เชฟโรเลต เผยโฉมรถต้นแบบ โคโลราโด รุ่นใหม่ ที่ได้รับการพัฒนาจากดีเอ็นเอสายพันธุ์แกร่งของรถกระบะเชฟโรเลต ก่อนอวดโฉมต่อสายตาชาวไทยครั้งแรกในโลกในงานบางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์
เชฟโรเลต เผยโฉมรถต้นแบบ โคโลราโด รุ่นใหม่ ที่ได้รับการพัฒนาจากดีเอ็นเอสายพันธุ์แกร่งของรถกระบะเชฟโรเลต ก่อนอวดโฉมต่อสายตาชาวไทยครั้งแรกในโลกในงานบางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์
เชฟโรเลต เผยโฉมรถต้นแบบ โคโลราโด รุ่นใหม่ ที่ได้รับการพัฒนาจากดีเอ็นเอสายพันธุ์แกร่งของรถกระบะเชฟโรเลตที่ได้รับรางวัลมาแล้วมากมาย ก่อนนำออกโชว์ตัวสู่สายตาชาวไทยครั้งแรกในโลกที่งานบางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 32 พร้อมเปิดตัวออกจำหน่ายจริงภายในปีนี้
“ตลาดรถกระบะในประเทศไทยมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ประเทศไทยจึงเหมาะสมที่สุดในการเผยโฉมโคโลราโด รุ่นใหม่ของเรา” มร.มาร์ติน แอพเฟล ประธานกรรมการ ประจำประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
“รถกระบะเชฟโรเลต โคโลราโด เจนเนอเรชั่นใหม่ จะมาพร้อมกับตำนานอันยาวนานร่วม 100 ปีซึ่งคว้ารางวัลมาแล้วมากมาย เรามีความภาคภูมิใจที่ได้ผลิตโคโลราโด รุ่นใหม่ในประเทศไทย และเชื่อมั่นว่าจะตรงกับความต้องการและตอบสนองต่อทุกการใช้งานของลูกค้าชาวไทย” มร.แอพเฟล กล่าว
ซูซาน โดเชอร์ตี้ รองประธานกรรมการฝ่ายการขาย การตลาด และบริการหลังการขาย เจนเนอรัล มอเตอร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล โอเปอเรชั่นส์ กล่าวว่า “รถกระบะได้อยู่เคียงคู่กับประวัติศาตร์อันยาวนานของเชฟโรเลตมาเป็นเวลาเกือบ 100 ปี และโคโลราโด เจนเนอเรชั่นใหม่นี้จะตอกย้ำความสมบูรณ์แบบทั้งด้านการออกแบบ ความพิถีพิถัน และประสิทธิภาพอันเหนือระดับได้อย่างแน่นอน”
รถกระบะเชฟโรเลต โคโลราโด ต้นแบบคันนี้ มาพร้อมกับรูปทรงที่แข็งแกร่งบึกบึน ตัวถังแบบเอ็กซ์เทนเดด-แค็บ หรือแบบ 2 ประตูพร้อมแค็บและที่นั่งด้านหลังคนขับ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ยกสูง สะดุดตาด้วยล้ออลูมิเนียมขนาด 20 นิ้วและยางแบบออฟโรด พร้อมสมรรถนะแห่งความแรงอันยอดเยี่ยมด้วยขุมพลังดีเซลเทอร์โบขนาด 2.8 ลิตร ให้แรงบิดต่อเนื่องตอบสนองทุกการใช้งาน และประหยัดเหนือชั้น
มร.แบรด เมอร์เคล ผู้บริหารระดับสูงด้านสายผลิตภัณฑ์ของจีเอ็ม กล่าวว่า “ถึงแม้จะเป็นเพียงรถต้นแบบ แต่ก็สะท้อนให้เห็นถึงแนวทางในการพัฒนารถกระบะเชฟโรเลต โคโลราโดรุ่นใหม่ในก้าวต่อไป โดยมีการวางแผนเพื่อเปิดตัวออกสู่ตลาดและจัดจำหน่ายจริงในปีนี้อย่างแน่นอน จากรูปลักษณ์อันแข็งแกร่ง ทรงพลัง ล้ำสมัย ตลอดจนเทคโนโลยีต่างๆ ที่จะถูกถ่ายทอดจากรถกระบะต้นแบบสู่รถเชฟโรเลต โคโลราโดรุ่นใหม่นี้ จะทำให้เชฟโรเลต โคโลราโดรุ่นใหม่ตอบสนองความต้องการในการใช้งานได้ทุกรูปแบบทั้งการใช้งานในเชิงพาณิชย์ ไปจนถึงการใช้งานอเนกประสงค์ทั่วๆไป”
โคโลราโด ได้รับการสร้างสรรค์จากหน่วยงานพัฒนาผลิตภัณฑ์ระดับโลกของจีเอ็ม โดยฝีมือทีมวิศวกรที่ทำงานอย่างพิถีพิถัน พร้อมกับการเข้ามาใช้ชีวิตในเมืองไทยนานหลายเดือนของทีมหัวหน้าวิศวกร ที่เฝ้าสังเกตภาวะตลาดรถเมืองไทย และการใช้งานรถกระบะของลูกค้าชาวไทย ตลอดจนสำรวจคุณภาพท้องถนนเกือบทั่วประเทศไทย เพื่อให้แน่ใจว่ารถกระบะรุ่นใหม่นี้จะตรงกับความต้องการของลูกค้าชาวไทยมากที่สุด
