1. JCR ปรับแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของไทยจากระดับที่เป็นลบมาที่ระดับเสถียรภาพ
- บริษัท Japan Ceadit Rating Agency (JCR) ได้รับแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้ระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศและสกุลเงินบาท ที่ออกโดยรัฐบาลไทยจากระดับที่เป็นลบ (negative outlook) มาเป็นระดับที่มีเสถียรภาพ (stable outlook) และได้ยืนยันอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้ระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศ (Foreign Currency Long-Term Senior Debts) ที่ระดับ A- และอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้ระยะยาวสกุลเงินบาท (Local Currency Long-Term Senior Debts) ที่ระดับ A
- สศค.วิเคราะห์ว่า การปรับแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยให้กลับมาอยู่ในระดับที่มีเสถียรภาพนั้น เป็นผลมาจากเสถียรภาพของเศรษฐกิจไทยอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งสะท้อนได้จากอัตราเงินเฟ้อในเดือน ก.พ. 54 อยู่ที่ร้อยละ 2.87 ดุลบัญชีเดินสะพัดและทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ที่ระดับ 1.1 และ 179.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตามลำดับ
โดยสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ในเดือน ม.ค. 54 อยู่ที่ระดับร้อยละ 41.94 เป็นสัดส่วนหนี้ต่างประเทศร้อยละ 8.56 หนี้ในประเทศร้อยละ 91.44 สำหรับสัดส่วนหนี้ระยะยาวและหนี้ระยะสั้นอยู่ที่ร้อยละ 98.39 และ 1.61 ตามลำดับ ทั้งนี้ สศค. คาดว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 54 ขยายตัวในช่วงร้อยละ 4.0 – 5.0 (คาดการณ์ ณ วันที่ 29 มี.ค. 54)
2. โรงแรมไทยยอดพักดีที่สุดในรอบ 3 ปี
- นายกสมาคมโรงแรมไทย กล่าวว่า นับจากต้นปีที่ผ่านมาสถานการณ์การเข้าพักโรงแรมของไทยเติบโตในทิศทางที่ดีในรอบ 3 ปี แม้จะมีเหตุการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 2 เดือนแรกที่ผ่านมา โรงแรมทั่วประเทศมีอัตราเข้าพักเฉลี่ยร้อยละ 75 – 80 เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 10 โดยในเดือนมี.ค.มีอัตราเข้าพักสูงถึงร้อยละ 80 อย่างไรก็ตาม หากไม่มีสถานการณ์การเมืองเข้ามาแทรกอีก คาดว่าทั้งปี 54 นักท่องเที่ยวจะเพิ่มถึง 16 ล้านคนตามเป้าที่วางไว้
- สศค.วิเคราะห์ว่า ใน 2 เดือนแรกปี 54 นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทยจำนวน 3.6 ล้านคน ขยายตัวร้อยละ 11.7 ต่อปี โดยในช่วงวันที่ 1 – 24 มี.ค. 54 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าด่านสุวรรณภูมิ ซึ่งคิดเป็นประมาณร้อยละ 70 ของด่านทั้งหมด จำนวนทั้งสิ้น 8.37 แสนคน ขยายตัวร้อยละ 18.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนให้เห็นถึงอัตราเดินทางเข้าที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สอดคล้องกับอัตราเข้าพักที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ สศค.คาดว่าทั้งปี 54 นักท่องเที่ยวต่างชาติจะเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 16.8 ล้านคน สูงกว่าเป้าที่วางไว้
3. ราคาสินค้าโภคภัณฑ์และวัสดุก่อสร้างของญี่ปุ่นอาจปรับเพิ่มขึ้นหลังการฟื้นฟูประเทศ
- Scotia bank ธนาคารชั้นนำของแคนาดา รายงานว่า การฟื้นฟูประเทศของญี่ปุ่นจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิน่าจะส่งผลทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ราคาเหล็ก ไม้อัด ไม้แผ่นและวัสดุก่อสร้างอื่นๆ ปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงราคาก๊าซธรรมชาติ ก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) และน้ำมันดิบ ที่จะต้องใช้ในการผลิตพลังงานเพื่อชดเชยจากการปิดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์
- สศค. วิเคราะห์ว่า การฟื้นฟูประเทศของญี่ปุ่นภายหลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิที่ได้สร้างความเสียหายต่อพื้นที่การเกษตร ทรัพย์สินและโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ทำให้ญี่ปุ่นมีความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์เพื่อทดแทนสินค้าเกษตรภายในประเทศ วัสดุก่อสร้างต่างๆ เพื่อซ่อมแซมอาคารที่เสียหาย รวมทั้งก๊าซธรรมชาติ ก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) และน้ำมันดิบเพื่อใช้ทดแทนพลังงานนิวเคลียร์เพิ่มสูงขึ้น
ซึ่งจะส่งผลให้ราคาสินค้าเหล่านี้ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ดี การใช้จ่ายบริโภคภายในประเทศของญี่ปุ่นจะเป็นปัจจัยให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นเติบโตจากที่ญี่ปุ่นมีปัญหาของภาวะเงินฝืดในประเทศ ทั้งนี้ สศค. คาดว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นในปี 54 จะเติบโตได้ร้อยละ 1.3 ต่อปี (คาดการณ์ ณ มี.ค.54)
ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง