สตาร์สไมโครอิเล็กทรอนิกส์ เผยผลสำเร็จของ 3 กลยุทธ์เห็นผลชัดปี 53 กำไรโตเกือบ 100% ชี้เพราะมองเห็นเทคโนโลยีที่เป็นความต้องการของตลาดในอนาคต
คุณพลศักดิ์ เลิศพุฒิภิญโญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง SMT
สตาร์สไมโครอิเล็กทรอนิกส์ เผยผลสำเร็จของ 3 กลยุทธ์เห็นผลชัดปี 53 กำไรโตเกือบ 100% ชี้เพราะมองเห็นเทคโนโลยีที่เป็นความต้องการของตลาดในอนาคต
เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2554 ที่ผ่านมา บริษัท สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด มหาชน (หรือเรียกย่อๆ ว่า SMT) ได้ประกาศผลประกอบการณ์ประจำปี 2553 ซึ่งทำกำไรสุทธิได้มากถึง 530 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโต 99% จากปี 2552 โดยมีปัจจัยสำคัญจากกลยุทธ์ Blue-Ocean, First-Mover และ Joint-development
คุณพลศักดิ์ เลิศพุฒิภิญโญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง SMT ได้กล่าวถึงรายละเอียดของกลยุทธ์ที่ทำให้บริษัทประสบความสำเร็จมาอย่างต่อเนื่อง โดยกลยุทธ์ Blue-Ocean นั้น เป็นการมองกลุ่มสินค้าที่มีโอกาสในการทำการตลาดอีกมาก และนอกจากนั้นยังผลักดันบริษัทให้เป็น First-Mover ของเทคโนโลยีต่างๆ อีกด้วย เพราะการได้เป็นบริษัทแห่งแรกๆ ที่สามารถผลิตเทคโนโลยีตามที่ตลาดต้องการในเวลานั้นๆ ได้ ย่อมหมายถึงความได้เปรียบทางธุรกิจที่ครอบครองส่วนแบ่งในตลาดได้ก่อนใคร
สิ่งที่ตอกย้ำถึงความสำเร็จของบริษัท ก็คือผลิตภัณฑ์ที่ SMT ได้มองเห็นช่องทางและมุ่งพัฒนามาเมื่อหลายปีก่อน ไม่ว่าจะเป็น ทัชสกรีน (Touch Screen) สำหรับสมาร์ตโฟน (Smart Phone) หลากหลายแบรนด์ และเซ็นเซอร์ TPMS (Tire Pressure Monitoring System) สำหรับวัดลมยาง ซึ่งปัจจุบันนี้ได้ถูกกำหนดให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานตามกฎหมาย สำหรับรถยนต์ใหม่ที่ออกจำหน่ายในประเทศสหรัฐอเมริกา
ด้วยวิสัยทัศน์ที่มองเห็นถึงเทคโนโลยีที่จะกลายเป็นเทคโนโลยีที่สำคัญในอนาคต และการจัดสรรเครื่องจักรที่มีอยู่ ทำให้ SMT สามารถเพิ่มผลกำไรของบริษัทได้ เนื่องจากเทคโนโลยี HDD (Hard Disk Drive) กำลังจะถูกเทคโนโลยี SSD (Solid State Drive) แทนที่ แต่เครื่องจักรที่เคยใช้ในการผลิตอุปกรณ์สำหรับ HDD ก็สามารถดัดแปลงมาใช้ผลิตทัชสกรีนสำหรับสมาร์ตโฟน ที่สามารถทำกำไรให้บริษัทได้มากกว่า
อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์นั้นพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว หากมัวแต่หยุดนิ่งกับความสำเร็จวันนี้ ก็จะตามเทคโนโลยีใหม่ไม่ทัน แม้ทางคุณพลศักดิ์ จะกล่าวอย่างถ่อมตัวว่าโชคช่วย แต่เนื้อแท้แล้วเป็นเพราะการมองเห็นถึงเทคโนโลยีที่จะเป็นความต้องการของตลาดในอนาคต จึงทำให้บริษัทประสบความสำเร็จได้ในวันนี้