คอลลิเออร์ส เผยฮ่องกงครองตำแหน่งทำเลที่แพงที่สุดในโลก ที่ 191.97 ดอลลาร์สหรัฐต่อตารางฟุต
อัตราค่าเช่าสำนักงานเกรดเอในฮ่องกงยังพุ่งแรงไม่หยุด ส่งฮ่องกงสู่ตำแหน่งทำเลทองอันดับ 1 ของโลก
รายงานอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลกสิ้นปี 2553 โดย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล (Colliers International) (สำหรับครึ่งหลังของปี 2553) ระบุว่า ณ สิ้นปี ฮ่องกงครองตำแหน่งทำเลที่แพงที่สุดในโลกเมื่อวัดจากอัตราค่าเช่าสำนักงาน โดยสำนักงานเกรดเออยู่ที่ 191.97 ดอลลาร์สหรัฐต่อตารางฟุต ณ เดือนธันวาคม 2553 ปารีสนั้นเบียดตัวเมืองลอนดอนขึ้นมาครองอันดับสี่ โดยค่าเช่าสำนักงานเกรดเออยู่ที่ 102.15 ดอลลาร์สหรัฐต่อตารางฟุตต่อปี เทียบกับ 83.19 ดอลลาร์สหรัฐต่อตารางฟุตต่อปีเมื่อสิ้นปี 2552
5 เมืองที่ติดอันดับอัตราค่าเช่าอาคารสำนักงานเกรดเอ/ชั้นเลิศ (ดอลลาร์สหรัฐต่อตารางฟุตต่อปี) สูงสุด
เมือง | ธันวาคม 2553 | มิถุนายน 2553 | ธันวาคม 2552 |
ฮ่องกง | 191.97 | 161.42 | 141.52 |
ลอนดอนฝั่งตะวันตก | 133.02 | 129.58 | 139.43 |
โตเกียว | 105.00 | 100.76 | 101.24 |
ปารีส | 102.15 | 91.82 | 83.19 |
ตัวเมืองลอนดอน | 99.77 | 94.17 | 99.46 |
รายงานดังกล่าวบ่งชี้ว่า ภูมิภาคส่วนใหญ่ได้ส่งสัญญาณบ่งบอกว่าวิกฤตการณ์ทางการเงินทั่วโลกนั้นได้ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว ผู้เช่าจึงหวนคืนสู่ตลาดอีกครั้งโดยอัตราการเช่าเพิ่มสูงขึ้นจากครึ่งปีและหนึ่งปีก่อนหน้านั้นด้วย สำหรับการเติบโตในหลายส่วนของเอเชีย-แปซิฟิก อเมริกากลาง แคนาดาและตลาดสำคัญในสหรัฐอเมริกาและยุโรปยังคงมีอัตราการเติบโตที่ดีในครึ่งปีหลังของปี 2553 ในทางกลับกัน อุปสงค์บางส่วนในสหรัฐอเมริกาและส่วนใหญ่ในยุโรปในรอบครึ่งปียังคงน้อยอยู่มาก
การก่อสร้างอาคารสำนักงานในเอเชีย-แปซิฟิกยังคงเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยตัวเลขระหว่างก่อสร้างสิ้นปีอยู่ที่ 165.6 ล้านตารางฟุต หรือ 42 เปอร์เซ็นต์ของทั่วโลก เทียบกับเมื่อห้าปีก่อน ในเอเชียแปซิฟิกมีการก่อสร้างเพียง 91.1 ล้านตารางฟุตเท่านั้น ในกรุงเทพ อาคารสำนักงานที่อยู่ในระหว่างก่อสร้างมีอยู่ประมาณ 135,000 ตารางเมตร โดย 100,000 ตารางเมตรมีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2554 ทั้งหมดอยู่ในย่านธุรกิจใจกลางเมือง คาดว่าอุปทานพื้นที่อาคารสำนักงานใหม่ในช่วง 3 ปีข้างหน้าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2% จากปัจจุบัน
สำหรับการลงทุนในตลาดสำนักงานทั่วโลก กิจกรรมการซื้อมาขายไปในช่วงครึ่งหลังของปี 2553 แสดงให้เห็นว่านักลงทุนรู้สึกสบายใจกับการตั้งราคา และคาดการณ์ว่าปัจจัยทางการตลาดพื้นฐานในระยะสั้นและระยะยาวจะแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ยอดขายรวมในครึ่งหลังของปี 2553 อยู่ที่ 88.7 ล้านเหรียญซึ่งเพิ่มขึ้น 52 เปอร์เซ็นต์จากครึ่งแรกของปี และเพิ่มขึ้น 32 เปอร์เซ็นต์จากครึ่งหลังของปีกลาย
