คนทำงานจำนวนไม่น้อยที่ปัจจุบันนอกจากจะเป็นมนุษย์เงินเดือนแล้วยังเป็นประชาชนเงินดาวน์อีกด้วย ทำให้รายรับ และรายจ่ายในแต่ละเดือนไม่ค่อยสมดุล วันนี้เรามีเคล็ดลับในการบริหารการเงินดี ๆ มาฝาก
พระมหาประสิทธิ์
เมื่อเดือนที่แล้วได้มีโอกาสติดตามท่านพระครูสิริวิหารการผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ ไปเยี่ยมและฟังบรรยายสรุปของกลุ่มเด็กนักเรียนโรงเรียนมัธยมวัดบึงทองหลาง ที่เคยเข้าค่ายธรรมะกับกลุ่มพัฒนาจิต “เพื่อชีวิตดีงาม” โดยการสนับสนุนของสำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อันเกิดจากดำริของท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดสระเกศ
กิจกรรมนี้มีชื่อว่า D500 เป็นกิจกรรมการทำความดีที่ใกล้ตัว ซึ่งทำได้ง่าย ทำได้จริง โดยให้งบประมาณนักเรียนคนละ 500 บาท เพื่อไปคิดไปทำและก็กลับมานำเสนอด้วยตนเอง งานทุกชิ้นมีความน่าสนใจและน่าทึ่ง เนื่องจากเด็กในวัยขนาดนี้มีศักยภาพในการสร้างสรรค์สูงมาก
แม้แต่เรื่องเล็กๆ เช่น การรณรงค์ดื่มน้ำให้หมดขวด เด็กๆ บอกว่า โดยเฉลี่ยในโรงเรียนจะซื้อน้ำขวดดื่มกันคนละ 2 ขวด แต่ดื่มไม่หมดขวด ทำให้เสียทรัพยากรน้ำ เพิ่มปริมาณขวดพลาสติกและเสียเงินเปล่า ลองคิดดูว่าแค่ดื่มน้ำให้หมดขวดจะประหยัดเงินได้ 5 บาทต่อวัน คิดไปให้ไกลกว่านี้อีกสักนิดว่า 1 อาทิตย์ มาเรียน 5 วัน 1 เดือนมาเรียน 4 อาทิตย์
สรุปเป็นรายได้จากการดื่มน้ำหมดขวดเป็นเงิน เดือนละ 100 บาท ในห้องเรียน 1 ห้องมีนักเรียนประมาณ 50 คน ถ้าทุกคนดื่มน้ำหมดขวด รายได้ของทั้งห้องจะเป็นเงิน 5,000 บาทต่อเดือน ระดับชั้น ม.4 มี 6 ห้อง จะเป็นเงิน 30,000 บาท
ถ้าสมมติว่า แต่ละชั้นเรียนมี 6 ห้อง หนึ่งเดือนทั้งโรงเรียนจะมีรายได้ประมาณ 180,000 บาท แต่ละเทอมเรียนประมาณ 4 เดือน จะเป็นเงิน 720,000 บาท และหนึ่งปีการศึกษาเรียน 2 เทอม สรุปในหนึ่งปีโรงเรียนเกิดรายได้จากการดื่มน้ำหมดขวดเป็นเงิน 1,440,000 บาท ซึ่งแน่นอนนี่คือตัวเลขที่เราเสียไป หากว่าทุกคนดื่มน้ำไม่หมดขวด รวมทั้งปริมาณขวดน้ำพลาสติกที่เพิ่มขึ้นส่งผลต่อปริมาณขยะและภาวะโลกร้อนตามมา
ทำให้ได้แง่คิดว่าบางทีการประหยัดก็ง่ายนิดเดียว แค่ดื่มน้ำให้หมดขวดทานข้าวให้หมดจาน ก็เป็นการลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ในกระเป๋าตังค์เราได้แล้ว
กระบวนการเรียนรู้แบบไหนถึงทำให้เด็กสามารถคิดและทำได้ขนาดนี้? การที่เด็กคิดได้คิดเป็น ผู้เขียนถือว่าเป็นความสำเร็จทางการศึกษาแล้ว เพราะถึงพวกเขาเรียนจบมหาวิทยาลัยได้ใบปริญญาแล้วเอาไปหางานทำจนได้เงินเดือนมีตำแหน่ง สุดท้ายแล้วจะประสบความสำเร็จในชีวิตหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับวิธีการคิดและวิถีชีวิตของเขาเองทั้งนั้น เพราะปัจจุบันเรามีบัณฑิตมากมายเหลือเกินที่ล้มเหลวเพราะบริหารจัดการชีวิตด้วยวิธีคิดที่ไม่ถูกต้อง ทั้งยังถูกกระแสสังคมพัดพาไป
ยกตัวอย่าง บัณฑิตจบใหม่บางคนทำงาน ได้เงินเดือนละหมื่นกว่าบาท แต่ปรากฏว่านอกจากจะเป็นมนุษย์เงินเดือนแล้ว ยังเป็นประชาชนเงินดาวน์อีกต่างหาก แต่ละเดือนแค่จ่ายเงินผ่อนสารพัดสิ่งของที่ดาวน์มานั้นก็แทบจะไม่เหลืออะไรเลย ทำให้เงินดาวน์ชนเงินเดือนจนสะเทือนไปถึงเดือนต่อไป และมีแนวโน้มว่าจะมีหนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่เงินเดือนยังเท่าเดิมอยู่ ถ้าจะไปหารายได้อื่นมาเสริมแล้วจะมีสักกี่งานที่ได้เงินเยอะและเร็วให้ทันใช้หนี้ วันข้างหน้าอนาคตจะเป็นอย่างไรจึงไม่อาจคาดเดา?
