โรงงานอุตสาหกรรมพ่นพิษนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ชาวบ้านเดือด โวยกระทบต่อสุขภาพอย่างรุนแรง จี้รัฐคุมเข้มสิ่งแวดล้อม พร้อมหาทางออก เอกชนเลื่อนผุดโรงงานไม่มีกำหนด ชี้บางรายเตรียมย้ายฐานไปแหล่งอื่นแทน พบผู้ป่วยมะเร็งพุ่ง ระยองติดอันดับระยะเวลาเพียง 8 ปี
นายศุภพงศ์ กฤษณกาญจน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ระยองเพียวริฟายเออร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากการที่ภาครัฐได้มาดูแล และเข้มงวดในการดูแลผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโรงงานอุตสาหกรรมในจังหวัดระยอง หรือนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ยอมรับว่าส่งผลกระทบต่อการขยายโรงกลั่นน้ำมัน ทำให้บริษัทต้องชะลอออกไป จนกว่าผลการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมจะสรุปได้ตามแผนเดิมเราจะลงทุนในช่วงต้นปี 2550 นี้แต่เนื่องจากปัญหามลพิษที่เกิดขึ้น ทำให้ต้องเลื่อนออกไปเป็นกลางปีนี้แทน หรือเลื่อนจากแผนออกไปอีก 6 เดือน ทั้งนี้ ตามแผนเดิมบริษัทจะขยายกำลังผลิตเพิ่มเป็น 34,000 บาร์เรล/วัน จากเดิม 17,000 บาร์เรล/วัน ใช้เงินลงทุน 2,000 – 3,000 ล้านบาท นายศุภพงศ์ กล่าว |
. |
นายศุภพงศ์ กล่าวอีกว่า หากผลการศึกษาแล้วว่า ไม่สามารถที่จะลงทุนที่มาบตาพุดได้ บริษัทคงต้องหาพื้นที่อื่นลงทุนแทน เช่น ชลบุรี แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผลการศึกษา ซึ่งเบื้องต้นแผนการขยายโรงกลั่นน้ำมันเพิ่มครั้งนี้ คงไม่ส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม แต่เนื่องจากรัฐเข้าเข้มงวด และให้เอกชนศึกษาและลงทุนหาทางป้องกันเอง บริษัทคงต้องปฏิบัติตาม นอกจากการลงทุนโรงกลั่นแล้ว บริษัทยังมีแผนจะขยายปั้มน้ำมันสาขาเพิ่มเป็น 100 แห่ง จากปัจจุบันมีประมาณ 64 แห่ง โดยใน 36 แห่งนั้น 10 แห่ง จะเป็นที่กรุงเทพฯ ส่วนที่เหลือจะเป็นที่ต่างจังหวัด ซึ่งจะเป็นการลงทุนในลักษณะเข้าไปร่วมมือกับปั้มเดิม หรือเข้าไปเทคโอเวอร์ปั้มน้ำมันที่มีปัญหาด้านการเงิน โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนทั้งสิ้น 200 ล้านบาท |
. |
อย่างไรก็ตาม แผนงานปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายเติบโต 10% จากปี 2549 ที่มียอดขาย 20,000 ล้านบาท โดยไม่รวมกับรายได้จากการลงทุนในธุรกิจค้าปลีก ที่บริษัทได้ร่วมทุนกับ สัมมากร จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งบริษัท เพียวสัมมากร ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท โดย ระยองเพียว เป็นผู้ถือหุ้น 51% และสัมมากร ถือหุ้น 49% จะทำการพัฒนาศูนย์การค้าประชาคมแห่งแรกภายใต้ชื่อ เพียว เพลส บริเวณหน้าหมู่บ้านสัมมากร รังสิตคลอง 2 ติดถนนรังสิต-องครักษ์ กม.4 และมีการกำหนดเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ในเดือนเมษายน 2550 ใช้เงินลงทุน 120 ล้านบาท |
. |
