 เมตรและมีความสูงถึง 142 เซ็นติเมตร และ พานาเมร่า ดีเซล (Panamera Diesel) คันนี้อวดโฉมความเป็นดีเซลได้เด่นชัดจากคำว่า ‘diesel’ ที่ประทับอยู่ที่ประตูด้านหน้าอีกด้วย