IFEC ปลื้มธุรกิจหลักแข็งแกร่งดันกำไรปี 53 โต 46% ลุ้นขยายตัวต่อเนื่องหลังทุ่มงบกว่า 100 ล้านบาทบุกพลังงานทดแทนเต็มสูบ
นายณรงค์ เตชะไชยวงศ์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ วิศวการ จำกัด (มหาชน)
IFEC ปลื้มธุรกิจหลักแข็งแกร่งดันกำไรปี 53 โต 46% ลุ้นขยายตัวต่อเนื่องหลังทุ่มงบกว่า 100 ล้านบาทบุกพลังงานทดแทนเต็มสูบ
IFEC ปลื้มผลการดำเนินงานปี 2553 กำไรโต 46.06% หลังตลาดเครื่องดิจิทัล มิลติฟังก์ชั่นเติบโตตามภาวะเศรษฐกิจ ขณะที่บริษัทฯเดินหน้าสร้างแคมเปญการตลาด ปั๊มยอดขายต่อเนื่อง ดันรายได้เพิ่มกว่า 8% ชี้ปี 2554 ธุรกิจมีโอกาสขยายตัวต่อเนื่อง เหตุรุกเข้าสู่ธุรกิจพลังงานทดแทนเต็มที่ เล็งเพิ่มสัดส่วนลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าที่ร่วมทุนกับไต้หวัน พร้อมเพิ่มทุน “ไอเฟค กรีน เพาเวอร์ พลัส” จาก 50 ล้านบาทเป็น 100 ล้านบาท เพื่อเดินเครื่องโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ หวังรับรู้รายได้ทันปีนี้
นายณรงค์ เตชะไชยวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ วิศวการ จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายเครื่องดิจิทัล มัลติฟังก์ชั่น “โคนิก้า มินอลต้า” รายเดียวในประเทศไทย เปิดเผยถึงผลประกอบการงวด 1 ปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2553 ว่า บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 100.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.85 ล้านบาทหรือ 46.06% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 69.14 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมในปี 2553 อยู่ที่ 624.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46.89 ล้านบาท คิดเป็น 8.11% จากระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งบริษัทฯมีรายได้รวม 577.67 ล้านบาท
“ในปี 2553 บริษัทฯ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีในการทำธุรกิจหลักที่เกี่ยวกับการทำตลาดเครื่องดิจิทัล มิลติฟังก์ชั่นโคนิก้า มินอล ซึ่งได้รับปัจจัยหนุนจากภาวะเศรษฐกิจไทยที่มีอัตราการเติบโตที่ดี ประกอบกับที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีของสินค้าในรูปแบบใหม่ที่รองรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภค ส่งผลให้ธุรกิจหลักของ IFEC ยังมีทิศทางการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง และสามารถรักษาอัตราการขยายตัวของธุรกิจไว้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้” นายณรงค์กล่าว
ส่วนแผนในอนาคต บริษัทฯ ยังมุ่งมั่นทำธุรกิจหลักอย่างเข้มแข็ง ภายใต้การสนับสนุนหลักจากโคนิก้า มินอลต้า จากประเทศญี่ปุ่น ที่มีเทคโนโลยีเครื่องดิจิทัล มัลติฟังก์ชั่นที่ทันสมัย ทำให้มั่นใจว่า ธุรกิจนำเข้าและเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องดิจิทัล มัลติฟังก์ชั่นแบรนด์ “โคนิก้า มินอลต้า” จะยังคงเติบโตได้ดี และได้รับการยอมรับจากลูกค้าคนไทยมากยิ่งขึ้น
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร IFEC ยังกล่าวด้วยว่า ในปี 2554 คาดว่าจะเป็นปีที่ดีของ IFEC เพราะนอกจากธุรกิจหลักยังคงมีทิศทางการเติบโตที่ดีแล้ว ยังเป็นปีแรกที่บริษัทฯ จะเริ่มรับรู้รายได้จากการธุรกิจพลังงานทดแทน โดยได้จัดตั้งบริษัท ไอเฟค กรีน เพาเวอร์ พลัส จำกัด ซึ่ง IFEC ถือหุ้น 100%
โดยล่าสุด ที่ประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งที่ 1/2554 ได้มีมติอนุมัติเพิ่มเงินลงทุนในบริษัท ไอเฟค กรีน เพาเวอร์ พลัส จำกัด จาก 50 ล้านบาท เป็น 100 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นทุนเบื้องต้นดำเนินการของโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ ขนาด 10 เมกกะวัตต์ ที่อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งโครงการนี้จะต้องใช้เงินลงทุนทั้งหมด 975 ล้านบาท โดยมีสัดส่วน เป็นเงินทุน 30% ที่เหลือเป็นเงินกู้จากสถานบันการเงิน โดยคาดว่าจะเริ่มผลิตไฟฟ้าขายให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ในช่วงระหว่างปลายเดือนกันยายนถึงตุลาคม 2554
โดยในปีแรกจะมีรายได้จากขายไฟฟ้าประมาณ 174 ล้านบาท และคิดเป็นรายได้จากการขายไฟฟ้า รวม 2,801 ล้านบาท ตลอดระยะเวลา 25 ปี สำหรับผลตอบแทนในการลงทุน (EIRR) ตลอดระยะเวลา 20 ปีจะอยู่ประมาณ 15.01%
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ บริษัทฯ ได้เข้าสู่ธุรกิจดังกล่าวด้วยการร่วมลงทุนด้วยการถือหุ้น 17% ในบริษัท อินฟินิท กรีน จำกัด โดยการใช้ผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีจากเพาเวอร์คอม กรุ๊ป (Powercom Group) ประเทศไต้หวัน โดยบริษัท อินฟินิท กรีน จำกัด ได้ลงทุนก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์โครงการแรกที่อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี บนเนื้อที่ 76 ไร่ มีกำลังผลิตไฟฟ้า 5 เมกะวัตต์ เพื่อผลิตไฟฟ้าและจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.)
“ปีนี้จะเป็นปีที่เราก้าวเข้าสู่ธุรกิจพลังงานทดแทนอย่างเต็มรูปแบบ โดยมีความเป็นไปได้ที่จะเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในบริษัท อินฟินิท กรีน ให้มากขึ้นอีก ขณะที่โครงการเราลงทุนเอง 100% ผ่านบริษัท ไอเฟค กรีน เพาเวอร์ พลัส ก็คาดว่าจะก่อสร้างโรงไฟฟ้าให้แล้วเสร็จ รวมทั้งเริ่มดำเนินการผลิตและขายไฟฟ้าให้กับ กฟภ. เพื่อรับรู้รายได้ให้ทันภายในปีนี้ ซึ่งจะส่งผลให้การดำเนินธุรกิจของ IFEC เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งมากขึ้น” นายณรงค์กล่าว