เมอร์เซเดส-เบนซ์ ฉลองครบรอบ 125 ปี เตรียมเปิดตัวยิ่งใหญ่ 5 ยนตรกรรมโฉมใหม่ และสุดยอดยนตรกรรมอีกกว่า 20 คัน พร้อมโชว์ตำนานนวัตกรรมยานยนต์สุดตระการตาในแบบสี่มิติในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ฉลองครบรอบ 125 ปี เตรียมเปิดตัวยิ่งใหญ่ 5 ยนตรกรรมโฉมใหม่ และสุดยอดยนตรกรรมอีกกว่า 20 คัน พร้อมโชว์ตำนานนวัตกรรมยานยนต์สุดตระการตาในแบบสี่มิติในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์
ฉลองครบ 125 ปีแห่งความสำเร็จของเมอร์เซเดส-เบนซ์ชมการแสดงรถยนต์คันแรกของโลก “Benz Patent Motor Car” พบกับโฉมใหม่ล่าสุด The new SLK-Class, The new CLS-Class, The new generation CL-Class, G 55 AMG, The new Vito ตามด้วยสุดยอดยนตรกรรมอีกกว่า 20 คัน ครบครันในทุกเซ็กเมนต์ สัมผัสมิติใหม่ของบูธเมอร์เซเดส-เบนซ์ กับการปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ใหม่เป็นแห่งแรกของเมอร์เซเดส-เบนซ์ในเอเชีย ชมตำนานนวัตกรรมยานยนต์ด้วยโชว์สุดตระการตาด้วยเทคโนโลยีเสมือนจริงล้ำยุค Augmented Reality สี่มิติเป็นครั้งแรกในประเทศไทย
ศาสตราจารย์ ดร. อเล็กซานเดอร์ เพาฟเลอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ 125 ปีของการเป็นผู้นำนวัตกรรมยานยนต์ระดับโลกที่เพียบพร้อมด้วยองค์ประกอบด้านการออกแบบอันน่าหลงใหลและทันสมัย พร้อมด้วยคุณภาพอันเป็นเลิศ และมีมาตรฐานความปลอดภัยสูง
ดังนั้นแนวคิดในการออกแบบบูธเพื่อจัดแสดงสุดยอดยนตรกรรมจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งนี้จึงเป็นรูปโฉมใหม่ที่แตกต่างจากปีอื่นๆ ที่ผ่านมา ที่จะสะท้อนถึงความมีพละกำลัง แรงขับเคลื่อน และความเป็นผู้นำ ซึ่งนับเป็นการเปิดตัวภาพลักษณ์ใหม่ของเมอร์เซเดส-เบนซ์เป็นแห่งแรกของเมอร์เซเดส-เบนซ์ในเอเชีย
“ไฮไลท์พิเศษของเมอร์เซเดส-เบนซ์ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ปีนี้ คือ การฉลองครบรอบ 125 ปีแห่งนวัตกรรมของเมอร์เซเดส-เบนซ์ เมื่อ Carl Benz ได้ประดิษฐ์รถยนต์คันแรกของโลกและจดทะเบียนลิขสิทธิ์เมื่อวันที่ 29 มกราคม 1886 เมอร์เซเดส-เบนซ์ประเทศไทยจึงถือโอกาสนี้เปิดตัวยนตรกรรมใหม่ถึง 6 รุ่นด้วยกัน
โดยเริ่มจากการนำเสนอรถยนต์สามล้อต้นแบบ “เบนซ์ เพเทนท์ มอเตอร์ คาร์” ซึ่งถือเป็นยนตรกรรมคันแรกของโลกมาโชว์ในงานเคียงคู่กับ The new CLS-Class ซึ่งเป็นยนตรกรรมโฉมใหม่รุ่นล่าสุด สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของนวัตกรรมยานยนต์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ตั้งแต่อดีตที่ผ่านมาจวบจนปัจจุบันและสู่อนาคตอย่างยั่งยืน
นอกจาก The new CLS-Class ยังเปิดตัว The new SLK-Class โดยยนตรกรรมโฉมใหม่ทั้งสองรุ่นพร้อมที่จะอวดโฉมความร้อนแรงแต่เปี่ยมไปด้วยขุมพลังอันทรงประสิทธิภาพที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีเครื่องยนต์ที่พัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด BlueEFFICIENCY นวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่ให้กำลังและแรงบิดที่มากขึ้นกว่ารถรุ่นก่อนแต่ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้มากกว่าเดิมถึง 25%
นอกจากนี้เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังมีการนำเสนอยนตรกรรมใหม่ที่โดดเด่นอีก ได้แก่ CL 500 BlueEFFICIENCY ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ BlueDIRECT แบบ V8 ด้วยสมรรถนะการเผาผลาญน้ำมันเชื้อเพลิงน้อยกว่าเครื่องยนต์รุ่นเดิมมากกว่า 20% การเปิดตัวรถยนต์ตู้แวนใหม่ล่าสุด The new Vito และ Viano ที่มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง หรูหราและสะดวกสบายเหมาะทั้งใช้งานธุรกิจและครอบครัว และการจัดแสดงรถยนต์ G-Class รุ่น G 55 AMG รถยนต์ ออฟโรดขับเคลื่อน 4 ล้อ” ดร.เพาฟเลอร์ กล่าว
The new SLK 350 BlueEFFICIENCY Roadster
The new SLK 350 BlueEFFICIENCY ตระกูลเมอร์เซเดส-เบนซ์ เอสแอลเค โรดสเตอร์ สปอร์ตระดับไฮคลาสรุ่นใหม่นี้เป็นรุ่นที่สามของตระกูล SLK รูปลักษณ์ภายนอกบริเวณด้านหน้าปรับปรุงใหม่หมดที่ให้ความสปอร์ตและคลาสสิคขึ้นโดยได้รับอิทธิพลมาจากรุ่นซุปเปอร์สปอร์ตคาร์ย้อนยุค SLS AMG ประตูปีกนก ที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นานนี้
เครื่องยนต์ทรงพลัง V6 ความจุกระบอกสูบ 3,498 ซีซี กำลังสูงสุด 225 กิโลวัตต์ / 306 แรงม้าที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 370 นิวตันเมตรที่ 3,500 รอบ/นาที อัตราเร่งจาก 0 - 100 กม./ชม. ภายในระยะเวลา 5.6 วินาที และความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. มาพร้อมกับหลังคาแบบใหม่ล่าสุด panoramic vario-roof แบบ MAGIC SKY CONTROL ที่สามารถปรับระดับความสว่างได้
The new CLS 350 BlueEFFICIENCY
The new CLS 350 รถยนต์คูเป้สี่ประตูโฉมใหม่ที่ได้รับการออกแบบทั้งรูปลักษณ์ภายนอกและภายในใหม่หมดจดของรุ่นที่สอง ด้านหน้าได้รับการออกแบบพิเศษให้ปราดเปรียวขึ้น พร้อมกระจังหน้ารูปตัว V-shaped ลายเส้นนูนโค้งเว้าด้านข้างมีมิติและสวยสะดุดตาเน้นย้ำความปราดเปรียวเด่นชัดมากขึ้น
ด้านท้ายโค้งมนให้ความสปอร์ต พร้อมไฟท้ายแบบ LED ประสิทธิภาพสูง CLS ใหม่มาพร้อมเครื่องยนต์ V6 ความจุกระบอกสูบ 3,498 ซีซี กำลังสูงสุด 225 กิโลวัตต์ / 306 แรงม้าที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 370 นิวตันเมตรที่ 3,500 -5,250 รอบ/นาที อัตราเร่งจาก 0 - 100 กม./ชม. ภายในระยะเวลา 6.1 วินาที และความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. ให้ความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงกว่ารุ่นก่อนถึง 25%
The new generation CL-Class
The new generation CL-Class ยนตรกรรมล่าสุดในกลุ่ม CL-Class บทสรุปแห่งสุดยอดรถยนต์คูเป้ระดับไฮเอ็นด์ มาพร้อมเครื่องยนต์ขุมพลัง V8 ไบเทอร์โบดีไซน์ใหม่ขนาด 320 กิโลวัตต์ 435 แรงม้าในรุ่น CL 500 BlueEFFICIENCY มีอัตราสิ้นเปลืองโดยเฉลี่ยเพียง 9.5 ลิตรต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร และโดดเด่นด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด BlueDIRECT สามารถประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้มากถึง 23 เปอร์เซ็นต์ และยังปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่ชั้นบรรยากาศลดลงจาก 288 กรัมเป็น 224 กรัมต่อกิโลเมตร
