โจนส์ แลง ลาซาลล์ เผยมูลค่าที่อยู่อาศัยระดับหรูทั่วเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.8% แม้รัฐบาลหลายประเทศจะออกมาตรการคุมเข้มเพื่อลดการเก็งกำไร
โจนส์ แลง ลาซาลล์ เผยมูลค่าที่อยู่อาศัยระดับหรูทั่วเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.8% แม้รัฐบาลหลายประเทศจะออกมาตรการคุมเข้มเพื่อลดการเก็งกำไร
มูลค่าที่อยู่อาศัยระดับหรูทั่วเอเชียปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ยโดยรวม 1.8% ในไตรมาสที่สี่ของปี 2553 ที่ผ่านมา แต่ยังนับว่าปรับขึ้นน้อยกว่าไตรมาสสาม ซึ่งมีมูลค่าปรับเพิ่มขึ้นเฉลี่ยรวม 7.4% เนื่องจากการขายในไตรมาสสุดท้ายของปีเริ่มชะลอตัวหลังจากรัฐบาลของหลายๆ ประเทศเริ่มออกมาตรการควบคุมการเก็งกำไรในตลาดที่อยู่อาศัย
ตามการรายงานจากบริษัทผู้ให้บริการด้านอสังหาริมทรัพย์ โจนส์ แลง ลาซาลล์ รายงานการศึกษาฉบับดังกล่าวจากโจนส์ แลง ลาซาลล์ ซึ่งครอบคลุมตลาดที่อยู่อาศัยระดับหรูใน 8 เมืองหลักของเอเชีย พบว่า มี 5 เมืองที่มูลค่าราคาปรับเพิ่มสูงขึ้นในไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา
ที่ฮ่องกง แม้รัฐบาลจะออกมาตรการเพิ่มเติมในการลดการเก็งกำไร แต่พบว่ามูลค่าราคายังปรับเพิ่มขึ้นอีก 6.4% เนื่องจากการซื้อเพื่อปล่อยเช่าให้ผลตอบแทนดีจากค่าเช่าที่ปรับตัวสูงขึ้นในขณะที่อุปทานหรือซัพพลายมีไม่มาก
แต่ในขณะเดียวกัน ที่สิงคโปร์ จากการที่รัฐบาลออกมาตรการสกัดกั้นการซื้อขายเพื่อเก็งกำไร ส่งผลให้มูลค่าราคาค่อนข้างนิ่ง เนื่องจากผู้ซื้อตัดสินใจซื้อด้วยความระมัดระวังมากขึ้น เช่นเดียวกับเมืองหลักๆ ของจีน ซึ่งพบว่าในไตรมาสที่ผ่านมา การซื้อขายค่อนข้างซบเซาจากนโยบายการควบคุมสินเชื่อและนโยบายอื่นๆ ที่เข้มงวดมากขึ้น ทั้งนี้ มูลค่าราคาที่อยู่อาศัยระดับหรูในเซี่ยงไฮ้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง 0.3% ส่วนในปักกิ่ง มูลค่าปรับลดลง 5.4%
เมือง |
การเปลี่ยนแปลงของมูลค่าราคา |
|
ไตรมาสสี่ 2553 |
ไตรมาสสี่ 2553 |
|
ฮ่องกง |
6.4% |
19.8% |
เซี่ยงไฮ้ |
0.3% |
0.6% |
ปักกิ่ง |
-5.4% |
18.6% |
สิงคโปร์ |
0.0% |
13.6% |
กัวลาลัมเปอร์ |
10.2% |
13.4% |
กรุงเทพฯ |
0.1% |
1.0% |
จาการ์ตา |
0.0% |
2.3% |
มุมไบ |
2.8% |
14.9% |
ที่มา : โจนส์ แลง ลาซาลล์
หมายเหตุ
การเปลี่ยนแปลงคิดในสกุลเงินท้องถิ่น ที่อยู่อาศัยระดับหรูในที่นี้ ได้แก่ คอนโดมิเนียมและ/หรือบ้านในย่านที่อยู่อาศัยชั้นดี