ตลาดสำนักงานในอีเอ็มอีเอ (ยุโรป ตะวันออกกลางและแอฟริกา) ครองอันดับยอดขายสูงสุดที่ 33.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามด้วยทวีปอเมริกาที่ 32.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเอเชีย แปซิฟิกที่ 22.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ยอดขายในทั้งสามภูมิภาคหลักเพิ่มสูงขึ้น ในทวีปอเมริกาเพิ่มขึ้นสูงสุดเกินเท่าตัวโดยเพิ่มขึ้น 134% เมื่อเทียบกับครึ่งแรกของปี
ราคาพื้นที่สำนักงานในแต่ละภูมิภาคเพิ่มบ้างลดบ้างคละเคล้ากันไป แตกต่างจากครึ่งแรกของปีซึ่งราคาเพิ่มสูงขึ้นในทั้งสามภูมิภาค อย่างไรก็ตาม แนวโน้มทั่วไปของอัตราผลตอบแทนยังคงต่ำเพราะเศรษฐกิจทั่วโลกเฟื่องฟูขึ้นประกอบกับตลาดการเงินที่พัฒนามากขึ้นส่งผลให้ยอดธุรกรรมและการกำหนดราคาดีขึ้นตามไปด้วย
การลงทุนข้ามชาติยังคงซบเซาเมื่อเทียบกับปี 2550 แต่การลงทุนในต่างประเทศยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดว่าภูมิภาคอีเอ็มอีเอจะมีการลงทุนข้ามชาติสูงที่สุดในปี 2554 ตามด้วยสหรัฐอเมริกาซึ่งคาดการณ์ว่าตลาดจะฟื้นตัวดียิ่งขึ้น
สภาวะตลาดที่กระเตื้องขึ้น ประกอบกับเศรษฐกิจที่เฟื่องฟูและนักลงทุนผู้กระหายจะลงทุน ทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์สำนักงานในแทบทุกภูมิภาคทั่วโลกยังคงอยู่ในขาขึ้นและมุ่งหน้าสู่ภาวะตลาดที่สมดุลซึ่งมีปริมาณอุปสงค์และอุปทานไล่เลี่ยกันมากขึ้น อุปสงค์จะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนเนื่องจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ถูกมองว่าเป็นแหล่งสั่งสมความมั่งคั่งมาเนิ่นนาน แม้ว่าปัจจัยต่างๆ ที่กล่าวมาจะส่งผลให้ราคาสูงขึ้น แต่ค่อนข้างแน่นอนว่านักลงทุนจะโยกย้ายกลับไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ประเภทอาคารสำนักงานมากขึ้นเรื่อยๆ ตลอดปี 2554
เอเชีย-แปซิฟิก
อัตราค่าเช่าอาคารสำนักงานในเอเชีย-แปซิฟิกเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ ในอัตราเฉลี่ย 4.6 เปอร์เซ็นต์ในช่วงครึ่งปีหลัง เมืองที่อัตราค่าเช่าเพิ่มสูงขึ้นอย่างชัดเจนในครึ่งปีหลังของปี 2553 ได้แก่ ปักกิ่ง กวางเจา โฮจิมินห์ ฮ่องกง โซล เซี่ยงไฮ้และสิงคโปร์ ส่วนเมืองที่ลดลงมีเพียงเพิร์ธกับเวลลิงตัน ซึ่งอัตราค่าเช่าลดลง 7.4 เปอร์เซ็นต์และ 8.7 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ อัตราค่าเช่าครึ่งหลังของปี 2553 ในกรุงเทพค่อนข้างคงที่เนื่องจากอุปทานเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยและอุปสงค์มีไม่มากนัก