นายศุภพงศ์ กล่าวอีกว่า การร่วมทุนกับครั้งนี้เพื่อพัฒนาที่ดินในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลให้กลายเป็นศูนย์การค้าชุมชน (Community Mall) แบบครบวงจร ตามแผนภายใน 5 ปีนี้จะเปิดเพิ่มให้ได้ 5 แห่ง เบื้องต้นได้คัดเลือกแล้ว 2 แห่ง คือ บริเวณหมู่บ้านสัมมากร ถนนรามคำแหง และที่ ถนนราชพฤกษ์ ศูนย์การค้าชุมชนที่ลงทุนจะเป็นที่รวบรวมสินค้า และบริการที่หลากหลาย พร้อมสถานีบริการน้ำมัน เพียว รูปลักษณ์ทันสมัยเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อให้เป็นศูนย์การค้าที่ครบวงจรที่สุด โดยมีจุดเด่นที่สำคัญคือ นำศูนย์สรรพสินค้า ร้านค้า ร้านอาหาร สาขาธนาคาร ร้านบริการสะดวกใช้ที่มีชื่อเสียงไปรวมถึงสถานีบริการน้ำมันที่ทันสมัย สะอาด ปลอดภัย มาเปิดให้บริการแก่ลูกค้าผู้บริโภคทั่วไป |
. |
บริษัท ระยองเพียว ริฟายเออร์ ยังได้แจ้งผลการดำเนินงานงวดปี 2549 แต่ในไตรมาสที่ 3 ปีก่อน บริษัทขาดทุนสุทธิ 41 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 125 ล้านบาท หรือลดลง 125% เนื่องจากผู้ขายวัตถุดิบได้ส่งวัตถุดิบที่มีคุณภาพผิดไปจากที่กำหนดไว้ในสัญญาซื้อขายวัตถุดิบ และมีคุณสมบัติผิดไปจากที่เคยส่งมอบให้บริษัท ตลอดระยะเวลาของสัญญาที่ผ่านมาอย่างกะทันหัน มีผลทำให้บริษัท มีต้นทุนเพิ่มในการปรับคุณภาพสินค้า ตลอดจนค้าเสียหายอื่นๆ และความผันผวนของราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ลดลง ตลอดช่วงไตรมาสที่ 3 ปี 2549 ส่งผลให้ขาดทุนของสต็อกน้ำมัน เป็นมูลค่า 105 ล้านบาท |
. |
นางมณฑา ประณุทนราพาล รองผู้ว่าการฝ่ายทาเรือ การนิคมแห่งประเทศไทย (กนอ.) พร้อมด้วยนายพีระวัฒน์ รุ่งเรืองศรี ผู้อำนวยการสำนักงานการนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง และคณะ ได้เดินทางเข้าพบ นายพลวัต ชยานุวัชร ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ที่ศูนย์ราชการจังหวัดระยอง เพื่อหารือการตั้งกองทุนดูแลสุขภาพให้กับชาวบ้านที่อยู่ใกล้บริเวณนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดและชาวจังหวัดระยอง |
. |
นางมณฑา กล่าวว่า ขณะนี้คณะกรรมการของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้อนุมัติเงินจำนวน 10 ล้านบาท เพื่อจัดตั้งกองทุนดูแลสุขภาพประชาชนชาวมาบตาพุด โดยจะเน้น 25 ชุมชน ที่อาศัยอยู่บริเวณรอบนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดเป็นอันดับแรก โดยจะใช้ระบบไตรภาคีระหว่าง กนอ. จังหวัดระยอง และตัวแทนกลุ่มชาวบ้านใน 25 ชุมชน |
. |
จากการรายงานการวิเคราะห์สถานการณ์ปัญหามลพิเศษ และผลกระทบทางสุขภาพของประชาชนที่อาศัยในบริเวณใกล้เคียงกับนิคมอุตสาหกรรม พบว่าจากปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อมมีผลกระทบทางลบต่อสุขภาพของประชาชนอย่างรุนแรง ซึ่งจะเห็นว่าอัตราผู้ป่วยด้วยโรคภาวะแปรปวน ทางจิตในจังหวัดระยองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่วนการศึกษาระบาดวิทยาโรคมะเร็งของประเทศไทย โดยสถาบันมะเร็งแห่งชาติ พบว่า อัตราผู้ป่วยนอกโรคเนื้องอกและมะเร็ง ของจังหวัดระยองในช่วง ปี 2540 -2548 มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจาก 444.3 คนต่อประชากรแสนคนในปี 2540 เป็น 1,263.5 คนต่อประชากรแส นในปี 2548 หรือเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าตัว ภายในระยะเวลาเพียง 8 ปี |