สำหรับในปี 2554 นี้ คาดว่า มาตรการสกัดกั้นการเก็งกำไรที่ออกโดยรัฐบาลของประเทศต่างๆ จะส่งผลให้ราคาคที่อยู่อาศัยระดับหรูในเอเชียมีแนวโน้มทรงตัว หรือปรับขึ้นเพียงเล็กน้อย แต่เชื่อว่าจะไม่ส่งผลให้ราคาปรับตัวลดลง เนื่องจากการซื้อเพื่อปล่อยเช่ายังเป็นที่น่าสนใจสำหรับผู้ซื้อในหลายๆ เมือง โดยเฉพาะที่ฮ่องกงและสิงคโปร์ คาดว่าจะยังคงรักษาการขยายตัวของราคาต่อไปได้ เพราะความต้องการซื้อเพื่ออยู่เองมีอยู่ในระดับสูง ในขณะที่จำนวนผู้สนใจซื้อเพื่อการลงทุนระยะยาวยังคงมีอยู่มาก
เคเค ฟุง กรรมการผู้จัดการโจนส์ แลง ลาซาลล์ประจำประเทศจีนกล่าวว่า “รัฐบาลจีนดำเนินนโยบายที่เข้มงวดมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อลดการเก็งกำไรในตลาดที่อยู่อาศัยในเมืองหลักๆ ของจีน ซึ่งเป็นไปในลักษณะเดียวกันกับที่เกิดขึ้นในหลายๆ ประเทศของเอเชีย
อย่างไรก็ดี ความต้องการลงทุนในที่อยู่อาศัยของภูมิภาคนี้ ยังคงมีอยู่สูงและผู้ซื้อเพื่อลงทุนยังคงมีทัศนคติเชิงบวก ดังจะเห็นตัวอย่างได้จากตลาดที่อยู่อาศัยระดับหรูของฮ่องกง ซึ่งยังคงมีมูลค่าราคาปรับสูงขึ้นมากที่สุดในภูมิภาคนี้ในไตรมาสที่ผ่านมา แม้รัฐบาลฮ่องกงจะมีความแข็งขันในการป้องกันการเกิดภาวะฟองสบู่ด้วยการคุมเข้มตลาดการซื้อขายที่อยู่อาศัยในช่วง 2-3 ไตรมาสที่ผ่าน”
คริส ฟอสสิค กรรมการผู้จัดการโจนส์ แลง ลาซาลล์ ภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กล่าวว่า “ในปีที่ผ่านมา ตลาดที่อยู่อาศัยในสิงคโปร์โดยรวมขยายตัว 12% จากภาวะเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง การเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากร และกำลังการซื้อที่สูงขึ้น อันเป็นผลมาจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยังคงไม่สูง
การที่รัฐบาลมีความกังวลหลังเห็นว่าราคาซื้อขายที่อยู่อาศัยปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น จึงออกมาตรการต่างๆ ออกมาเพื่อให้มั่นใจว่าภาคอสังหาริมทรัพย์ริมทรัพย์จะขยายตัวอย่างยั่งยืนเช่นเดียวกับเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ซึ่งส่งผลให้การซื้อขายที่อยู่อาศัยระดับหรูในสิงคโปร์ชะลอตัวลง
ส่วนเมืองหลักอื่นๆ ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บรรยากาศในตลาดที่อยู่อาศัยระดับหรูปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะเศรษฐกิจที่ขยายตัวของอินโดนีเซีย ได้ส่งผลดีต่อตลาดที่อยู่อาศัยในกรุงจาการ์ตา ทั้งนี้ พบว่า ผู้มีฐานะร่ำรวยชาวอินโดนีเซีย ซึ่งเดิมนิยมการลงทุนซื้อที่อยู่อาศัยในสิงคโปร์ ได้หันมาซื้อที่อยู่อาศัยระดับหรูย่านใจกลางกรุงจาการ์ตาเพิ่มมากขึ้น”