พื้นที่สำนักงานว่างในภูมิภาคอ่อนลงเล็กน้อยในครึ่งหลังของปี 2553 โดยอัตราพื้นที่ว่างในภูมิภาคเพิ่มขึ้น 44 จุดเป็น 12.36 เปอร์เซ็นต์ อัตราพื้นที่ว่างโดยเฉลี่ยในภูมิภาคค่อนข้างคงที่ในช่วงกลางปี ยกเว้นที่เฉิงตูซึ่งมีอัตราพื้นที่ว่างสูงสุดในภูมิภาคที่ 25.1 เปอร์เซ็นต์ ตามด้วยเชนไน เดห์ลี กวางเจา กรุงเทพ บังกาลอร์และแคนเบอร์รามีอัตราพื้นที่น้อยกว่าหรือเท่ากับ 14 เปอร์เซ็นต์ เมืองที่มีอัตราพื้นที่ว่างต่ำที่สุดในภูมิภาคได้แก่ฮ่องกงอยู่ที่ 3.1 เปอร์เซ็นต์
ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกยังคงมีการก่อสร้างอาคารสำนักงานใหม่โดยปักกิ่ง เชนไน เดลี กวางเจา โฮจิมินห์ จาร์กาตา เซี่ยงไฮ้ สิงคโปร์และโตเกียวล้วนมี พื้นที่ในระหว่างก่อสร้างอย่างน้อยห้าล้านตารางฟุต รวม 9 เมือง 140.2 ล้านตารางฟุต ณ สิ้นปี
อุปสงค์ที่แข็งแกร่งยังคงหนุนให้ภูมิภาคนี้เป็นผู้นำการขยายตัวทางเศรษฐกิจระดับโลก โดยประเทศที่โดดเด่นเป็นพิเศษได้แก่จีน อินเดีย ฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย เนื่องจากระยะเวลากระชั้นชิดเราจึงไม่สามารถคาดคะเนผลกระทบต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นในปี 2554 จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิเมื่อวันที่ 11 มีนาคมได้ แต่ถึงอย่างไรประมาณการณ์อัตราการเจริญเติบโตของญี่ปุ่น
นั้นก็ต่ำสุดในภูมิภาคอยู่แล้ว
พิจารณาจากปัจจัยทั้งหมดแล้ว ทั่วโลกกำลังจับตามองทางทิศตะวันออก ถึงแม้มีการคาดการณ์ว่าอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2554 จะต่ำกว่า 2553 แต่คาดว่าอัตราการเจริญเติบโตในภูมิภาคนี้ก็จะยังคงเหนือล้ำกว่าอเมริกาและยุโรป คาดว่าตลาดเช่ายังคงไม่หวือหวามากนักและแม้ว่าอุปทานพื้นที่สำนักงานยังคงถ่วงรั้งอัตราการเติบโตในการเช่า ทำให้อัตราค่าเช่ามีแนวโน้มคงที่สำหรับเมืองส่วนใหญ่ในภูมิภาค
สหรัฐอเมริกาและแคนาดา
การขยายตัวทางเศรษฐกิจในระดับปานกลางประกอบกับสภาวะทางธุรกิจที่กระเตื้องขึ้นส่งผลให้การให้เช่าอาคารสำนักงานค่อนข้างเฟื่องฟูพอสมควรและปิดยอดสิ้นปีด้วยตัวเลขที่สูงขึ้น แต่ถึงแม้ว่าตลาดเช่าจะกระเตื้องขึ้นบ้าง อัตราพื้นที่สำนักงานว่างในช่วงครึ่งปีหลังของทั้งแคนาดาและสหรัฐอเมริกาลดลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น อัตราพื้นที่สำนักงานว่างทั่วสหรัฐเมริกาลดลง 30 จุดอยู่ที่ 16.1 เปอร์เซ็นต์ในตอนสิ้นปี
แม้ว่ากิจกรรมการเช่าที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้อัตราค่าเช่าค่อนข้างทรงตัว แต่ยังไม่ถึงเวลาที่ค่าเช่าจะปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากบริษัทต่างๆ ยังคงระมัดระวังในการเช่าพื้นที่สำนักงานเพิ่ม
ในแคนาดา การก่อสร้างยังคงลดลงทั้งในโตรอนโตและคาลการีส่งผลให้อัตราพื้นที่ว่างลดลง ถึงอย่างไร แคนาดาได้รับอานิสงค์จากตำแหน่งงานที่เพิ่มขึ้นและเศรษฐกิจที่ได้รับแรงหนุนจากสินค้าอุปโภครวมถึงน้ำมันซึ่งแตกต่างจากสหรัฐอเมริกา
