นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยหลังจากนำสื่อมวลชนเยี่ยมชมโครงการไบโอดีเซล ณ บริษัท ท่าชนะปาร์ม จำกัด และ บริษัท ทักษิณอุตสาหกรรมน้ำมันปาร์ม จำกัด จ.สุราษฏร์ธานีว่า ตามยุทธศาสตร์พลังงานของประเทศในการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน ปี 2550 กระทรวงพลังงานได้เร่งส่งเสริมและสนับสนุนการใช้ไบโอดีเซล จำนวน 5 แสนลิตรต่อวัน และปัจจุบัน ปตท. และ บางจาก ได้ขยายสถานีบริการไบโอดีเซลได้มากกว่า 300 แห่งทั่วประเทศแล้ว   โดยกระทรวงพลังงานได้ตั้งเป้าหมายส่งเสริมการผลิตไบโอดีเซล ให้ได้ 4 ล้านลิตรต่อวัน หรือทดแทนการใช้น้ำมันดีเซล ได้ 7% ภายในปี 2554  ซึ่งเมื่อรวมกับการใช้เอทานอล และก๊าซธรรมชาติในรถยนต์หรือNGV แล้ว ทั้งหมดจะสามารถทดแทนการใช้น้ำมันเบนซิน และดีเซล ได้สูงถึง 18%

สำหรับมาตรการด้านราคาจะนำเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมาสนับสนุนให้เกิดส่วนต่างเพื่อให้น้ำมันไบโอดีเซลที่จำหน่ายตามสถานีบริการถูกกว่าดีเซลมากกว่า 50 สตางค์ต่อลิตร และกระทรวงพลังงานกำลังพิจารณาปรับสูตรราคาไบโอดีเซล B100 ใหม่ เพื่อให้สะท้อนราคาน้ำมันปาล์มดิบ ราคาเมทานอล และค่ากระบวนการผลิต โดยราคาน้ำมันปาล์มดิบจะใช้ราคาภายในประเทศตามประกาศกรมการค้าภายใน และคำนึงถึงราคาน้ำมันปาล์มดิบในตลาดโลกด้วย ซึ่งสูตรราคาใหม่มาจากการกำหนดร่วมกันของบริษัทค้าน้ำมัน บริษัทผลิตไบโอดีเซล และกระทรวงพลังงาน ที่สะท้อนราคาตลาดอย่างแท้จริง จึงทำให้ราคาไบโอดีเซล B 100 เป็นที่พอใจของผู้ซื้อและผู้ขาย และเป็นธรรมกับผู้บริโภค

นอกจากนี้ เพื่อการพัฒนาคุณภาพไบโอดีเซลให้ได้มาตรฐาน กระทรวงพลังงานได้จัดทำโครงการพัฒนาคุณภาพไบโอดีเซลแก่ผู้ผลิตที่ยังไม่ได้มาตรฐาน โดยเดินสายให้คำแนะนำและความรู้ด้านวิชาการ ในการพัฒนาคุณภาพการผลิตไบโอดีเซล B100 ให้ได้มาตรฐาน เพื่อนำไปผสมกับน้ำมันดีเซล ตามประกาศของกรมธุรกิจพลังงาน เรื่อง กำหนดลักษณะและคุณภาพของไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมัน พ.ศ. 2548 ต่อไป

กระทรวงพลังงานให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการส่งเสริมพลังงานทดแทนเพราะถือเป็นนโยบายที่สำคัญ และเป็นการพึ่งพาการใช้พลังงานภายในประเทศให้เกิดประโยชน์สูงสุด อีกทั้ง พบว่า หากส่งเสริมให้มีการใช้มากเท่าไร ก็จะยิ่งช่วยลดการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศได้มากเท่านั้น ซึ่งส่งผลดีแก่คนไทยทั้งประเทศ และชาติของเราทำให้ไม่ต้องจ่ายเงินค่าพลังงานเป็นจำนวนมหาศาลและสามารถนำไปพัฒนาประเทศในด้านต่าง ๆ ต่อไป