อีเอ็มซี ครองตำแหน่งผู้นำด้านการจัดหาระบบดิสก์สตอเรจแบบติดตั้งภายนอกยาวนาน 14 ปีติดต่อกัน พร้อมเพิ่มส่วนแบ่งตลาด
อีเอ็มซี ครองตำแหน่งผู้นำด้านการจัดหาระบบดิสก์สตอเรจแบบติดตั้งภายนอกยาวนาน 14 ปีติดต่อกัน พร้อมเพิ่มส่วนแบ่งตลาด
อีเอ็มซี คอร์ปอเรชั่น (NYSE: EMC) ผู้นำระดับโลกทางด้านโซลูชั่นโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศ ครองตำแหน่งผู้นำด้านการจัดหาระบบดิสก์สตอเรจแบบติดตั้งภายนอกเป็นปีที่ 14 ติดต่อกันในส่วนของรายได้สำหรับโรงงานผลิต จากรายงานตลาดระบบดิสก์สตอเรจทั่วโลกรายไตรมาสของไอดีซี (IDC Worldwide Quarterly Disk Storage Systems Tracker) ประจำเดือนมีนาคม 2554
โดยอีเอ็มซีมีส่วนแบ่งเพิ่มขึ้นในตลาดสำคัญๆ ทั้งหมด และนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ๆ มากมายสำหรับรองรับตลาดที่เติบโตขึ้นในส่วนของระบบเวอร์ช่วลไลเซชั่น ระบบแบ็คอัพข้อมูลรุ่นอนาคต ระบบคลาวด์คอมพิวติ้ง และการจัดเก็บข้อมูลจำนวนมาก (Big Data)
ข้อมูลสำคัญ
• รายงานตลาดระบบดิสก์สตอเรจทั่วโลกรายไตรมาสของไอดีซี (มีนาคม 2554) ระบุว่า อีเอ็มซีครองตำแหน่งอันดับหนึ่งในแง่ของรายได้และจำนวนเทราไบต์สำหรับยอดขายดิสก์สตอเรจแบบติดตั้งภายนอกในช่วงปี 2553 โดยอีเอ็มซีสามารถรั้งตำแหน่งผู้นำระดับโลกในตลาด RAID ภายนอก, ระบบสตอเรจบนเครือข่ายแบบเปิด (NAS บวกกับ Open/iSCSI SAN), Storage Area Network (SAN) แบบเปิด และตลาด Network Attached Storage (NAS)
• ข้อมูลของไอดีซีระบุว่า ปีนี้เป็นปีที่ 14 ติดต่อกันที่อีเอ็มซีครองตำแหน่งผู้นำตลาดระบบดิสก์สตอเรจแบบติดตั้งภายนอกในแง่ของรายได้และยอดขายตามขนาดพื้นที่สตอเรจ (เทราไบต์)
• ในตลาด NAS อีเอ็มซีขยายตำแหน่งผู้นำอันดับหนึ่งในปี 2553 ด้วยการขยายธุรกิจให้เติบโตได้รวดเร็วกว่ามากเมื่อเทียบกับอัตราการขยายตัวของตลาดโดยรวมแบบปีต่อปี ตามรายงานตลาดระบบดิสก์สตอเรจทั่วโลกรายไตรมาสของไอดีซี (มีนาคม 2554)
• ส่วนแบ่งตลาดที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากการที่ลูกค้าทั่วโลกให้การยอมรับอย่างกว้างขวางต่อเทคโนโลยีสตอเรจที่หลากหลายของอีเอ็มซี ทั้งนี้อีเอ็มซีมีกลุ่มผลิตภัณฑ์สตอเรจที่ครบถ้วนและทันสมัยมากที่สุด และในช่วงปี 2553 บริษัทฯ ใช้เงินลงทุนกว่า 2,000 ล้านดอลลาร์สำหรับการวิจัยและพัฒนา นอกจากนั้น อีเอ็มซียังใช้เงินลงทุนจำนวนมากเพื่อขยายช่องทางจัดจำหน่ายและโครงสร้างพื้นฐานสำหรับงานขายภายในองค์กร
• เมื่อเดือนมกราคม 2554 อีเอ็มซีได้ขยายความเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของอุตสาหกรรมสตอเรจ โดยได้เผยโฉมผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีใหม่ๆ กว่า 40 รายการ เพื่อรองรับตลาดที่มีการเติบโตรวดเร็วที่สุด เช่น ระบบจัดเก็บข้อมูลจำนวนมาก (Big Data) และคลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing)
"อีเอ็มซีรั้งตำแหน่งผู้นำตลาดได้อย่างต่อเนื่อง เพราะลูกค้าและคู่ค้าเชื่อมั่นในกลยุทธ์ วิสัยทัศน์ และศักยภาพของเรา เราได้ลงทุนและสร้างสรรค์นวัตกรรมทางด้านเทคโนโลยีอย่างมุ่งมั่นตลอดปี 2553 เพื่อช่วยให้ลูกค้าพัฒนาต่อยอดสู่ระบบคลาวด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
แพ็ต เกลซิงเกอร์ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ กลุ่มผลิตภัณฑ์โครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศของอีเอ็มซี กล่าว “เราก้าวเข้าสู่ปี 2554 โดยทิ้งห่างคู่แข่งเพิ่มมากขึ้น ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เหนือชั้น เช่น ระบบยูนิฟายด์สตอเรจ EMC VNX® ผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ด้านการแบ็คอัพและการจัดเก็บข้อมูลระยะยาว และซอฟต์แวร์ที่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพสำหรับระบบสตอเรจ VMAX™
ลูกค้าของเรายังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างดาต้าเซ็นเตอร์แบบเวอร์ช่วลไลซ์และกำหนดมาตรฐานสำหรับการผนวกรวมระบบจากผู้ผลิตหลายรายเข้าด้วยกัน อีเอ็มซีมีสถานะที่แข็งแกร่งและโดดเด่นด้วยเทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศที่ดีที่สุด ทั้งยังสามารถรองรับแพลตฟอร์มของวีเอ็มแวร์ได้อย่างกลมกลืนอีกด้วย”
ข้อมูลเกี่ยวกับอีเอ็มซี
อีเอ็มซี คอร์ปอเรชั่น (NYSE: EMC) เป็นผู้นำระดับโลกในด้านการพัฒนาและจัดหาโซลูชั่นและเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งช่วยให้องค์กรทุกขนาดปรับปรุงขีดความสามารถในการแข่งขันและใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่าจากข้อมูลที่มีอยู่ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของอีเอ็มซี คลิกไปที่ www.thailand.emc.com
EMC, VMAX and VNX are either registered trademarks or trademarks of EMC Corporation in the United States and/or other countries. VMware is a registered trademark or trademark of VMware, Inc. in the United States and/or other countries All other trademarks used herein are the property of their respective owners.
Thailandindustrycom_official