ในภูมิภาคดังกล่าว ใจกลางแมนฮัตตันยังคงรั้งตำแหน่งค่าเช่าสำนักงานสูงสุด โดยค่าเช่าพื้นที่สำนักงานเกรดเออยู่ที่ 65 ดอลลาร์สหรัฐต่อตารางฟุตต่อปี ตามด้วยวอชิงตันที่ 54 ดอลลาร์สหรัฐต่อตารางฟุตต่อปี และแวนคูเวอร์ที่ 53 ดอลลาร์แคนาดา
ยุโรป ตะวันออกกลางและแอฟริกา (อีเอ็มอีเอ)
สภาวะเศรษฐกิจในประเทศส่วนใหญ่ในยุโรป ตะวันออกกลางและแอฟริกากระเตื้องขึ้นส่งผลให้อัตราพื้นที่ว่างโดยเฉลี่ยของอีเอ็มอีเอลดลงเล็กน้อยอยู่ที่ 12.27 เปอร์เซ็นต์ ณ สิ้นปี ลดลงจากช่วงกลางปี 11 จุด แต่เพิ่มขึ้น 26 จุดในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา เมืองที่มีอัตราพื้นที่ว่างลดลงฮวบฮาบได้แก่เบอร์มิงแฮม บราติสลาวา กลาสโกว์ เคียฟ มอสโก ริกา สต็อกโฮล์ม และทาลลินน์ ซึ่งปรากฎว่าอัตราพื้นที่ว่างลดลงอย่างน้อย 2 เปอร์เซ็นต์ในครึ่งหลังของปี 2553
อัตราค่าเช่าสำนักงานเกรดเอเพิ่มขึ้น 0.4 เปอร์เซ็นต์ในครึ่งปีหลังของปี 2553 และลอนดอนยังคงรั้งตำแหน่งเมืองที่ตลาดพื้นที่สำนักงานราคาสูงที่สุดในภูมิภาค อัตราค่าเช่าในตลาดย่อยแถบตะวันตกที่ผู้ให้เช่าเรียกปัจจุบันนี้อยู่ที่ 133 ดอลลาร์สหรัฐต่อตารางฟุตต่อปี ตามมาติดๆ ด้วยปารีส ตัวเมืองลอนดอน ลอนดอนฝั่งตอนใต้ของแม่น้ำเทมส์ และเจนีวาครองตำแหน่ง 5 เมืองที่ตลาดพื้นที่สำนักงานราคาสูงที่สุดในภูมิภาค
ตัวเลขพื้นที่สำนักงานในระหว่างก่อสร้างในตอนสิ้นปีลดลงจากช่วงกลางปีอยู่พอสมควร ตัวเลขสิ้นปีอยู่ที่ 163 ล้านตารางฟุตเมื่อเทียบกับ 178.4 ตารางฟุตในช่วงกลางปี ปริมาณการก่อสร้างในดูไบกับอาบูดาบีลดลงมากโดยพื้นที่กำลังก่อสร้างรวมสองเมืองลดลง 25.8 ล้านตารางฟุต
อเมริกากลาง
รอบหกเดือนติดต่อกันสี่รอบมาแล้วที่ตลาดในภูมิภาคอเมริกากลางยังคงที่และอัตราพื้นที่ว่างอยู่ในระดับ 6 เปอร์เซ็นต์ ริโอเดอจาเนโรมีอัตราพื้นที่สำนักงานต่ำสุดในภูมิภาคที่ 1.6 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ในทางกลับกัน อัตราพื้นที่ว่างของกรุงแม็กซิโก ซิตี้เพิ่มสูงขึ้น 1 เปอร์เซ็นต์เต็มๆ อยู่ที่เฉลี่ย 11 เปอร์เซ็นต์ ณ สิ้นปี
เปรูเป็นผู้นำในภูมิภาคนี้โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศโต 8.7 เปอร์เซ็นต์ในปี 2553 และคาดว่าจะเติบโต 5.1 เปอร์เซ็นต์ในปี 2554 ภูมิภาคนี้ยังคงมีอัตราการเจริญเติบโตที่แข็งแกร่ง คาดว่าการเติบโตของเศรษฐกิจจะผลักดันให้อัตราพื้นที่ว่างลดลงและค่าเช่าเพิ่มสูงขึ้น ศูนย์กลางการก่อสร้างอาคารสำนักงานอยู่ที่กรุงแม็กซิโกและซานเปาโล ทั้งสองเมืองมีพื้นที่กำลังก่อสร้างรวม 26.8 ล้านตารางฟุต
ริโอเดอจาเนโร เป็นตลาดที่ราคาสำนักงานสูงที่สุดในภูมิภาคในปัจจุบัน โดยค่าเช่าก่อนหักค่าใช้จ่ายของสำนักงานเกรดเออยู่ที่ 95 ดอลลาร์สหรัฐต่อตารางฟุตต่อปี พื้นที่ระหว่างการก่อสร้างสูงเป็นอันดับสามที่ 5.4 ล้านตารางฟุต ซึ่งจะช่วยลดความกดดันในตลาดสำนักงานเช่าค่อนข้างแออัดลงได้บ้าง