เนื้อหาวันที่ : 2011-03-31 09:52:29 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1189 views

สศค.ยันศก.ไทยปี 54 ขยายตัวในช่วง 4-5%

สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง คาดการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปีนี้ชะลอลงจากปีก่อน ขณะที่การบริโภคในประเทศมีบทบาทมากขึ้น

สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง คาดการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปีนี้ชะลอลงจากปีก่อน ขณะที่การบริโภคในประเทศมีบทบาทมากขึ้น

นายนริศ ชัยสูตร ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง แถลงข่าวประมาณการเศรษฐกิจไทย ณ เดือนมีนาคม 2554 ว่า “เศรษฐกิจไทยในปี 2554 คาดว่าจะยังคงขยายตัวอยู่ในช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 4.0-5.0 ชะลอลงจากปีก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 7.8 ซึ่งเป็นการปรับเข้าสู่การขยายตัวในระดับปกติ จากปีก่อนหน้าที่เศรษฐกิจไทยขยายตัวสูงมาก

ประกอบกับปัจจัยภายนอกโดยเฉพาะราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นมาก ตลอดจนปัญหาภัยพิบัติในญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ชัดเจนขึ้น

นอกจากนี้ เศรษฐกิจภายในประเทศโดยเฉพาะภาคการใช?จ?ายภายในประเทศ ในป? 2554 ยังคงมีแนวโน?มขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน เพราะฉะนั้น การขยายตัวของเศรษฐกิจในปี 2554 ถือเป?นการปรับเข้าสู่สมดุลมากขึ้น เพราะเป็นการปรับสมดุลให้อุปสงค์ทั้งภายในและภายนอกประเทศเป็นแรงขับดันเศรษฐกิจไปควบคู่กัน”

นายบุญชัย จรัสแสงสมบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค กล่าวเสริมว่า “ในปี 2554 เสถียรภาพเศรษฐกิจของไทยยังคงแข็งแกร่ง สำหรับเสถียรภาพเศรษฐกิจภายในประเทศ คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2554 จะอยู่ที่ร้อยละ 3.6 ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานคาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 2.5 ขณะที่เสถียรภาพเศรษฐกิจภายนอกประเทศยังอยู่ในเกณฑ์ดีเช่นกัน โดยดุลบัญชีเดินสะพัดในปี 2554 คาดว่าจะเกินดุลร้อยละ 3.5 ของ GDP เกินดุลลดลงจากปีที่แล้ว เนื่องจากการฟื้นตัวของการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนตลอดจนราคาน้ำมันที่สูงขึ้น”

ทั้งนี้ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า “อย่างไรก็ตาม ในการประมาณการเศรษฐกิจ จำเป็นต้องคำนึงถึงปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด คือ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่จะเป็นไปได้รวดเร็วมากน้อยเพียงใด สถานการณ์ความไม่สงบทางการเมืองในแถบตะวันออกกลางที่จะส่งผลต่อความผันผวนของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก อีกทั้ง สถานการณ์การเคลื่อนย้ายเงินทุนจากต่างประเทศที่จะมีผลต่อค่าเงินบาท”

ที่มา : สำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง