เนื้อหาวันที่ : 2011-04-21 16:53:50 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1064 views

วีซ่าชี้คนไทยหันใช้บริการชำระหนี้ออนไลน์

ผลสำรวจจากวีซ่าชี้คนไทยหันมาใช้บริการการ ชำระหนี้ผ่านระบบออนไลน์เพราะพึงพอใจในความสะดวกสบาย

ผลสำรวจจากวีซ่าชี้คนไทยหันมาใช้บริการการ  ชำระหนี้ผ่านระบบออนไลน์เพราะพึงพอใจในความสะดวกสบาย

ข้อมูลจากการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคในระบบอี-คอมเมิร์ชปี 2553 โดยวีซ่า  (2010 Visa eCommerce Consumer Monitor)   พบว่าผู้บริโภคชาวไทยเลือกชำระเงินจากใบแจ้งหนี้ต่างๆผ่านระบบออนไลน์มากกว่าชำระด้วยเงินสดหรือเช็คเพราะเล็งเห็นถึงความสะดวกและสามารถยืดหยุ่นได้

ผลสำรวจจากผู้บริโภคชาวไทยจำนวน 534 คนในช่วงไตรมาสที่สามของปีที่ผ่านมาพบว่า 43เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถามเคยชำระค่าบริการต่างๆผ่านระบบออนไลน์ในสิบสองเดือนที่ผ่านมาโดย 92 เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้บริการเหล่านี้ยืนยันทำการชำระค่าบริการผ่านระบบออนไลน์ต่อไป   นอกจากนี้ 45 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถามที่ไม่เคยใช้บริการนี้ มีความประสงค์ที่จะทดลองชำระผ่านระบบออนไลน์

เมื่อถามว่าผู้ตอบแบบสอบถามการชำระค่าบริการด้วยรูปแบบออนไลน์หรือออฟไลน์ เปอร์เซ็นต์ที่ได้มีดังต่อไปนี้    25 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถามใช้เครื่องเอทีเอ็มเพื่อชำระหนี้ต่างๆเป็นช่องทางหลัก ขณะที่ 21 เปอร์เซ็นต์เลือกชำระผ่านเว็บของธนาคาร, 19 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถามเดินทางไปที่ธนาคารเพื่อชำระค่าบริการ, 11 เปอร์เซ็นต์ชำระที่ห้างสรรพสินค้าและร้านค้าและอีก 5 เปอร์เซ็นต์ชำระผ่านเว็บไชต์ของห้างร้านโดยตรง

 “การชำระบริการต่างๆผ่านระบบออนไลน์เป็นที่นิยมมากขึ้นในหมู่ผู้บริโภคชาวไทยและมีแนวโน้มว่าจะโตมากขึ้นเนื่องจากผู้บริโภคเล็งเห็นถึงความสะดวกสบายในการชำระเงินผ่านระบบธุรกรรมอัตโนมัตินี้” คุณสมบูรณ์ ครบธีระนนท์, ผู้จัดการบริษัทวีซ่า, ประจำประเทศไทยกล่าว

 “ด้วยรูปแบบชีวิตที่เร่งรีบและวุ่นวายในปัจจุบันทำการตรวจตราว่าค่าบริการแต่ละใบได้ชำระแล้วหรือยังนั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างท้าทาย การเชื่อมถึงกันระหว่างค่าบริการต่างๆที่เกิดขึ้นและการใช้บัตรเพื่อการชำระเงินโดยตรงหรือผ่านระบบออนไลน์ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถติดตามได้ว่าจ่ายเงินของใบเรียกเก็บใดไปบ้างแล้วเพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการชำระเงินเกินกำหนด ทั้งยังสามารถสะสมคะแนนเพื่อแลกรับของรางวัลโดยไม่ต้องเดินทางไปที่จุดชำระเงินด้วยตัวเองอีกด้วย ทั้งบริการเวอร์ริฟายด์ บาย วีซ่า(Verified by Visa) ซึ่งเป็นบริการตรวจสอบอัตลักษณ์ก็ทำให้ผู้บริโภคแน่ใจได้ว่าการทำธุรกรรมผ่านบัตรวีซ่านั้นเป็นเรื่องที่ปลอดภัย” คุณสมบูรณ์กล่าวเสริม