ทักษะการบริหารจัดการชีวิต เป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องเรียนรู้และฝึกฝน บัณฑิตหรือนักศึกษาที่เรียนในมหาวิทยาลัยมีความรู้ความสามารถประดุจดั่งนักรบที่มีหอกและดาบอันแหลมคม พร้อมที่จะฟาดฟันทุกสิ่งที่ขวางหน้า แต่ในสนามรบจริง อาวุธแค่นั้นยังไม่พอ ต้องประกอบไปด้วยยุทธศาสตร์การวางแผน สติปัญญาไหวพริบในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่รวดเร็ว และความสมานสามัคคีที่ทรงพลังของกองทัพ
แสนยานุภาพทางการทหารก็มิอาจต้านทานแสนยานุภาพทางสติปัญญาได้ ชีวิตของบัณฑิตจบใหม่ก็ไม่ต่างอะไรกัน เพราะต้องเผชิญกับอีกโลกหนึ่งซึ่งหลายคนต้องปรับตัวอย่างหนัก ชีวิตมีภาระมากขึ้นด้วยความรับผิดชอบที่ต้องแบกรับและความคิดความฝันที่ต้องการใช้ชีวิตให้ได้อย่างที่ตนเคยวาดหวังไว้ในสมัยที่ยังเป็นนักศึกษา ภาพความสวยงามเริ่มจางลงเรื่อยๆ จนจืด เหลือไว้แต่ความรู้สึกเฉื่อยชาให้เวลาผ่านไปวันๆ เท่านั้น
จงอย่าปล่อยให้ชีวิตตกหลุมดำแห่งความทะยานอยาก จงยืนอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง ยับยั้งจิตใจไม่ให้หลงไปในกระแสมายาของการตลาด และคำอ้างถึงความสบายแต่ต้องแลกด้วยพันธนาการแห่งหนี้สินที่ไม่จบสิ้น จนต้องขายอิสรภาพของชีวิตให้กับการแสวงหาเงินตรา จนไม่มีเวลาให้กับความสุขที่แท้จริงของชีวิตและความอบอุ่นในครอบครัว
พระพุทธศาสนามีแนวทางของการใช้เงินง่ายๆ ดังต่อไปนี้ บางทีอาจเป็นแนวให้กับบางคนที่กำลังค้นหาวิธีบริหารจัดการกับเงินเดือนอันน้อยนิดนี้ว่าจะอยู่อย่างไรให้มีความสุขบนความพอเพียง คือแบ่งเงินเดือนออกเป็น 5 กอง
1.ฝากออมสิน ไม่ได้หมายถึงธนาคารออมสิน เพียงแต่เราต้องมีเงินออมไว้บ้าง เพราะเงินออมเท่านั้นจึงจะเป็นเงินของเราอย่างแท้จริง เงินสะสมนี้เป็นเงินที่จะช่วยในการวางแผนที่ชัดเจนถึงสิ่งที่กำลังจะทำในอนาคต และการออมบางชนิดก็เป็นการลงทุนที่ดีมีความเสี่ยงน้อย ดังนั้นเราควรมีเงินออมทุกเดือน จะมากจะน้อยอยู่ที่การจัดสรรปันส่วนให้เหมาะสมสำหรับแต่ละคน
2.ฝังดินไว้ คือเสียภาษีหรือเอาไว้ทำกิจกรรมเพื่อสังคม ซึ่งไม่ใช่การเอาเงินไปฝังดินจริงๆ แต่เป็นการเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งความดีงาม ลงไว้ในสังคมและช่วยกันรดน้ำใจ พรวนดินเอาสิ่งไม่ดี คืออบายมุขอันเป็นวัชพืชชีวิตออก ใส่ปุ๋ยคือบุญกุศลและความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ความเข้าอกเข้าใจกัน รวมถึงการศึกษาพัฒนาอาชีพและความสามารถอื่นๆ ซึ่งจะทำให้เมล็ดพันธุ์นี้เติบโตเป็นไม้ใหญ่ให้เราได้พึ่งพิงในวันข้างหน้าอย่างแน่นอน
