เนื้อหาวันที่ : 2011-03-01 13:33:20 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 2600 views

ไทรทัน ดับเบิ้ลแค็บ พลัส ซีเอ็นจี

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย รุกตลาดกระบะช่วงน้ำมันแพง ส่ง “ไทรทัน ดับเบิ้ลแค็บ พลัส ซีเอ็นจี” เป็นทางเลือกให้ลูกค้าอีกรุ่น ชูจุดขายการันตีคุณภาพจากโรงงาน

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย รุกตลาดกระบะช่วงน้ำมันแพง ส่ง “ไทรทัน ดับเบิ้ลแค็บ พลัส ซีเอ็นจี” เป็นทางเลือกให้ลูกค้าอีกรุ่น ชูจุดขายการันตีคุณภาพจากโรงงาน

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย รุกตลาดกระบะช่วงน้ำมันแพง ส่ง “ไทรทัน ดับเบิ้ลแค็บ พลัส ซีเอ็นจี” เป็นทางเลือกให้ลูกค้าอีกรุ่น หลังยอดขายรุ่นเมกะแค็บและซิงเกิ้ลแค็บทะลุเป้า ยังเน้นชูจุดเด่นการรับประกันคุณภาพจากโรงงานนาน 3 ปี และความประหยัดและคุ้มค่าจากการเลือกใช้งานได้ 2 ระบบ ทั้ง ซีเอ็นจี (CNG) และน้ำมันเบนซินแก๊สโซฮอล์อี 20 รองรับงานบรรทุกและใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว พร้อมขายที่โชว์รูมรถยนต์มิตซูบิชิทั่วประเทศ ตั้งแต่ 1 มีนาคมนี้ เป็นต้นไป

มร.โคจิ นากาฮาร่า กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เตรียมแนะนำรถกระบะมิตซูบิชิ ไทรทัน ดับเบิ้ลแค็บ พลัส ซีเอ็นจี เพิ่มเติมอีกรุ่น เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับลูกค้า ภายหลังจาก รุ่นซิงเกิ้ลแค็บ และ เมกะแค็บ ซีเอ็นจี ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อกลางปีที่ผ่านมาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าในเมืองไทย โดยในปี 2553 ที่ผ่านมา มียอดขายไทรทัน ซีเอ็นจี รวมอยู่ที่กว่า 3,600 คัน และเชื่อว่าในปีนี้ตลาดรถกระบะซีเอ็นจีจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องต่อไป

“จากผลการสำรวจ เราพบว่าลูกค้าส่วนใหญ่ที่ตัดสินใจเลือกซื้อรถกระบะไทรทัน ซีเอ็นจี ของมิตซูบิชิ เพราะมองว่าเป็นรถที่มีความประหยัดน้ำมัน จากการที่สามารถขับขี่ได้ระยะทางโดยรวมได้มากกว่า ซึ่งตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในเรื่องประหยัดโดยเฉพาะในยุคน้ำมันแพงได้เป็นอย่างดี โดยมีอัตราการบริโภคน้ำมันอยู่ที่กิโลเมตรละไม่ถึง 1 บาท

เหตุผลที่สองที่ทำให้ลูกค้าเลือกมิตซูบิชิ ซีเอ็นจี ก็คือรู้สึกมั่นใจในผลิตภัณฑ์จากการรับประกันคุณภาพนาน 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร ในขณะที่เหตุผลด้าน ความคุ้มค่าคุ้มราคา จากเครื่องยนต์สองระบบที่สามารถเลือกใช้งานได้ทั้งน้ำมันเบนซินได้ถึงแก๊สโซฮอล์อี 20 และก๊าซธรรมชาติ ซีเอ็นจี ก็ถือเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้รถมิตซูบิชิ ไทรทัน ซีเอ็นจี ได้รับความนิยมดังกล่าว

ทั้งนี้หากพิจารณาตัวเลขยอดขายและอัตราการเติบโตของตลาดรถกระบะซีเอ็นจีแล้วผมเชื่อว่าไทรทัน ซีเอ็นจี จะยังคงได้รับความสนใจจากลูกค้าและมีอัตราการเติบโตต่อไปอีก เนื่องจากปัจจัยสนับสนุนหลายประการไม่ว่าจะเป็นราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนสถานีบริการ NGV ที่มีมากขึ้นกว่า 400 แห่งทั่วประเทศ ” มร. นากาฮาร่า กล่าว

สำหรับรถกระบะมิตซูบิชิ ไทรทัน ดับเบิ้ลแค็บ พลัส ซีเอ็นจี ใช้พื้นฐานมาจากรถกระบะไทรทัน ดับเบิ้ลแค็บ พลัส เครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 2.4 ลิตร นำมาติดตั้งระบบซีเอ็นจี ภายใต้มาตรฐานและการรับประกันคุณภาพของบริษัทฯ สามารถเลือกใช้เชื้อเพลิงได้ 2 ระบบ ทั้งก๊าซธรรมชาติซีเอ็นจีและน้ำมันเบนซินรองรับแก๊สโซฮอล์ อี 20

โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ภายนอกแข็งแกร่งและบึกบึนจากกระบะท้ายดีไซน์แบบตัดตรง พร้อมการติดตั้งถังก๊าซแบบ Type II ขนาด 100 ลิตรน้ำ บนกระบะท้ายที่เสริมความลงตัวด้วยพื้นปูกระบะดีไซน์พิเศษแบบชิ้นเดียวซึ่งนอกจากจะเพิ่มความปลอดภัยแล้วยังสะดวกในการใช้งานและบำรุงรักษาอีกด้วย

มิตซูบิชิ ไทรทัน ดับเบิ้ลแค็บ พลัส ซีเอ็นจี มาพร้อมห้องโดยสารที่ให้ความรู้สึกกว้างสะดวกสบาย พร้อมเบาะนั่งทรงสปอร์ตโอบกระชับให้ความสบายในขับขี่เหมือนรถยนต์นั่งทั่วไป นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ ระบบเครื่องเสียงวิทยุ DVD พร้อมจอภาพระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว กระจกมองข้างปรับและพับด้วยไฟฟ้า พร้อมกุญแจรีโมท (Keyless) และระบบอิมโมบิไลเซอร์ (Immobilizer) ช่วยเพิ่มความสะดวกยิ่งขึ้นในการล็อกและปลดล็อกรถจากได้จากระยะไกล อีกทั้งยังปลอดภัยจากการโจรกรรม

ในด้านความปลอดภัย มิตซูบิชิ ไทรทัน ดับเบิ้ลแค็บ พลัส ซีเอ็นจี ปลอดภัยด้วยถังซีเอ็นจี แบบ Type II ซึ่งมีน้ำหนักเบาพร้อมการติดตั้ง ลิ้นเปิด-ปิดอัตโนมัติ 2 ตัว โดยตัวแรกติดตั้งบริเวณอุปกรณ์ลดความดัน และตัวที่สองติดตั้งตรงวาล์วหัวถังก๊าซ โดยจะตัดการทำงานของก๊าซอัตโนมัติเมื่อมีก๊าซรั่วไหล

ในขณะที่ตัวรถปลอดภัยด้วยตัวถังแบบ RISE BODY พร้อมติดตั้งคานกันกระแทกที่ประตูทุกบาน ระบบพวงมาลัยแบบแร็คแอนด์พีเนี่ยนพร้อมพาวเวอร์ผ่อนแรงให้การควบคุมบังคับทิศทางขณะเลี้ยวหรือเข้าโค้งมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น ให้ความคล่องตัวในการขับขี่ด้วยรัศมีวงเลี้ยวที่แคบเพียง 5.9 เมตร