เนื้อหาวันที่ : 2011-02-16 08:37:58 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 2123 views

ราชบุรีโฮลดิ้งลั่นพร้อมเดินเครื่องน้ำงึม 2 ปีนี้

ราชบุรีโฮลดิ้งปลื้มผลงานเข้าเป้ากำไรโตกว่า 5,000 ล้านบาท ประกาศจ่ายปันผล 63% เผยพร้อมเดินเครื่องโรงไฟฟ้าน้ำงึม 2 ในปีนี้

ราชบุรีโฮลดิ้งปลื้มผลงานเข้าเป้ากำไรโตกว่า 5,000 ล้านบาท ประกาศจ่ายปันผล 63% เผยพร้อมเดินเครื่องโรงไฟฟ้าน้ำงึม 2 ในปีนี้

บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (“ราชบุรีโฮลดิ้ง”) แถลงผลการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อยประจำปี 2553 มีกำไรสุทธิ 5,220 ล้านบาทโดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ อนุมัติจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 2.25 หรือคิดเป็นร้อยละ 63 ของกำไรสุทธิ กำหนดจ่ายเงินปันผลคงเหลืออีก 1.15 บาทในวันที่ 11 เมษายน 2554 บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าขยายการลงทุนเพิ่มในปี 2554 โดยจัดสรรเงินลงทุน 18,000 ล้านบาท ขณะที่โรงไฟฟ้าพลังน้ำ-น้ำงึม 2 ในสปป. ลาว พร้อมเดินเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าระยะแรกจำหน่าย กฟผ. ในปีนี้

นายนพพล มิลินทางกูร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การดำเนินงานในปี 2553 เป็นไปตามแผนที่วางไว้ โดยบริษัทฯ ยังรักษาการเติบโตของผลกำไรไว้ได้ที่ระดับ 5,000 ล้านบาท ขณะที่การพัฒนาโครงการที่ได้ลงทุนแล้วมีความคืบหน้าตามแผนงาน โดยเฉพาะโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ-น้ำงึม2 ได้ทำการทดสอบเครื่องกำเนิดไฟฟ้าแล้วเสร็จเมื่อปลายปีที่แล้วและพร้อมเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าจำหน่ายครั้งแรกแก่ กฟผ. ในไตรมาส 1 ปีนี้ และคาดว่าจะรับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณ 700 ล้านบาท

“เราได้จัดสรรงบประมาณ 18,000 ล้านบาทสำหรับการพัฒนาและลงทุนโครงการต่าง ๆ ในปีนี้ และคาดว่าจะสามารถซื้อโครงการขนาดใหญ่ในต่างประเทศได้ 1-2 โครงการ พร้อมทั้งเข้าร่วมทุนโครงการ SPP&VSPP ประมาณ 4 โครงการ และโครงการพลังงานทดแทน ประมาณ 10 โครงการ ซึ่งทำให้กำลังผลิตติดตั้งตามสัดส่วนการถือหุ้นของเราเพิ่มขึ้นได้อีก จากปัจจุบันที่มีอยู่ 5,500 เมกะวัตต์ เป็นโรงไฟฟ้าที่เดินเครื่องแล้ว 4,500เมกะวัตต์ และโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา 1,000 เมกะวัตต์”

สำหรับผลการดำเนินงานปี 2553 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 5,220.41 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้า 22.54% เพราะสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากำหนดให้อัตราค่าความพร้อมจ่ายต่ำกว่าปี 2552 ทำให้รายได้จากการขาย (ไม่รวมรายได้ค่าพลังงานไฟฟ้า) ปี 2553 (10,844.45 ล้านบาท) ลดลงจากปี 2552 จำนวน 1,420.43 ล้านบาท เช่นเดียวกับส่วนแบ่งกำไรจากกิจการร่วมค้าปี 2553 (1,443.13 ล้านบาท) ที่ลดลงจากปีก่อนหน้า 277.58 ล้านบาท ขณะที่ภาษีเงินได้ (1,271.91 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 440.97 ล้านบาทเนื่องจากสิทธิประโยชน์ด้านภาษีจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนของโรงไฟฟ้าราชบุรีครบกำหนดเวลา

ส่วนต้นทุนขาย (ไม่รวมค่าเชื้อเพลิง) ในปี 2553 มีจำนวน 5,009.96 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 519.13 ล้านบาท เพราะโรงไฟฟ้าราชบุรีมีการบำรุงรักษาน้อยกว่าปี 2552 เป็นผลให้ค่าอะไหล่และต้นทุนขายอื่นๆ ลดลง 338.14 ล้านบาท รวมทั้งค่าเสื่อมราคาโรงไฟฟ้าและค่าเสื่อมมูลค่าวัสดุสำรองคลัง ลดลง 111.47 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากประสิทธิภาพในการบริหารจัดการของบริษัทฯ สำหรับต้นทุนทางการเงินจากดอกเบี้ยจ่ายในปีนี้ ลดลงจากปีก่อนหน้า เป็นจำนวน 183.77 ล้านบาท เพราะการชำระคืนเงินต้นทุกไตรมาส รวมถึงอัตราดอกเบี้ยจ่ายที่ต่ำกว่าปีก่อนหน้า

“ในปีที่ผ่านมา โรงไฟฟ้าราชบุรี โรงไฟฟ้าไตรเอนเนอจี้ โรงฟ้าราชบุรีเพาเวอร์ ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าที่สร้างรายได้หลักให้บริษัทฯ มีผลการดำเนินงานอยู่ในเกณฑ์ดี โดยสามารถเดินเครื่องได้ครบชั่วโมงความพร้อมจ่ายตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าและสามารถลดค่าใช้จ่ายต้นทุนเชื้อเพลิงในการผลิตได้ดีกว่าปีที่แล้ว ซึ่งแนวทางดังกล่าวจะดำเนินการต่อเนื่องในปีนี้ตามแผนงานการรักษาความมั่นคงและประสิทธิภาพของโรงไฟฟ้า” นายนพพล กล่าวปิดท้าย