3.ใช้หนี้เก่า คือเอาไว้บำรุงดูแลพ่อแม่และผู้มีพระคุณ ซึ่งท่านได้ให้เรามาเยอะแยะมากมายจนเราสามารถที่จะหาเลี้ยงดูตนเองแล้ว ก็ต้องหาโอกาสปฏิบัติหน้าที่บุตรที่ดี ซึ่งการดูแลเลี้ยงดูพ่อแม่และผู้มีพระคุณนั้นถือว่าเป็นมงคลอันสูงสุดในชีวิตประการหนึ่งดังปรากฏในมงคลสูตรว่า มาตาปิตุอุปฏฐานัง เอตัมมังคลมุตตะมัง แปลว่า การดูแลอุปัฏฐานพ่อแม่นั้นเป็นมงคลอันสูงสุด แต่ไม่ใช่ว่า ส่งตังค์อย่างเดียวต้องคอยเหลียวแลเอาใจใส่ด้วย
4.ให้เขากู้ คือการดูแลบุตรหลาน ทั้งทางด้านการเป็นอยู่และการศึกษา เพื่อให้เขาสามารถช่วยเหลือตนเองได้ มีความรู้ ได้รับโอกาส เป็นเสมือนการให้เขากู้เพื่อที่จะลงทุน เมื่อเขาได้กำไรหรือสำเร็จการศึกษาแล้ว ก็จะเป็นไม้ใหญ่ให้ได้พักพิงอยู่บ้าง อย่างน้อยๆ พวกเขาก็สามารถดูแลตนเองได้ไม่ลำบากเราตลอดเวลา และเขาก็อาจจะใช้คืนให้ โดยการดูแลเราในยามเจ็บป่วยหรือแก่เฒ่านั่นเอง
5.ทิ้งสู่เหว ในที่นี้หมายถึงการบริโภคและการสนองต่อความต้องการในสิ่งอำนวยความสะดวกของชีวิต การท่องเที่ยวหรือการทำอะไรให้เป็นความสุขเล็กๆ ของชีวิต การใช้เพื่อต้อนรับเลี้ยงดูแขก แต่ต้องไม่ฟุ่มเฟือย ให้เน้นที่คุณค่าที่แท้จริง ไม่ยึดในคุณค่าเทียม ไม่สุรุ่ยสุร่าย แต่ก็ไม่ขี้เหนียวจนผิวหนังออกเกล็ดเกลือ
ทั้งหมดนี้เป็นแนวทางซึ่งจะต้องนำมาปรับใช้กับวิถีชีวิตของเราว่าจะมีส่วนใดเพื่ออะไรบ้าง ซึ่งบางคนอาจจะมีมากหรือน้อยส่วนกว่านี้ก็ได้ตามแต่ลักษณะเงินเดือนหรือเป้าหมายชีวิตของตนเอง เพราะบางคนอาจจำเป็นต้องมีเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ทีวี ตู้เย็น หรือคอมพิวเตอร์ แต่เงินไม่พอจริงๆ ก็ต้องดาวน์เพื่อผ่อนจ่ายไปก่อน ในกรณีเช่นนี้เราก็ต้องเพิ่มการบริหารจัดการหนี้ขึ้นมาอีกกอง เพื่อไม่ให้หนี้มันพองหรือจ่ายพร่องขาดเดือน เดี๋ยวจะกลายเป็นเงินดาวน์ชนเงินเดือนกระจุย
แต่อันที่จริงคนมีเงินเดือนแล้วคิดจะดาวน์ ก็ยังดีกว่าคนไม่มีงานแต่ยังผลาญเงินครอบครัวนะ...อาตมาว่า
ขอบคุณบทความดี ๆ จาก Add FreeMagazine