ผู้ตอบแบบสอบถามที่เคยใช้บริการชำระค่าบริการด้วยระบบออนไลน์นั้นให้เหตุผลในการชำระเงินผ่านระบบออนไลน์ว่าเป็นเพราะ ช่วยประหยัดเวลา (29 เปอร์เซ็นต์), มีความยืดหยุ่นเพราะสามารถชำระเงินได้ทุกเวลา (15 เปอร์เซ็นต์) และช่วยให้ตรวจสอบและบริหารการเงินได้ง่ายยิ่งขึ้น (7 เปอร์เซ็นต์)

ผู้ตอบแบบสอบถามชาวไทยชำระค่าบริการผ่านระบบออนไลน์โดยเฉลี่ยที่ 64 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐต่อปี โดย 59 เปอร์เซ็นต์เป็นการชำระค่าโทรศัพท์, 43 เปอร์เซ็นต์คือค่าใช้บริการอินเตอร์เน็ตอีก 39 เปอร์เซ็นต์จากการชำระบัตรเครดิตและอีก 33 เปอร์เซ็นต์ชำระค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภคต่างๆ

ข้อมูลจากการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคในระบบอี-คอมเมิร์ชปี 2553 โดยวีซ่า (2010 Visa eCommerce Consumer Monitor) ถูกจัดทำขึ้นเมื่อไตมาสที่สามขอปีที่ผ่านมาโดยติดตามแนวโน้มของการใช้จ่ายออนไลน์ของผู้ใช้อินเตอร์เน็ตใน 6 ประเทศหลักในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกอันได้แก่ จีน, อินเดีย, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, ไต้หวัน, และประเทศไทย

เกี่ยวกับวีซ่า
วีซ่าคือบริษัทผู้ให้บริการด้านเครือข่ายการชำระเงินระดับโลก แก่ลูกค้าบุคคล ธุรกิจ และสถาบันการเงิน ตลอดจนองค์กรรัฐ ในกว่า 200 ประเทศทั่วโลกด้วยเทคโนโลยีด้านเงินตราดิจิตอลที่รวดเร็ว ปลอดภัย และวางใจได้ โดยมี VisaNet หนึ่งในระบบเครือข่ายการทำงานด้านเงินตราดิจิตอลที่ทันสมัยมากที่สุดระบบหนึ่งของโลกเป็นรากฐาน ซึ่งสามารถประมวลและควบคุมการทำธุรกรรมได้กว่า 20,000 รายการในหนึ่งวินาที พร้อมด้วยระบบป้องกันการปลอมแปลงสำหรับลูกค้าบุคคล และการรับประกับการชำระเงินสำหรับร้านค้า

วีซ่าไม่ใช่ธนาคารและมิได้มีบริการการออกบัตร เพิ่มวงเงินเครดิต หรือกำหนดอัตราค่าบริการแก่ผู้ถือบัตร หากแต่ให้บริการนวัตกรรมซึ่งส่งเสริมให้สถาบันการเงินสามารถมอบทางเลือกที่มีความหลากหลายให้แก่ลูกค้าได้ เช่น บริการชำระเงินจากยอดเงินในบัตรเดบิต หรือการใช้จ่ายด้วยวงเงินล่วงหน้าผ่านผลิตภัณฑ์บัตรเครดิตต่างๆ  ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวีซ่า ค้นหาได้ที่: www.corporate.visa.com

เกี่ยวกับวีซ่า อีคอมเมิร์ซ คอนซูมเมอร์ มอนิเตอร์
วีซ่า อีคอมเมิร์ซ คอนซูมเมอร์ มอนิเตอร์ ทำการติดตามแนวโน้มของการใช้จ่ายออนไลน์ของผู้ใช้อินเตอร์เน็ตใน 6 ประเทศหลักในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ผู้ตอบแบบสอบถามจะถูกซักถามเกี่ยวกับปัจจัยที่เป็นตัวผลักดันและข้อจำกัดในการใช้จ่ายออนไลน์ รวมถึงความตั้งใจในการซื้อสินค้าผ่านอินเตอร์เน็ตในอนาคต 

ผลการสำรวจนี้ให้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับพฤติกรรมในการใช้จ่ายผ่านระบบออนไลน์ของผู้บริโภค และถือเป็นหนึ่งในพันธกิจหลักของวีซ่าในการนำเสนอข้อมูลและส่งเสริมให้เศรษฐกิจเติบโต  ทั้งนี้ ข้อมูลจากการสำรวจถูกจัดทำขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคมและกันยายนพ.ศ. 2553