“รถกระบะ มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศไทย และผู้ที่ใช้งานรถกระบะมีความภาคภูมิใจในรถของพวกเขาเป็นอย่างมาก เพราะพวกเขาสามารถใช้รถกระบะในการทำงาน และในชีวิตประจำวันส่วนตัวได้อย่างเต็มที่ ลูกค้ามีจุดประสงค์และความต้องการใช้งานรถกระบะให้คุ้มค่ามากที่สุด ดังนั้นเครื่องยนต์ และโครงสร้างตัวถังจะต้องมีความแข็งแกร่ง ทนทานและนั่นคือสิ่งที่เราพร้อมจะมอบให้ลูกค้าของเชฟโรเลต โคโลราโดรุ่นใหม่ล่าสุดคันนี้” มร.เมอร์เคล กล่าว
รายละเอียดการออกแบบ
เป้าหมายการออกแบบของรถต้นแบบโคโลราโด คือ การนำเสนอความแข็งแกร่งออกมาทางตัวถังที่มีขนาดใหญ่และมั่นคง ด้านหน้าโดดเด่นด้วยเอกลักษณ์กระจังหน้าสองชั้น และโลโก้โบไทสีทองอันโดดเด่นของเชฟโรเลตนำสายตาทุกคู่ไปสู่กรอบไฟหน้าที่พาดเฉียงขึ้นไปบนฝากระโปรงรถ ซึ่งเชื่อมต่อกับซุ้มล้อขนาดใหญ่ดูทรงพลัง
“การพัฒนารถกระบะทั่วโลก เกิดขึ้นจากการเชื่อมโยงกันระหว่างความแข็งแกร่ง การรองรับการขับขี่ และการใช้งาน ซึ่งคุณสมบัติดังกล่าวนี้ถูกบรรจุอยู่ในรถต้นแบบโคโลราโดคันนี้” เอ็ด เวลเบิร์น รองประธาน จีเอ็ม โกลเบิล ดีไซน์ กล่าวพร้อมเพิ่มเติมว่า “ความบึกบึนด้านข้างของตัวถังรถเป็นการสานต่อเอกลักษณ์อันโดดเด่นของรถกระบะในตระกูลเชฟโรเลตมานานนับศตวรรษ”
สีสันของตัวถังด้านหน้ารถเลือกใช้สีเมทัลลิกชนิดพิเศษที่เรียกว่า ‘เปปเปอร์ดัสต์’ ตัดกับอลูมิเนียมขัดเงา เข้าคู่กับบันไดด้านข้างที่เป็นส่วนประกอบหนึ่งของตัวรถ การออกแบบกรอบไฟหน้าโคมดำพร้อมหลอดไฟแบบแอลอีดี เช่นเดียวกับไฟท้ายแบบแอลอีดีทั้งหมดจะสามารถดึงดูดสายตาทุกคู่ในยามค่ำคืน
การออกแบบตัวถังภายนอกส่วนอื่น ประกอบด้วย
- การออกแบบช่วงแค็บที่ไหลลื่น พร้อมปิดกระบะท้ายสีเดียวกับตัวถังรถ
- แถบสีเทาเข้ม พาดผ่านด้านหน้า ด้านข้าง และด้านท้ายรถ
- ล้ออลูมิเนียมขนาด 20 นิ้ว สีเทาเข้ม ตกแต่งแบบ “ลิควิด เมทัล”
- ยางออฟโรด คูเปอร์ ซีออน แอลทีแซด ขนาด 285/50 R20
- กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวแอลอีดี
ภายในห้องโดยสารแบบดูอัล-ค็อกพิท เป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของเชฟโรเลตที่เน้นความสมดุลลื่นไหลตลอดคอนโซลหน้าไปจนถึงแผงข้างประตู มีการแทรกดีไซน์แบบบิดโค้งเพื่อเพิ่มความล้ำสมัย แสงไฟในห้องโดยสารสีฟ้าไอซ์บลู เบาะหนังตัดเย็บอย่างพิถีพิถัน เน้นให้เห็นสัมผัสของความสะดวกสบาย กว้างขวาง และรื่มรมย์ตลอดการเดินทาง
มร.เวลเบิร์น กล่าวว่า “การออกแบบภายในของโคโลราโด เน้นให้ผู้โดยสารรู้สึกเหมือนได้รับคำเชิญชวนให้นั่งไปพร้อมกับความรู้สึกพิเศษ ด้วยความกว้างขวางที่เหนือกว่ารถกระบะค่ายอื่นในระดับเดียวกัน และในขณะเดียวกัน ทุกรายละเอียดของห้องโดยสาร จะได้รับการพัฒนามาเพื่อมอบคุณภาพสูงสุด ทั้งในด้านความรู้สึก หรือแม้แต่เพียงแค่การมองเห็น”
มาตรวัดแบบ 3 ช่อง โดดเด่นสะดุดตา ให้อารมณ์ความรู้สึกสปอร์ต และตอบสนองทุกการใช้งานได้อย่างชัดเจน
ภายในห้องโดยสารเน้นโทนสีต่างเพิ่มความหรูหรา เบาะหนังสีอ่อนตัดกับลายไม้สีเข้มและโครเมียม พร้อมพื้นผิวที่ไม่มีความมันมากนัก และวัสดุอื่นๆที่ให้สัมผัสอ่อนนุ่ม ช่องเก็บของหลากหลายขนาดถูกติดตั้งทั่วห้องโดยสาร รวมถึงช่องเก็บของที่มีฝาปิดมิดชิดเพื่อเก็บของมีค่าและช่องเก็บของขนาดใหญ่บริเวณคอนโซลด้านหน้าแบบสองชั้นแสดงความหรูหราและตัวตนของเจ้าของรถ ตลอดจนช่วยสร้างความรู้สึกแบบพรีเมียมให้ผู้โดยสารแทบทั้งสิ้น