เนื้อหาวันที่ : 2011-02-17 14:00:34 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 3841 views

เปิด 10 อันดับส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมปี 53

สศอ. ปลื้มปี 2553 จบสวย ทิศทางเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยเติบโตดีมากที่ 4.2% และ 7.9% คาดปี 2554 ขยายตัวต่อเนื่อง เชื่อเป็นปีทองสำหรับทั้งเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย

สศอ. ปลื้มปี 2553 จบสวย ทิศทางเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยเติบโตดีมากที่ 4.2% และ 7.9% คาดปี 2554 ขยายตัวต่อเนื่อง เชื่อเป็นปีทองสำหรับทั้งเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย

ถือว่าจบได้อย่างสวยงาม สำหรับทิศทางเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยคาดว่าจะขยายตัวได้ 4.2% และ 7.9% ตามลำดับ เป็นการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ดีมาก ซึ่งจะส่งอานิสงส์ต่อการขยายตัวอย่างต่อเนื่องใน ปี 2554 โดยกูรูเศรษฐกิจสำนักต่างๆ ได้ออกมาวิเคราะห์ไปในทิศทางที่ดี สรุปว่าเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยในปีกระต่าย จะเป็นกระต่ายทอง ไม่ใช่กระต่ายตื่นตูม แน่นอน

นางสุทธินีย์ พู่ผกา ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม หรือ สศอ. ออกมาวิเคราะห์แนวโน้มอัตราการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมในปี 2554 ว่า ปีกระต่ายทองภาคอุตสาหกรรมไทยมีโอกาสขยายตัวได้สูงอย่างต่อเนื่อง แม้จะไม่หวือหวาเท่ากับปี 2553 ที่ขยายตัวได้ 12-13% เนื่องจากฐานตัวเลขที่ขยายตัวสูงหลังจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แต่จะเป็นการขยายตัวที่เพิ่มขึ้นจากช่วงปกติก่อนเกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกครั้งล่าสุด

โดย สศอ.คาดว่าอัตราการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมจะเพิ่มขึ้น 6-8% อัตราการใช้กำลังการผลิตจะอยู่ในระดับสูงเฉลี่ย 64-66% โดยได้รับแรงหนุนจากการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะตลาดอาเซียนด้วยกันมีอัตราการเติบโตค่อนข้างสูง ทำให้เศรษฐกิจอุตสาหกรรมจะมีการขยายตัวอย่างมีคุณภาพและมีเสถียรภาพมากขึ้น หากไม่มีปัจจัยภายนอกอื่นมากระทบ

โดยปัจจัยภายในประเทศนั้นยังมีทิศทางที่ดี ทั้งการลงทุนของภาครัฐและการลงทุนของภาคเอกชนจะฟื้นตัวอย่างมีเสถียรภาพ เนื่องจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคกลับมา การจ้างงานในระบบจะมีอัตราการขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของภาคอุตสาหกรรมไทย ที่เป็นฐานการผลิตเพื่อการส่งออกไปทั่วโลก

อุตสาหกรรมสำคัญที่ส่งผลต่อการขยายตัวมีหลายสาขา เช่น การผลิตรถยนต์คาดว่าจะสามารถผลิตได้ประมาณ 1.8 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 12.50% จำหน่ายในประเทศประมาณ 800,000 คัน ส่งออกประมาณ 1 ล้านคัน อุตสาหกรรมอาหารแม้จะประสบปัญหาทางด้านวัตถุดิบแต่ก็คาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 1.3 ขณะที่อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ คาดว่าจะยังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ปัจจัยสำคัญยังคงเป็นการลงทุนในโครงการสาธารณูปโภคของรัฐบาล ซึ่งจะส่งผลทำให้การใช้ปูนซีเมนต์ในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้น

นางสุทธินีย์ ยังได้สรุปภาพรวมของการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมในปี 2553 พร้อมเจาะลึก 10 อันดับสินค้าส่งออกรายตลาดอย่างน่าสนใจ ดังนี้

ภาพรวมการส่งออกปี 2553 มีมูลค่าการส่งออกรวม 195,311.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 28.1% โดยสินค้าอุตสาหกรรม มีมูลค่าการส่งออก 150,090.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 28.9% และหากไม่รวมทองคำแท่งมีการส่งออกขยายตัว 29.7% โดยเป็นผลมาจากตลาดอาเซียนที่ขยายตัวดี คือขยายตัว 33.1%

ขณะที่ตลาดจีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป(27) และสหรัฐอเมริกาที่มีการปรับขยายตัวร้อยละ 30.8, 41.9, 30.4, 22.4 และ23.4 ตามลำดับ สอดคล้องกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า โดยสินค้าอุตสาหกรรมสาคัญที่เป็นตัวขับเคลื่อนหลักทำให้การส่งออกขยายตัวเป็นสินค้าในกลุ่มยานยนต์ เครื่องอิเล็คทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ขณะที่การส่งออกผลิตภัณฑ์ยาง เม็ดพลาสติก เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ รวมถึงสิ่งทอ ก็ปรับขยายตัวได้ดี

TOP 10 สินค้าอุตสาหกรรมส่งออกตลาดอาเซียน ปี 2553 (เทียบกับปี 2552)

TOP 10 สินค้าอุตสาหกรรมส่งออกตลาดจีน ปี 2553 (เทียบกับปี 2552)

TOP 10 สินค้าอุตสาหกรรมส่งออกตลาดญี่ปุ่น ปี 2553 (เทียบกับปี 2552)

TOP 10 สินค้าอุตสาหกรรมส่งออกตลาดฮ่องกง ปี 2553 (เทียบกับปี 2552)

TOP 10 สินค้าอุตสาหกรรมส่งออกตลาดสหภาพยุโรป ปี 2553 (เทียบกับปี 2552)

TOP 10 สินค้าอุตสาหกรรมส่งออกตลาดสหรัฐอเมริกา ปี 2553 (เทียบกับปี 2552)

ที่มา : ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงพานิชย์ โดยความร่วมมือจากกรมศุลกากร