กรุงเทพซินธิติกส์ ลงนามความตกลงเข้าร่วมทุนกับ เจเอสอาร์ จากญี่ปุ่น ตั้งโรงงานผลิตยางสังเคราะห์ S-SBR แห่งแรกในประเทศไทย
กรุงเทพซินธิติกส์ ลงนามความตกลงเข้าร่วมทุนกับ เจเอสอาร์ จากญี่ปุ่น ตั้งโรงงานผลิตยางสังเคราะห์ S-SBR แห่งแรกในประเทศไทย
บริษัท กรุงเทพซินธิติกส์ จำกัด (BST) และบริษัท เจเอสอาร์ คอร์ปอเรชั่น (JSR) จากประเทศญี่ปุ่นได้ร่วมลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนง (Letter of Intent) การจัดตั้งบริษัทร่วมทุน ซึ่ง BST และ JSR ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 49 และ 51 ตามลำดับ เพื่อก่อสร้างโรงงานผลิตยางสังเคราะห์ S-SBR (Solution Polymerization Styrene-Butadiene Rubber) แห่งแรกในประเทศไทย ที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด มีกำลังการผลิตระหว่าง 50,000 - 100,000 ตันต่อปี คาดว่าจะเริ่มผลิตในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2556
นายชัยยศ วงศ์พยัต กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงเทพ ซินธิติกส์ จำกัด กล่าวว่า “การจับมือร่วมทุนครั้งนี้ เป็นการผสานระหว่าง JSR ซึ่งเป็นผู้นำด้านการใช้เทคโนโลยีและการออกแบบการผลิตยางสังเคราะห์ S-SBR ของโลก เข้ากับวัตถุดิบหลักจากผลิตภัณฑ์ที่ได้จากสายการผลิตใน
โรงงานของ BST โดยตรง ซึ่งการผสานสองจุดแข็งนี้จะช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพและศักยภาพในการดำเนินธุรกิจของบริษัทร่วมทุนให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น”ยางสังเคราะห์ S-SBR ถือได้ว่าเป็นยางสังเคราะห์อีกชนิดหนึ่ง ที่มีคุณสมบัติพิเศษ ส่วนใหญ่นำมาใช้ในการผลิตยางล้อรถยนต์และผลิตภัณฑ์ต่างๆ อีกหลากหลายประเภท
ปัจจุบันปริมาณความต้องการยางสังเคราะห์ S-SBR ทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นผลสืบเนื่องจากกระแสความตระหนักถึงการรณรงค์ด้านอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของโลกที่เพิ่มสูงขึ้นมาก ทำให้มีการบังคับใช้ข้อกำหนดในการควบคุมมลภาวะด้านสิ่งแวดล้อมเข้มงวดมากยิ่งขึ้นในหลายๆประเทศทั่วโลก เช่น tire labeling regulation”
นายชัยยศ วงศ์พยัต กล่าวเสริมว่า “ทุกวันนี้เทคโนโลยีการผลิต S-SBR ของ JSR ได้รับการยอมรับในวงการอุตสาหกรรมการผลิตระดับโลกว่า มีความสมบูรณ์แบบที่สุดในการนำมาใช้ผลิตยางสังเคราะห์เพื่อเป็นวัตถุดิบสำหรับการผลิตยางล้อรถยนต์ประเภทประหยัดพลังงานที่มีสมรรถนะสูง (Fuel-efficient high performance tires)
โดยยางล้อรถยนต์ดังกล่าว จะต้องมีคุณสมบัติด้านความต้านทานการหมุนที่ต่ำ (low rolling resistance) และมีค่าการยึดเกาะถนนที่สูง (high wet grip) ซึ่งยางสังเคราะห์ S-SBR ของ JSR สามารถตอบสนองคุณสมบัติทั้งสองข้อได้เป็นอย่างดียิ่ง และยังไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อสมรรถนะด้านอื่นๆ ของยางอีกด้วย”
ในส่วนของ BST นั้น ถือได้ว่าเป็นบริษัทฯผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมการผลิตผลิตภัณฑ์จาก C4 เป็นรายแรกในประเทศไทย เริ่มก่อตั้งในปีพ.ศ.2534 ปัจจุบันเป็นหนึ่งในผู้ผลิตผลิตภัณฑ์จาก Mixed C4 รายใหญ่ที่สุดของภูมิภาค โดย BST ได้เสริมสร้างความแข็งแกร่งของห่วงโซ่มูลค่า (Value Chain) ของอุตสาหกรรมจากต้นน้ำสู่ปลายน้ำ ผ่านเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย และวิสัยทัศน์การออกแบบโรงงานที่มีความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตเพื่อการผลิต
ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและมีประสิทธิภาพสูง ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของ BST ในปัจจุบันประกอบด้วย บิวทาไดอีน (Butadiene) บิวทีน-1 (Butene-1) เอ็มทีบีอี (MTBE) ซีโฟว์ราฟฟิเนท (C4-Raffinate) และยังมีแอลพีจี (LPG) ที่เป็นผลิตภัณฑ์ผลพลอยได้
นอกจากนี้ BST ยังได้มีการดำเนินธุรกิจการผลิตยางสังเคราะห์ E-SBR (Emulsion Styrene-Butadiene Rubber) และ ยางสังเคราะห์ BR (Polybutadiene Rubber) ภายใต้ชื่อ บริษัท บีเอสทีอิลาสโตเมอร์ จำกัด (BSTE) ซึ่งถือได้ว่าเป็นหนึ่งในผู้ผลิตยางสังเคราะห์รายใหญ่ที่สุดของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นอกจากโครงการผลิตยางสังเคราะห์ S-SBR ดังกล่าวแล้ว ปัจจุบัน BST อยู่ในช่วงระหว่างการดำเนินงานก่อสร้างโรงงานผลิต NB Latex ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำหรับผลิตถุงมือทางการแพทย์ และคาดว่าจะสามารถดำเนินการผลิตได้ภายในปี พ.ศ. 2555
จากการเดินหน้าขยายธุรกิจเข้าสู่ NB Latex และได้รับการสนับสนุนความร่วมมือครั้งใหม่จากผู้ผลิตยางสังเคราะห์ S-SBR ชั้นนำอย่าง JSR จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของขีดความสามารถในการผลิตผลิตภัณฑ์ยางสังเคราะห์ที่มีความหลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด ทั้งจากภายในและภายนอกประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วได้เป็นอย่างดี
Thailandindustrycom_official