The new Vito
The new Vito ยนตรกรรมอเนกประสงค์ระดับหรูโฉมใหม่ที่โดดเด่นทั้งรูปลักษณ์ภายในและภายนอก ตอบสนองการใช้งานได้อย่างหลากหลายและลงตัว ด้วยเครื่องยนต์ดีเซล แถวเรียง 4 สูบ เทอร์โบพร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ความจุกระบอกสูบ 2,148 ซีซี ขุมพลัง 110 กิโลวัตต์/ 150 แรงม้าที่ 3,800 รอบ/นาที มีแรงบิดสูงสุดที่ 330 นิวตันเมตรที่ 1,800 – 2,400 รอบ/นาที อัตราเร่งจาก 0 - 100 กม./ชม. ภายในระยะเวลา 12.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 180 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองโดยเฉลี่ยเพียง 8.1 ลิตรต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร พรั่งพร้อมด้วยระบบความปลอดภัยตามมาตรฐานเมอร์เซเดส-เบนซ์
G 55 AMG: ออฟโรดสมบุกสมบันพร้อมความแรงสไตล์ AMG
เป็นครั้งแรกที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้นำรถ G-Class เข้ามาแสดงในไทย โดย G-Class เป็นรถออฟโรด SUV สมบุกสมบันกว่าทุกคลาสของเมอร์เซเดส-เบนซ์ และเมื่อ Mercedes-AMG นำรุ่นนี้มาโมดิฟายเป็น G 55 AMG จึงให้พละกำลังพร้อมความแรงระดับ AMG ที่ดุดันขึ้นแต่ยังแฝงรูปลักษณ์สไตล์คลาสสิก ด้วยเครื่องยนต์ V8 ขนาดความจุ 5.5 ลิตร พร้อมระบบซูเปอร์ชาร์จ สามารถให้ขุมพลังถึง 373 กิโลวัตต์/ 507 แรงม้า มีแรงบิดสูงสุดที่ 700 นิวตันเมตร มีอัตราเร่งจาก 0 - 100 กม./ชม. ภายในระยะเวลา 5.5 วินาที และมีความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม. นอกจากนี้ยังเพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยต่างๆ ครบครัน
นอกจากไฮไลท์ข้างบนดังกล่าวเมอร์เซเดส-เบนซ์ยังได้เตรียมขนขบวนสุดยอดยนตรกรรมรวมทั้งสิ้นกว่า 20 คันในทุกเซ็กเมนต์ ภายใต้แนวคิด “BlueEFFICIENCY” นวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ทั้งที่เป็นเครื่องยนต์เบนซินแบบ CGI, เครื่องยนต์ดีเซล CDI และเครื่องยนต์ใหม่ล่าสุด BlueDIRECT ที่จะทำให้มีขนาดเล็กลง แต่ให้พละกำลังสูง ที่สำคัญเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยสามารถลดคาร์บอนไดออกไซด์จากท่อไอเสียได้มากขึ้นและให้ความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น
ยนตรกรรม C-Class
รถยนต์ยอดนิยมอย่างเมอร์เซเดส-เบนซ์ C-Class ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นรถยนต์ที่ให้ความสนุกในการขับขี่อย่างยิ่งนั้น รุ่นที่บริษัทนำมาแสดงในงานนี้ คือ
- C 200CGI BlueEFFEICIENCY ELEGANCE,
- C 250CDI BlueEFFEICIENCY AVANTGARDE, และ
- C 250CGI BlueEFFEICIENCY AVANTGARDE
ยนตรกรรม E-Class
ยนตรกรรมยอดนิยมของเมอร์เซเดส-เบนซ์อย่าง E-Class นั้น บริษัทได้นำรุ่น
- E 200CGI BlueEFFEICIENCY ELEGANCE,
- E 250CDI BlueEFFEICIENCY ELEGANCE,
- E 250 BlueEFFICIENCY AVANTGARDE พร้อมชุดแต่ง MercedesSport และ
- E 300 AVANTGARDE Sport