กระเบื้องหลังคา ตราห้าห่วง เผยโฉมกระเบื้องนวัตกรรมใหม่ ห้าห่วง ฉลากเขียว ปลอดภัยต่อชีวิต 100% เตรียมลงตลาดเต็มที่มี.ค. นี้
กระเบื้องหลังคา ตราห้าห่วง เผยโฉมกระเบื้องนวัตกรรมใหม่ ห้าห่วง ฉลากเขียว ปลอดภัยต่อชีวิต 100% เตรียมลงตลาดเต็มที่มี.ค. นี้
นายองอาจ เตชะมหพันธ์ กรรมการบริหาร กลุ่มมหพันธ์ ผู้ผลิตกระเบื้องหลังคา ตราห้าห่วง เปิดเผยว่า ตั้งแต่ปี 2554 ที่ผ่านมา กระเบื้องหลังคาห้าห่วงได้เริ่มนำกระเบื้องหลังคารุ่นใหม่ “ห้าห่วง ฉลากเขียว ปลอดภัยต่อชีวิต 100%” ทยอยวางตลาด และคาดว่าจะวางตลาดเต็มที่ภายในเดือนมีนาคมนี้
“เหตุที่ห้าห่วง ออกผลิตภัณฑ์ รุ่นฉลากเขียว เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ภายใต้ ตราห้าห่วง มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค ทั้งนี้เนื่องจากองค์การอนามัยโลก (World Health Organization) หรือ WHO มีข้อสรุปว่าแร่ใยหินทุกชนิด ซึ่งรวมถึงชนิด “ไครโซไทล์” มีอันตรายต่อสุขภาพหากมีการสูดหายใจเอาฝุ่นใยหินเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งในต่างประเทศกว่า 50 ประเทศทั่วโลกโดยเฉพาะประเทศที่พัฒนาแล้ว ได้ยกเลิกการใช้แร่ใยหินดังกล่าวเป็นวัตถุดิบมานานแล้ว
ส่วนประเทศไทยเอง แร่ใยหินไครโซไทล์ ถูกจัดเป็นวัตถุมีพิษประเภท 3 มานานกว่า 10 ปี ซึ่งกำหนดให้ผู้นำเข้า หรือครอบครองต้องแจ้งให้กรมโรงงานทราบ และมีการตรวจสอบควบคุม ดังนั้นบริษัทฯ จึงทำการปรับเปลี่ยนวัตถุดิบไปสู่ชนิดใหม่ ได้แก่ เซลลูโลสไฟเบอร์ ซึ่งเป็นเส้นใยจากพืชที่มาจากการเพาะปลูก และเส้นใยสังเคราะห์ที่มีความปลอดภัย เนื่องจากถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมอาหารและการแพทย์”
“ในส่วนของการปรับเปลี่ยนสายการผลิตกระเบื้องหลังคา ห้าห่วง รุ่นฉลากเขียว ในครั้งนี้ เราได้ทยอยปรับเปลี่ยนมาตั้งแต่ปีที่แล้วด้วยเทคโนโลยีการผลิตระดับสากล ซึ่งมีการปรับเปลี่ยนได้ครบทุกสายการผลิตตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีความมั่นใจอย่างยิ่งว่า กระเบื้องหลังคาแบบปราศจากแร่ใยหิน รุ่นฉลากเขียวนี้มีความแข็งแรงและปลอดภัย เพียงพอต่อการใช้งาน และได้รับมาตรฐาน มอก. 1407-2540 จากสำนักมาตรฐานอุตสาหกรรมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว”
ก่อนการวางตลาดกระเบื้องหลังคา ห้าห่วง รุ่นฉลากเขียวในครั้งนี้ ทางบริษัทฯ ได้มีการติดตั้งทดสอบในสภาพการใช้งานจริง ทั้งกับที่อยู่อาศัย โกดังสินค้า โรงงานรวมทั้งฟาร์มเลี้ยงสัตว์ เป็นเวลานานกว่า 2 ปี ซึ่งยืนยันได้ว่าคุณภาพของกระเบื้องห้าห่วง รุ่นฉลากเขียว สามารถใช้งานได้ไม่มีปัญหา และมีคุณสมบัติความเหนียวของเนื้อ
กระเบื้องสูงขึ้นกว่าเดิมถึง 3 เท่า ทำให้แตกยากกว่ารุ่นเดิม ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับผู้ใช้ในพื้นที่ที่ต้องเจอกับพายุลูกเห็บทุกปี ทั้งนี้ในช่วงที่ทยอยปรับสายการผลิต ตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นมา บริษัทฯ ก็ได้จัดจำหน่ายกระเบื้องห้าห่วง รุ่นฉลากเขียวออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง และพบว่าสินค้าไม่มีปัญหาในการใช้งาน พิสูจน์ได้ชัดแล้วว่าผลิตภัณฑ์รุ่นฉลากเขียวนี้ มีความพร้อมที่จะตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างเต็มที่
นอกจากนั้นนายองอาจ ยังกล่าวถึงเรื่องของต้นทุนการผลิตว่า“ราคาของเส้นใยชนิดใหม่ที่นำมาใช้ทดแทน แร่ใยหินมีราคาแพงกว่า แต่ปริมาณที่ใช้เป็นส่วนน้อยเมื่อเทียบกับวัตถุดิบทั้งหมด จึงไม่ส่งผลกระทบต่อต้นทุนมากนัก ที่ผ่านมาบริษัทฯ ก็ได้จำหน่ายกระเบื้องห้าห่วง รุ่นฉลากเขียว ในราคาที่ไม่ต่างจากรุ่นเดิม เพื่อสนับสนุนให้ผู้บริโภคได้ใช้ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพที่เป็นปลอดภัยต่อร่างกายและสิ่งแวดล้อม”
“การผลิตกระเบื้องห้าห่วง รุ่นฉลากเขียวปราศจากแร่ใยหิน ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีในการยกระดับของอุตสาหกรรม ทำให้ภาคอุตสาหกรรมของประเทศปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีไปสู่สิ่งที่ดี และเป็นมาตรฐานสากลมากขึ้น สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ แต่ที่สำคัญที่สุด คือ การนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัยต่อสุขภาพให้กับผู้บริโภค ซึ่งถือเป็นความรับผิดชอบที่บริษัทฯ มีต่อสังคม” นายองอาจกล่าวในตอนท้าย
ปัจจุบันประมาณการตลาดรวมไปถึงการส่งออก มีความต้องการกระเบื้องหลังคาไฟเบอร์ซีเมนต์ประมาณ 1,300,000 ตันต่อปี คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้นประมาณ 10,000 ล้านบาท และเกือบ 70% เป็นกระเบื้องหลังคาแบบปราศจากแร่ใยหิน ได้แก่ ตราห้าห่วง ของกลุ่มมหพันธ์ และตราช้าง ของบริษัท กระเบื้องกระดาษไทย จำกัด