เนื้อหาวันที่ : 2011-02-28 09:58:38 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 738 views

ภาวะเศรษฐกิจประจำวันที่ 25 ก.พ. 2554

1. ทูตพาณิชย์แนะนำให้ผู้ส่งออกไปยังตะวันออกกลางปรับแผนการส่งออก
-  ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ กรุงไคโร ประเทศอียิปต์  กล่าวว่า   ผู้ส่งออกไทยที่จะเข้าไปทำตลาดในแถบตะวันออกกลาง อาจจะต้องปรับแผนการตลาดสินค้าไทยไปตะวันออกกลาง ให้สอดรับกับสถานการณ์ โดยในส่วนของกรมส่งเสริมการส่งออกอยู่ระหว่างการประเมินสถานการณ์จากเหตุการณ์ทางการเมืองของประเทศอียิปต์และประเทศใกล้เคียง เช่น ลิเบีย ซึ่งมีความร้อนแรงทางการเมืองเกิดขึ้นขณะนี้

-  สศค. วิเคราะห์ว่า สถานการณ์ความวุ่นวายในตะวันออกกลางอาจส่งผลกระทบต่อ ภาคการส่งออกของประเทศไทย อย่างไรก็ตาม จากการที่ภาคการส่งออกของไทยมีการกระจายตลาดส่งออก ผนวกกับการส่งออกของไทยไปยังภูมิภาคดังกล่าวมีสัดส่วนไม่สูงนัก โดยในปี 2553 ส่วนแบ่งการส่งออกไปยังตลาดดังกล่าวคิดเป็นร้อยละ 5 ของมูลค่าการส่งออกรวม ดังนั้น สศค. วิเคราะห์ว่าเหตุการณ์ความวุ่นวายดังกล่าวไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมมากนัก 

2. ตลาดหุ้นไทย ปิดร่วง 1.38 % นักลงทุนกังวลภาวะน้ำมันตลาดโลกพุ่ง
-  ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 24 ก.พ. 2554 ปิดที่ 977.22 จุด ลดลง 13.69 จุดหรือลดลง1.38% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 32,803.17 ล้านบาท ดัชนีเคลื่อนไหวระหว่าง 977.08 จุด-997.28 จุด การลดลงของตลาดวันนี้เกิดจากความกังวลเรื่องภาวะเงินเฟ้อเมื่อ ราคาน้ำมันดิบ ไนเม็กซ์พุ่งกระฉูดจนมาแตะ 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล แม้ว่าหุ้นพลังงานจะเป็นสัดส่วนสูงในตลาดและรับผลดีจากราคาน้ำมันขึ้นแต่ไม่สามารถดึงตลาดให้ขึ้นตามได้เพราะความกังวลว่าเงินเฟ้อจะทำให้ต้นทุนการดำเนินธุรกิจของบริษัทจดทะเบียนเพิ่มขึ้นและส่งผลลบต่อประมาณการกำไร

-  สศค.วิเคราะห์ว่าสถานะการณ์ความไม่แน่นอนในกลุ่มประเทศตะวันออกกลางโดยเฉพาะสถานะการณ์ความไม่สงบอาจส่งผลให้เกิดความตรึงเครียดขึ้นในตลาดโดยเฉพาะในด้านของราคาน้ำมันดิบ โดยความกังวลดังกล่าวได้ส่งผลให้ตลาดเริ่มลดการถือหลักทรัพย์โดยเฉพาะหลักทรัพย์ของภูมิภาค

ในขณะเดียวกัน ในช่วงที่สัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ของไทยได้ปรับขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง นักลงทุนจึงได้ขายทำกำไรหลักทรัพย์ของไทยด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ ภาวะความไม่สงบดังกล่าวไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจที่แท้จริงโดยตรงของไทยมากนัก 

3.  ยอดจำหน่ายบ้านสหรัฐฯ เดือน ม.ค. 54 อยู่ที่ 5.36 ล้านหลังต่อปี
-  ยอดจำหน่ายบ้าน (Existing Home Sales) เดือน ม.ค. 54 อยู่ที่ 5.36 ล้านหลังต่อปี ขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือนที่ร้อยละ 2.7 จากเดือนก่อนหน้า (%mom_sa)  อย่างไรก็ตาม ราคาบ้าน (CaseShiller 20) เดือน ธ.ค. 53 หดตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ร้อยละ -0.4 ซึ่งเป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 สะท้อนภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ยังอยู่ในภาวะที่มีอุปทานส่วนเกินในตลาดอยู่มาก

-  สศค.วิเคราะห์ว่า นอกเหนือจากความไม่ชัดเจนในการฟื้นตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์แล้วนั้น เศรษฐกิจสหรัฐฯโดยรวมมีแนวโน้มดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งจากในภาคอุปสงค์และอุปทาน โดยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.พ. 54 เพิ่มขึ้นสูงที่สุดในรอบ 3 ปีที่ระดับ 70.4 บ่งชี้แนวโน้มที่ดีของการบริโภคภาคเอกชน

ในขณะที่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ล่าสุดเดือน ม.ค. 54 ปรับตัวขึ้นมาอยู่ระดับ 60.8 ซึ่งสูงสุดในรอบ 10 เดือน สะท้อนถึงภาคการผลิตที่มีทิศทางดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามอัตราการว่างงานที่ยังคงอยู่ระดับสูงในเดือน ม.ค. 54 ที่ร้อยละ 9.0 ของกำลังแรงงานรวมจะยังคงเป็นปัจจัยลบต่อภาคการบริโภคเอกชน ซึ่งมีสัดส่วนถึงร้อยละ 60 ต่อ GDP ต่อไป ทั้งนี้ สศค. คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทั้งปี 54 จะขยายตัวร้อยละ 2.7 ต่อปี (ช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 2.6-2.8)

ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง